ทีเอสเอ็มซี ออกแถลงการณ์ไม่พบความเสียหายขั้นรุนแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตชิปเซตขั้นสูง หลังเกิดแผ่นดินไหวในไต้หวันที่รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และบาดเจ็บนับพันคน

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรใกล้ไต้หวัน ที่วัดระดับความรุนแรงได้ 7.2 แมกนิจูด นับเป็นความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 1999 ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 9 ศพ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1,038 คน ไม่สามารถติดต่อได้อีก 52 คน 

ขณะเดียวกัน แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีที่สำคัญของไต้หวัน โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตชิปเซตชั้นนำของโลกอย่างทีเอสเอ็มซี ซึ่งรายงานว่า บุคลากรทั้งหมดของบริษัทที่อยู่ใกล้พื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวปลอดภัยทุกคน แต่บริษัทได้มีการอพยพพนักงานตามแผนความปลอดภัย

ในช่วงค่ำของวันที่ 3 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่นไต้หวัน ทีเอสเอ็มซี ระบุว่า เครื่องมือที่ใช้ผลิตชิปเซตในโรงงานได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเล็กน้อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานเพียงบางส่วน แต่ไม่พบความเสียหายของอุปกรณ์สำคัญ โดยเฉพาะเครื่อง Extreme Ultraviolet (EUV) เครื่องไม้เครื่องมือสำคัญสำหรับการผลิตชิปเซตป้อนให้กับอุตสาหกรรมเอไอ และสมาร์ทโฟน

ทีเอสเอ็มซี เปิดเผยต่อไปว่า เครื่องมือที่ใช้ผลิตชิปจำนวนกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ สามารถฟื้นตัวกลับมาใช้งานได้ตามปกติในเวลา 10 ชั่วโมง หลังเกิดแผ่นดินไหว ขณะเดียวกัน การฟื้นการทำงานของอุปกรณ์ในโรงงานผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดของบริษัท ซึ่งเรียกว่าโรงงาน Fab 18 ในเมืองไถหนานทางตอนใต้ของไต้หวัน ได้ฟื้นคืนกำลังการผลิตแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

โรงงานที่เมืองไถหนานเป็นโรงงานที่มีความไฮเทคมากที่สุดแห่งหนึ่งของทีเอสเอ็มซี โดยเป็นโรงงานที่ผลิตชิปเซตขนาด 5 นาโนเมตร และ 3 นาโนเมตร รวมถึงเป็นโรงงานที่ป้อนชิปให้กับแอปเปิล และเอ็นวิเดีย อีกด้วย

...

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของนิกเกอิ เอเชีย เปิดเผยว่า แผ่นเวเฟอร์สำหรับใช้ผลิตชิปภายในโรงงานของทีเอสเอ็มซีที่นครซินจู๋ ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง และเครื่องจักรต้องหยุดทำงาน ซึ่งมีโอกาสที่พนักงานอาจต้องทำงานในวันหยุด เพื่อชดเชยจากการผลิตที่ต้องหยุดพักไป

ที่มา: Nikkei AsiaQZ

ภาพ: AFP