แอปเปิลปล่อยอัปเดตระบบปฏิบัติการสำหรับทุกอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น iOS 18, iPadOS 18, macOS Sequoia และ watchOS 11 ให้กับผู้ใช้งานทุกคน โดยมีฟีเจอร์เด่นนั่นคือการนำศักยภาพของ generative AI มาให้บริการ
หลังจากเปิดตัว iPhone 16 และ iPhone 16 Pro อย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างต่อไปที่จะเกิดขึ้นคือ การปล่อยอัปเดตของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ให้กับอุปกรณ์ทุกรุ่นทุกประเภทของแอปเปิล เริ่มตั้งแต่ iOS 18, iPadOS 18, macOS Sequoia และ watchOS 11
จุดเด่นของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่นี้เป็นการนำเทคโนโลยีเอไออย่าง Apple Intelligence มาใช้ แม้ในตอนนี้จะยังใช้งานไม่ได้ก็ตาม ต้องรอจนถึงการอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 18.1 ในเดือนตุลาคมนี้เสียก่อน ซึ่งจะเริ่มจากสหรัฐอเมริกา แล้วค่อยๆ เปิดตัวในตลาดต่างประเทศที่ใช้งานภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร
...
จากนั้นจะเพิ่มการรองรับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สเปน และอังกฤษแบบอินเดีย
ฟีเจอร์ Apple Intelligence รองรับเฉพาะผู้ใช้งานที่ถือ iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max, iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max เท่านั้น
จุดขายหลักอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการ iOS 18 คือการปรับแต่งส่วนบุคคล เปิดโอกาสให้ปรับแต่งไอคอนได้เอง รวมถึงการเปลี่ยนโฉมของ Control Center และเพิ่มระบบการล็อกแอปพลิเคชัน
ในเวลาเดียวกัน iOS 18 ได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนปุ่มลัดบนหน้าจอล็อกสกรีน เช่น จากแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพของแอปเปิลไปเป็นแอปกล้องของบริษัทอื่นๆ
สำหรับระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น macOS Sequoia บนเครื่อง Mac รองรับการใช้งาน iPhone Mirroring และแอปพลิเคชัน Passwords
iPadOS 18 มีความน่าสนใจตรงที่การรองรับแอปพลิเคชันเครื่องคิดเลขเป็นครั้งแรก พร้อมความสามารถในการแก้สมการทางคณิตศาสตร์ และการปรับปรุงพื้นที่ Control Center
สุดท้ายเป็น watchOS 11 เพิ่มข้อมูลด้านสุขภาพเชิงลึก มีฟังก์ชัน Training Load เตรียมความพร้อมให้กับคนที่จะออกกำลังกาย หรือแม้แต่การเตรียมตัวลงแข่งมาราธอน และเพิ่มระบบแปลภาษาลงบนนาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้