แอปเปิล ได้อัปเดต Apple Watch Ultra 2 ซึ่งเป็นที่สุดของนาฬิกาสปอร์ตและการผจญภัยใหม่ มาในรูปแบบผิวสัมผัสไทเทเนียมดำใหม่ ที่เพิ่มความสวยงามสะดุดตาและความรู้สึกที่เข้มข้น สะท้อนการใช้งานในกิจกรรมกลางแจ้งที่ดูแข็งแรงและผจญภัยได้มากขึ้น
ทางทีมงานได้รับ Apple Watch Ultra 2 แบบไทเทเนียมดำมาทดสอบการใช้งานช่วงสั้นๆ และมารีวิวการใช้งาน กัน การอัปเดตใหม่ที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือการออกแบบสีใหม่ รวมถึงสายใหม่ที่เป็นไทเทเนียมที่ออกแบบมาแตกต่างไปจากสายรุ่นเดิมและดูลงตัวเข้ากันได้ดี กับนาฬิกา
...
ทันทีที่สัมผัสรู้สึกถึงความทนทานและสวยงามหรูหราจากไทเทเนียมใหม่ที่เกิดจากกระบวนการพ่นทรายแบบเฉพาะและการเคลือบผิวด้วยไอสารโดยใช้คาร์บอนที่มีลักษณะคล้ายเพชรบนไทเทเนียมเกรด 5 (Black Diamond-Like Carbon) เพื่อให้ทนทานและทนต่อรอยขีดข่วน
ขณะที่ด้านหลังแบบคริสตัลนั้นทำมาจากเซอร์คอเนียสีเข้มที่เข้ากัน ขณะที่ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียม 95% มีขนาดเดียวคือ 49 มม. มาพร้อมกับทางเลือกสายนาฬิกา Milanese Loop ไทเทเนียมใหม่ เป็นสายโลหะรุ่นแรกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตาข่ายที่นักดำน้ำเคยใช้ในอดีต
ตัวสายทอจากไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศเช่นเดียวกับตัวเรือน มีน้ำหนักเบาและทนต่อการกัดกร่อน ผ่านกระบวนการเฉพาะของการทอ การทำให้แบนเรียบ การเชื่อมด้วยเลเซอร์ การเจียระไน และการขัดเงาลวดไทเทเนียมจนเกิดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดที่สอดประสานกันอย่างแม่นยำและโอบรอบข้อมือ พร้อมหัวเข็มขัดแบบร่มชูชีพที่มีปุ่มสองปุ่มซึ่งปลอดภัยเพียงพอสำหรับกีฬาทางน้ำทุกประเภท
หน้าจอ Apple Watch Ultra 2 ให้ความสว่างถึง 3,000 นิต ซึ่งสว่างสูงสุดในบรรดานาฬิกาในตระกูลแอปเปิลทั้งหมด ซึ่งช่วยให้การใช้งานที่มีสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่มีแสงจ้าก็ยังเห็นจอได้ชัดเจน หรือแม้แต่จะมีกิจกรรมในช่วงกลางคืนก็ตาม
ความแม่นยำของ จีพีเอส ใช้โมเดลสำหรับดาวเทียมและสัญญาณ ที่มีอัลกอริทึมแบบเฉพาะสำหรับระบุตำแหน่งและข้อมูลจาก Apple Maps ที่แสดงแผนที่ ระยะทางและตัวชี้วัดได้แม่นยำ เหมาะสำหรับการออกกำลังกายแบบฮาร์ดคอร์และการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
พร้อมกับแบตเตอรี่ใช้งานกิจกรรมผ่านแอปได้ยาวนานติดต่อกันถึง 12 ชั่วโมง และสูงสุดถึง 35 ชั่วโมง เมื่ออยู่โหมดประหยัดพลังงานหากเปิดใช้งานปกติทั่วไป หน้าจอติดตลอด การแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ แบตอยู่ได้นานถึง 36 ชั่วโมง
...
Apple Watch Ultra 2 เมื่อใช้งานร่วมกับ watchOS 11 สามารถ ปรับแต่งปุ่มแอ็กชัน ปุ่มสีส้มด้านข้างซ้ายสามารถปรับแต่งแอป Workout เพื่อเริ่มออกกำลังกายสลับประเภทการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น การกดปุ่มค้างไว้สามารถเข้าถึงการใช้แอปต่างๆได้รวดเร็ว ไม่ต้องสลับคุณสมบัติต่างๆทุกครั้ง เพื่อการใช้งานสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ watchOS 11 ยังมีแอป Vitals หรือแอปสัญญาณชีพใหม่สามารถดูตัวชี้วัดสุขภาพตอนกลางคืน เพื่อทำความเข้าใจสถานะสุขภาพของคุณในแต่ละวันให้ดียิ่งขึ้นได้ รวมทั้งแอป Tides หรือแอปน้ำขึ้นน้ำลงใหม่ การพยากรณ์และติดตามน้ำขึ้นลงของชายหาดทั่วโลกของชายฝั่งทะเลและจุดเล่นเซิร์ฟของนักเล่นเซิร์ฟทั่วโลกได้ต่อเนื่อง 7 วัน
นอกจากนี้ในซีรีส์นี้ทางแอปเปิลยังได้แนะนำรุ่นพิเศษ Apple Watch Hermès Ultra 2 ที่มีดีไซน์และฟังก์ชันผ่านแรงบันดาลใจจากท้องทะเล กับสิ่งทอโทนสีเข้มล้ำลึก วัสดุอันหรูหรา กับหน้าปัด Hermès Maritime คือหน้าปัดนาฬิกาแบบดิจิทัล
...
ครั้งแรกของแบรนด์ Hermès ที่มาพร้อมตัวเลขกราฟิกแบบ Cape Cod โดยขอบหน้าปัดจะแสดงวินาที และเมื่อกดปุ่มแอ็กชันก็สามารถเริ่มนับเวลาถอยหลังแบบ Regat ta เพื่อใช้จับเวลาในตอนที่ล่องเรือหรือขึ้นฝั่งแล้วได้ง่ายๆ
มาพร้อมกับสายแบบ En mer ในลุคสปอร์ต ผลิตจากผ้าถักลายนูนสี Bleu Nuit ที่ทนน้ำได้ ซึ่งมีลวดลายที่สะท้อนให้นึกถึงคลื่นทะเล พร้อมสัญลักษณ์ตัว “H” ที่แฝงไว้อย่างเรียบหรู และหัวล็อกไทเทเนียมที่เข้ากันซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะ
บทสรุปของ Apple Watch Ultra2
หากจะเทียบกันแล้วระหว่างไทเทเนียมดำ และไทเทเนียมธรรมชาติเดิม แล้วแต่รสนิยมความชอบของแต่ละบุคคล แต่อาจจะเป็น เพราะความ ใหม่สดของ Apple Watch Ultra 2 ไทเท เนียม ดำใหม่นี้ มาพร้อมกับสายใหม่ จึงดูสวยงามกว่า สีเข้มดูแข็งแรง สมบุก สมบันกว่า สีไทเทเนียมธรรมชาติเดิม
สายใหม่ Mila nese Loop ไทเทเนียมทื่ออกแบบใหม่มาในช่วงแรกการสวมใส่ยังไม่ค่อยชิน ดูเหมือนจะยากๆ แต่สักวันสองวันเริ่มคุ้นการล็อก และปลดล็อก แต่โดยภาพรวมแล้วคู่กับนาฬิกาสีดำใหม่ดูเข้มลงตัวมากๆ
...
แต่สายนี้เป็นทางเลือกที่จะต้องจ่ายเพิ่มพร้อมนาฬิกาในราคา 33,900 บาท สำหรับรุ่นพิเศษ Apple Watch Hermès Ultra ราคา 50,500 บาท แต่สำหรับคนที่มี Ultra 2 ไทเทเนียม ธรรมชาติเดิมอยู่แล้ว อยากจะแค่เปลี่ยนสายก็ต้องควักจ่ายที่ราคา 7,800 บาท ซึ่งราคาค่อนข้างสูงทีเดียว
แต่หากไม่อยากได้สายใหม่ Apple Watch Ultra 2 ไทเทเนียมดำใหม่ กับสายเดิมๆ อย่าง Alpine Loop, สาย Trail Loop และ สาย Ocean Band จะมีราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้นาฬิกาแนวสปอร์ตที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม