เปิดแผนเชิงรุกของ ออปโป้ (OPPO) แบรนด์มือถือรายใหญ่ของจีน ที่พร้อมท้าชนคู่แข่ง ชิงตลาดมือถือจอพับของเมืองไทย และทั่วโลก เล็งวัยรุ่น Gen Z ดันแบรนด์เติบโต
"OPPO พร้อมทุ่มหมดหน้าตัก เพื่อก้าวเป็นที่ 1 ของตลาดสมาร์ทโฟนหรือมือถือจอพับ แม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นทำตลาด" นี่คือข้อสรุปส่วนหนึ่ง จากการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร OPPO "บิลลี่ จาง" ประธานกรรมการฝ่ายขาย และบริการระดับภูมิภาค ในโอกาสเปิดตัวมือถือจอพับรุ่นแรกในไทย คือ รุ่น OPPO Find N2 Flip ที่ บิลลี่ จาง ใช้คำว่า All in สำหรับงานนี้เต็มที่ จากสถานะตอนนี้ของ OPPO มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่อันดับ 4 ของตลาดโลก และอันดับ 1 ในประเทศภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก (APEC)
แล้วทำไม OPPO ถึงมั่นใจ ที่จะทุ่มหมดหน้าตักในการขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งของมือถือจอพับ ทั้งที่มีคู่แข่งอยู่แล้วอย่างซัมซุง (Samsung) แล้วอะไรคือ เป้าหมายที่สำคัญของ OPPO ในปี 2023
...
บิลลี่ จาง กล่าวว่า OPPO การตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้งานมือถือทั่วโลก จะยึด 3 ปัจจัยหลัก ที่จะทำให้แบรนด์ OPPO เหนือคู่แข่ง คือ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการบริการ และที่สำคัญคือ ความพร้อมในการเจาะกลุ่มเป้าหมายเจเนอเรชันใหม่ที่เรียกว่า Gen Z เพื่อทำให้ OPPO เป็นแบรนด์ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อ
แต่ในสนามการแข่งขัน ที่ทุกแบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันอย่างกลุ่ม Gen Z โดยทาง OPPO มองว่า "Gen Z" นี้มีไลฟ์สไตล์ที่แอกทีฟ ตื่นเต้น และสนุกไปกับการใช้สมาร์ทโฟน ด้วยฟังก์ชั่นของมือถือรุ่นใหม่ ซึ่งรูปทรงจอพับไม่ใช่คุณสมบัติเดียวในการตอบโจทย์ความต้องการ แต่ฟังก์ชั่นต่างๆ ก็ต้องเป็นที่ต้องการของกลุ่ม Gen Z ด้วย ซึ่ง OPPO มั่นใจว่ายังไม่มีแบรนด์ไหนทำได้ ด้วยเหตุผลนี้ที่ทำให้ OPPO เชื่อว่ากลุ่ม Gen Z จะช่วยดันมือถือจอพับแบรนด์ OPPO ได้อย่างดี
ส่วน OPPO Find N2 Flip มี ความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะมือถือจอพับของซัมซุงที่บุกตลาดไปก่อนหน้านี้
บิลลี่ จาง ได้อธิบายจุดเด่นของ OPPO Find N2 Flip ว่าเป็นมือถือจอพับรุ่นแรกของ OPPO ภายใต้แนวคิด "พับที่ดีกว่า" ซึ่งแก้จุดอ่อนเกี่ยวกับมือถือจอพับที่ผู้บริโภคยังมองหา หรือต้องการให้มี (Pain Point) ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจความต้องการของคนที่เคยใช้โทรศัพท์มือถือจอพับ เช่น วัสดุ แบตเตอรี่ที่ใช้นาน ขนาดหน้าจอ รอยพับที่เนียนกว่า
"เมื่อเปรียบเทียบสินค้าต่างๆ กับอาหาร สินค้าที่ดี เปรียบเสมือนอาหารที่ดี แต่ต้องใช้เวลารอ ดังนั้นการมาทีหลัง แต่ได้ประสบการณ์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง เท่ากับตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดีกว่า" บิลลี่ จาง กล่าว
แม้จะมีความต่าง แต่บางอย่างก็เหมือน อย่างเช่นก่อนหน้านี้ Samsung Z Flip 4 มีสีม่วง แต่ OPPO Find N2 Flip ที่ตามมา ก็มีสีม่วงเช่นกัน เป็นความตั้งใจหรือไม่ที่ทำให้เหมือนกันหรือไม่
เรื่องนี้ผู้บริหาร OPPO บอกว่า จริงๆ การเลือกสีของเราเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะตัวเลือกมีถึง 6-7 สี และเราก็เลือกเพียงแค่ 2 สี ที่คิดว่าพรีเมียมที่สุดเท่านั้น โดยไม่ได้คำนึงถึงคู่แข่งสักเท่าไร และมาจากสำรวจวิจัยว่า กลุ่มเป้าหมายชอบสีอะไร แม้จะเป็นสีม่วงเหมือนกัน แต่สีม่วงก็มีหลายเฉด และทีมดีไซน์มองว่าเฉดนี้ของ OPPO ดูไฮเอนด์มีคามแวววาวกำลังดี ถ้าเข้มหรืออ่อนไปจะไม่สวยเท่านี้แน่นอน
จากนี้ OPPO มองเทรนด์การใช้มือถือในปี 2023 ที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
บทสรุปของ บิลลี่ จาง คือ นอกจากรูปร่างของตัวเครื่องมือถือ ที่จะมีทั้งจอพับแนวตั้ง และแนวนอนพับสไลด์ ยังมีเรื่องของการพัฒนาซอฟต์แวร์ และอัลกอริทึม ที่หลายอย่างยังต้องใช้เวลาในการพัฒนา ประเด็นสำคัญ ยังเป็นเรื่องบริการที่แบรนด์ต้องมีความซื่อสัตย์กับผู้บริโภคทั้งคุณภาพวัสดุ และการบริการหลังการขาย
...
จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ซึ่ง OPPO มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 4 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเปก เป้าหมายจากนี้ OPPO ต้องการขยับสู่เบอร์ต้นๆ ของอุตสาหกรรมนี้
งานนี้เป้าหมายจะตั้งไว้อย่างไร เป็นเรื่องต้องลุ้นกันต่อ และความสำคัญคือ ผลลัพธ์ในอนาคตที่ในอุตสาหกรรมนี้มีการแข่งขันสูง และผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย