การ์ทเนอร์เผยเทคโนโลยีที่ควรจับตา ในรายงานวงจรเทคโนโลยีเกิดใหม่ ปี 2567 หรือ Hype Cycle for Emerging Technologies, 2024 อยู่ใน 4 ธีมหลัก ได้แก่ Autonomous AI, Developer Productivity, Total Experience และ Human-Centric Security and Privacy Programs

อรุณ จันทรเศกการัน รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า Generative AI ก้าวข้ามจุดสูงสุดไปแล้ว และกำลังเปลี่ยนไปสู่การใช้งานจริง (Used Case) ที่ต้องตอบโจทย์การลงทุน ซึ่งสิ่งนี้กำลังเร่งให้เกิด Autonomous AI ซึ่งเป็น AI ที่สามารถทำงานและปรับปรุงได้ด้วยตัวเอง โดยพึ่งพามนุษย์น้อยที่สุด

จากรายงานวงจรเทคโนโลยีเกิดใหม่ (The Hype Cycle for Emerging Technologies) ของการ์ทเนอร์ ที่เกิดจากการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกของเทคโนโลยีและกรอบการทำงาน (Frameworks) หลักๆ มากกว่า 2,000 รายการ จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี ผ่านการรวบรวมเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่มีความน่าสนใจที่ผู้บริหารและอุตสาหกรรม “ต้องรู้” ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ในอีก 2-10 ปีข้างหน้า ซึ่งอยู่ใน 4 ธีมหลัก ได้แก่

1.Autonomous AI : วิวัฒนาการที่รวดเร็วของ AI กำลังสร้างระบบ Autonomous AI ที่สามารถทำงานและปรับปรุงได้ด้วยตัวเองโดยพึ่งพามนุษย์น้อยที่สุด และยังตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ซึ่งระบบ AI ขั้นสูงที่สามารถทำงานแบบเดียวกับมนุษย์นั้นกำลังกลายเป็นจริง เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่อยู่ในธีมนี้ ประกอบด้วย Multiagent Systems, Large Action Models, Machine Customers, Humanoid Working Robots, Autonomous Agents และ Reinforce ment Learning

...

2.Developer Productivity : ประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา ไม่ได้หมายถึงการเขียนโค้ดอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การรู้สึกถึงความตั้งใจในการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ และสนุกไปกับการทำงาน หรือที่เรียกว่าอยู่ในภาวะที่มีสมาธิการทำงานสูง (Flow State) “เทคโนโลยีกำลังปฏิวัติวิธีที่นักพัฒนาใช้ออกแบบและส่งมอบซอฟต์แวร์ นอกจากทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้มั่นใจว่าสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุดในการทำงานร่วมกันที่ไหลลื่น” เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลและอยู่ในธีม Developer Productivity ประกอบด้วย AI-Augmented Software Engineering, Cloud-Native, GitOps, Internal Developer Portals, Prompt Engineering และ WebAssembly

3.Total Experience : ประสบการณ์เต็มรูปแบบ หรือ Total Experience เป็นกลยุทธ์ที่สร้างประสบการณ์ร่วมกันที่เหนือกว่า โดยผสมผสานประสบการณ์ลูกค้า ประสบการณ์พนักงาน ประสบการณ์ที่เป็นแนวทางปฏิบัติของผู้ใช้งาน กลยุทธ์นี้ใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการกับการโต้ตอบเป็นสำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับทั้งลูกค้าและพนักงาน ภายใต้เป้าหมายสร้างความมั่นใจ ความพึงพอใจ ความภักดี เพิ่มการสนับสนุนที่มากขึ้น สำหรับเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่อยู่ในธีมนี้ ประกอบด้วย Digital Twin of a Customer, Spatial Computing, Superapps และ 6G

4.Human-Centric Security and Privacy : องค์กรจะยืดหยุ่นมากขึ้น หากใช้เทคนิคด้านการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ที่สร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการตระหนักถึงความเสี่ยงร่วมกันระหว่างทีม “บ่อยครั้งที่แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย มักอาศัยหลักการที่ว่ามนุษย์สามารถประพฤติตนได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง แต่เมื่อต้องเลือกระหว่างความปลอดภัยและการให้บริการ พวกเขามักเลือกการให้บริการเสมอ บางครั้งข้ามขั้นตอนการควบคุมความปลอดภัยที่เข้มงวด” เทคโนโลยีเกิดใหม่ที่อยู่ในธีม Human-Centric Security and Privacy ได้แก่ AI TRiSM, Cybersecurity Mesh Architecture, Digital Immune System, Disinformation Security, Federated Machine Learning and Homomorphic Encryption

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม