วันเสาร์สบายๆ วันนี้ตรงกับ “วันอาสาฬหบูชา” วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา วันที่ พระพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” แก่ ปัญจวัคคีย์ หลังจากที่ทรงตรัสรู้แล้ว ส่งผลให้ โกณฑัญญะ ดวงตาเห็นธรรมบรรลุเป็นโสดาบันของอุปสมบทเป็น พระภิกษุองค์แรกในโลก เกิดเป็น พระรัตนตรัย มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครบองค์

พระพุทธเจ้า ทรงสอนอะไรใน ปฐมเทศนา จึงทำให้ พระโกณฑัญญะ บรรลุโสดาบัน

ปฐมเทศนาที่ พระพุทธเจ้า ทรงสอน ปัญจวัคคีย์ ก็คือ อริยสัจ 4 ที่ทรงตรัสรู้ อันได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “ทุกข์” กันนะครับ “ทุกข์ในอริยสัจ” ถือเป็น “ความจริงอันประเสริฐข้อที่ 1” เรียกว่า “ทุกขสัจ” ทุกข์ในอริยสัจมีอยู่ด้วยกัน 11 อย่าง ตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปจนถึง ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น ล้วนก่อให้เกิดทุกข์ทั้งสิ้น

หนึ่งในทุกขสัจคือ มรณะ หรือ ความตาย ซึ่งไม่มีใครหนีพ้น แม้แต่ พระพุทธเจ้า ก็ทรงดับขันธ์ แต่ พระพุทธเจ้า ดับขันธ์แล้วทรงปรินิพพานไม่ไปเกิดอีก แต่มนุษย์โลกธรรมดาอย่างเราตายแล้วไปเกิดใหม่ทันที จะเกิดเป็นอะไรก็แล้วแต่กรรมที่ทำไว้ในชาตินี้

การไปเกิดใหม่นั้น พระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่า การเกิดมี 4 ประเภท คือ เกิดในครรภ์มารดา เกิดในไข่ การเกิดสองประเภทแรกนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ส่วนการเกิดประเภทที่สาม เกิดในเถ้าไคล ต้องอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์จึงจะมองเห็น เช่น จุลินทรีย์ต่างๆ ประเภทที่สี่ พวกที่เกิดแล้วโตทันที ไม่สามารถมองเห็น และไม่มีเครื่องช่วยในการมองเห็น คนจึงคิดว่าไม่มี แต่ซ้อนอยู่ในมิติอื่นหรือภพภูมิอื่น เพราะนอกเหนือจากมนุษย์และสัตว์เดรัจฉานแล้ว ยังมีภพภูมิของ พรหม เทวดา เปรต อสุรกายและสัตว์นรกอื่นๆที่เกิดแล้วโตทันที การเกิดแบบนี้เรียกว่า “โอปปาติกะ” คือ เกิดโดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ อาศัยแต่อดีตกรรมอย่างเดียว เกิดจากใจที่ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ การเกิดใหม่เป็นไปอย่างรวดเร็วแบบผุดโผล่ขึ้นมา มีตัวตนสมบูรณ์เหมือนก่อนตาย

...

เขียนถึงการเกิดแบบ “โอปปาติกะ” แล้ว ผมก็นึกถึงข่าวนวัตกรรม ทางเทคโนโลยีที่ได้อ่านจาก VOA เมื่อเดือนที่แล้ว เป็นข่าว AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ที่จะมาทำหน้าที่แทนชีวิตหลังความตาย ทำให้คนที่ตายไปแล้วเหมือนยังอยู่เป็นอมตะ

เนื้อข่าวรายงานว่า มีบริษัทหลายแห่งได้ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI สร้าง “เพื่อนคุย” ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น Project December แชตบอตที่เกิดจากการให้ข้อมูลของลูกค้าเกี่ยวกับญาติหรือเพื่อน จากนั้นลูกค้าคนนั้นก็จะมีโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ของตนเอง ส่งข้อความคุยกับเพื่อนหรือญาติได้ตลอดเวลา ส่วน Storyfile และ HereAfter AI ก็เป็นแชตบอตจากข้อมูลสนทนาของบุคคลในรูปแบบวิดีโอ เป็นต้น

ล่าสุดมีคนคิดสร้าง แชตบอตคุยกับคนรักที่ตายไปแล้ว เรียกว่า Deadbots

ไมเคิล บอมเมอร์ วัย 61 ปี เป็นนักธุรกิจในวงการสตาร์ตอัพในกรุงเบอร์ลิน เขาป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย ได้ร่วมกับ บริษัท Eternos สร้าง AI ที่เป็นเสียงของเขาเอง เพื่อให้ภรรยา เอเนตต์ บอมเมอร์ สามารถสนทนากับเขาผ่านปัญญาประดิษฐ์เมื่อเขาตายไปแล้ว ไมเคิลบอกว่า เขาไม่ได้ต้องการให้ตัวเองมีสถานะเป็นอมตะ ถ้าเขาอยากทำให้คนจดจำ เขียนหนังสือเกี่ยวกับตัวเองน่าจะได้ผลมากกว่า

Eternos ที่สร้าง AI ให้กับครอบครัวบอมเมอร์ กล่าวว่า การสร้างเอไอเสียงมีค่าใช้จ่ายราว 15,000 ดอลลาร์ ระบบจะอัดเสียงลูกค้า 300 ข้อความ เช่น ผมรักคุณ หรือ ฉันรักคุณ จากนั้นผู้ใช้จะฝึกโปรแกรมให้รู้จักความเป็นตัวตนของผู้ใช้ เวลาคุยจะได้รู้สึกเหมือนคุยกับคนที่เรารัก

แต่สัจธรรมความจริงก็คือ มนุษย์ตายแล้วไปเกิดใหม่ทันทีตามกฎแห่งกรรม แต่วันนี้ คนที่ยังอยู่สามารถใช้เทคโนโลยี AI ให้คนรักกลับมาพูดคุยกับเราได้ตลอดเวลา ก็เป็นความสุขอีกรูปแบบที่น่าสนใจ ดีกว่านอนเหงาเฉาตายอยู่คนเดียวอย่างเดียวดายครับ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม