คาดการณ์ดิจิทัลจีดีพีของไทยปี 2567 ขยายตัว 5.7% มากกว่าการเติบโตของจีดีพีรวมของประเทศ 2.2 เท่า ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการดิจิทัลจะขยายตัว 17.2% หรือ 2.8 เท่าของการส่งออกสินค้าโดยรวมของประเทศ รมว.ดีอีแพลม ปีหน้าจะมีการประกาศการลงทุนด้าน AI และดาต้าเซ็นเตอร์จากทุนต่างประเทศ ร่วมกับเอกชนไทยมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เผยตัวเลขเศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2567 ในงาน Thailand Digital Economy 2024 ระบุ คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดิจิทัล จีดีพี (Digital GDP) ของไทยในปี 2567 จะขยายตัว 5.7% หรือคิดเป็น 2.2 เท่าของจีดีพีรวมของประเทศ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะขยายตัวที่ 2.6% รวมทั้งยังคาดว่าการส่งออกสินค้าและบริการดิจิทัล จะขยายตัว 17.2% คิดเป็น 2.8 เท่าของการส่งออกสินค้าและบริการโดยรวมของประเทศที่คาดว่าจะขยายตัว 6.1%
นายประเสริฐกล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านดิจิทัล รวมทั้งเร่งผลักดันภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยได้มีการส่งเสริมการลงทุนเรื่องบริการคลาวด์ (Cloud services) และดาต้า เซ็นเตอร์ (Data Center) ตลอดจนการลงทุนที่เกี่ยวข้องด้านดิจิทัล ซึ่งเชื่อว่าส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลขยายตัวได้อย่างดีในปีนี้ สูงกว่าเศรษฐกิจโดยรวม 2 เท่าตัว
“ปีหน้าเรายังจะมีการประกาศการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และดาต้าเซ็นเตอร์จากต่างประเทศเพิ่มอีก 2 ราย คาดว่าจะมีมูลค่ารวมกันกว่า 100,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนร่วมกับภาคเอกชนของไทย ซึ่งจะเปิดเผยในระยะต่อไป”
ด้านนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือคณะกรรมการดีอี เปิดเผยว่า Broad Digital GDP (CVM) หรือมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลแบบกว้าง มีมูลค่า 4.44 ล้านล้านบาท ขยายตัว 5.7% จากปี 2566 หรือขยายตัว 2.2 เท่าของการขยายตัวของจีดีพีรวมของประเทศ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญเติบโต
...
ส่วนการลงทุนด้านดิจิทัลภาคเอกชน (CVM) ขยายตัว 2.8% จากปี 2566 แบ่งเป็นการลงทุนด้านดิจิทัลภาครัฐขยายตัวที่ 4.5% ด้านการบริโภคภาคเอกชนในอุตสาหกรรมดิจิทัลขยายตัว 5.6% สูงกว่าการขยายตัวของการบริโภคของประเทศที่เท่ากับ 4.8% โดยการบริโภคในอุตสาหกรรมดิจิทัลของภาครัฐขยายตัว 11.4% จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของประเทศ ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการอุตสาหกรรมดิจิทัลในปี 2567 ขยายตัว 17.2% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 5.1%
เช่นเดียวกับการนำเข้าสินค้าและบริการดิจิทัลที่ขยายตัว 9.0% เพิ่มขึ้นจาก 3% ในปี 2566 เนื่องจากประเทศไทยยังคงพึ่งพาสินค้าดิจิทัล ทั้งที่เป็นสินค้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นสุดท้าย ตลอดจนสื่อดิจิทัลคอนเทนต์จากต่างประเทศ ทำให้เมื่อการส่งออกสินค้าขยายตัว การนำเข้าก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนภาคการผลิตพบในปี 2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศด้านดิจิทัลขยายตัว 5.71% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 2.75% โดยอุตสาหกรรมที่ขยายตัวสูงสุด 2 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (+12.64%) และอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (+10.00%) โดยเมื่อวิเคราะห์ที่มาของการเติบโต (Source of growth) พบว่าเกือบ 80% ของการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศด้านดิจิทัล เป็นผลจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (+1.90%) อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล (+1.36%) และอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ (+1.27%) ตามลำดับ “การขยายตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีผลต่อการเติบโตสูงเกือบ 1 ใน 3 ของการขยายตัวทั้งหมด โดยกิจกรรมการผลิตที่ขยายตัวสูงในปีนี้ ได้แก่ การผลิตเคเบิลเส้นใยนำแสง การขายส่งและการขายปลีกโทรศัพท์ และอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคม”
นายเวทางค์กล่าวอีกว่า ในปี 2567 พบว่าการลงทุนด้านดิจิทัลภาคเอกชนยังไม่ขยายตัวเท่าใดนัก แต่เชื่อว่าในปี 2568 และปี 2569 การลงทุนด้านดิจิทัลภาคเอกชนจะฟื้นตัวและเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม