การแข่งขันในอุตสาหกรรมชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดูเหมือนว่าจะดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ หลังค่ายบรอดคอม (Broadcom) ได้สร้างกระแสตื่นตัวจากราคาหุ้นพุ่งสูงถึง 24% ภายในวันเดียวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อ “ฮ็อก ตัน” ซีอีโอของค่ายนี้ได้ออกมาพูดถึงอนาคตอันสดใสของอุตสาหกรรมนี้ว่าจะเพิ่ม เป็นมูลค่าสูงถึง 60,000-90,000 ล้าน ดอลลาร์ในปี 2027 เพิ่มจากปีนี้ที่คาดว่าอยู่ระหว่าง 15,000-20,000 ล้านบาท และกำลังเร่งเครื่องเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมนี้ โดยค่ายเอ็นวิเดีย (Nvidia) เป็นผู้นำตลาดถึง 95%

จุดเด่นชิป AI ของ Broadcom การพัฒนาชิป ASIC ที่ออกแบบมาเฉพาะ เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบคลาวด์และการประมวลผล AI โดยเฉพาะ และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดคลาวด์และกำลังพัฒนาชิปร่วมกับบริษัทอื่น เช่น OpenAI และ แอปเปิล เป็นต้น

โดยเฉพาะแอปเปิลได้ร่วมกันพัฒนาชิปแบบกำหนดเอง (Custom AI Chips) ภายใต้ชื่อว่า Baltra เพื่อนำมาใช้ในอุปกรณ์ AI และบริการของตน โดยคาดว่าจะพร้อมผลิตออกมาจำนวนมากในอีก 2 ปีข้างหน้า

แน่นอนว่าหลังจากเปิดตัวฟีเจอร์ Apple Intelligence สำหรับ iPhone, iPad และ Mac แอปเปิลจะมุ่งพัฒนาด้าน AI อย่างมีนัยสำคัญ และมีกลยุทธ์การลดการพึ่งพาชิปจากผู้ผลิตหลายราย การร่วมมือกันพัฒนาชิป AI นี้คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างความโดดเด่นของ Broadcom ในด้านการพัฒนาชิป ASIC ต่อไป

ทางด้าน Nvidia เจ้าตลาดชิป AI มีจุดแข็งด้านการพัฒนาชิปประมวลผล GPU ที่ออกแบบมาเพื่อประมวลผลกราฟิก ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น AI, เกม หรือการประมวลผลขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การเชื่อมต่อ GPU รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมกับวิจัยและพัฒนาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาต่อเนื่อง มีกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่เกมเมอร์ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

...

อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์กันว่า การพึ่งพาชิป GPU อาจทำให้ Nvidia เสี่ยงต่อการแข่งขันจากชิป ASIC ที่ออกแบบเฉพาะ และยังมีเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายที่เป็นที่ต้องการสูงโดย Broadcom ซึ่งอาจตีตลาดในกลุ่มงานเฉพาะทางได้

แต่ชิป ASIC ก็ยังมีข้อจำกัดกับการใช้งานเฉพาะทาง ไม่สามารถทดแทน GPU ในบางแอปที่ต้องการความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูงได้

ขณะเดียวกันโอกาสของ Broadcom ยังมีจากการที่หลายๆบริษัทได้พยายามลดการพึ่งพาชิป GPU ของ Nvidia เนื่องจากชิปมีราคาแพงและมีข้อจำกัดในการผลิต

ความได้เปรียบของ Nvidia คือโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่าย ซึ่งได้รับการปรับปรุงมานานกว่าทศวรรษ การทำงานร่วมกันระหว่างระบบของ Nvidia ทำให้นักพัฒนา AI และองค์กรต่างๆเลือกใช้แพลตฟอร์มนี้

แม้จะมีตัวเลือกที่ถูกกว่า แต่การย้ายระบบไปยังชิปคู่แข่งมักมีความซับซ้อนและอาจเกิดปัญหาตามมา โดยลูกค้าองค์กรและสตาร์ตอัพด้าน AI ที่ส่วนใหญ่เลือกใช้ Nvidia เพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและคุ้มค่าในระยะยาว และการใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รองรับการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์รุ่นเดิมที่ไม่ต้องการลงทุนเพิ่มเติม

อีกไม่นานคงจะได้เห็นกันว่าทั้งสองค่ายนี้จะรักษาตำแหน่งของตัวเองได้ไหม และอาจจะมียักษ์ใหญ่จากวงการเทคโนโลยีอื่นๆ ก้าวเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเพิ่มเติมหรือไม่.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม