เอไอเอส บิสซิเนส ครองแชมป์ ผู้ให้บริการเบอร์ 1 สําหรับองค์กรธุรกิจ วางเป้า 2023 ดันโซลูชันบนโครงข่าย 5G หนุนทุกอุตสาหกรรมเติบโต

กว่า 3 ปีที่องค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ต้องรับมือและปรับตัวกับการมาถึงของโควิด จนกระทั่งวันนี้ที่ภาพรวม พบว่าองค์กรส่วนใหญ่สามารถปรับตัวจนพร้อมที่จะเดินหน้าต่อในบริบทของโลกใหม่เรียบร้อย และพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และทรานสฟอร์มองค์กร เพื่อให้สามารถยกระดับองค์กรสร้างการเติบโตและรับมือกับการแข่งขันได้อย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ภาคการผลิต ธุรกิจ ขนส่ง Logistics และผู้ให้บริการทางการเงิน

ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า “ตัวช่วยที่จะตอบโจทย์ดังกล่าวคือ ผู้ให้บริการที่ต้องมีทั้งโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลด้าน 5G และโซลูชัน ทั้งนี้จากผลสํารวจของกลุ่มผู้ประกอบการ องค์กรธุรกิจต่างๆ กว่า 200 องค์กร โดย Global Data ยกให้ AIS Business เป็นผู้ให้บริการสําหรับองค์กรและธุรกิจ ในฐานะโอเปอเรเตอร์ โดยในปีที่ผ่านมา AIS Business ยังคงเป็นผู้เล่นที่สร้าง ความเคลื่อนไหวด้วยการทํางานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอยู่ตลอดเวลา”

“สําหรับเทรนด์ความต้องการในปีนี้ องค์กรส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทาง IT ที่ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เข้ามาช่วยบริหารจัดการควบคุม ความมั่นคงปลอดภัยของ Data รวมถึง ยังมุ่งหาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยให้เกิดการดําเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลที่ดี”

ทําให้ในปีนี้การทํางานของ AIS Business มุ่งสร้าง Digital Business Ecosystem ให้มีความสมบูรณ์แบบ สามารถตอบโจทย์การทํางานทุกองค์กรดังกล่าวในทุกมิติ ผ่าน 5 กลยุทธ์ อันได้แก่ 1) เชื่อมต่อ 5G Ecosystem เพื่อการทํางานของภาคธุรกิจอย่างรอบด้าน 2) ยกระดับการทํางานของโครงข่ายด้วย Intelligent Network 3) มุ่งเสริมความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์ม 4) เสริมอาวุธด้านการ ตลาดและเพิ่มโอกาสการเติบโต Data-driven Business 5) ส่งมอบบริการด้วยทีมงานมืออาชีพที่ไว้วางใจได้

ธนพงษ์ อธิบายต่อไปอีกว่า “ด้วยกลยุทธ์การทํางานที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าองค์กร ทําให้เรามีความพร้อมในการเป็นพันธมิตรดิจิทัลของกลุ่มลูกค้าองค์กรภาคธุรกิจภายใต้แนวคิด “เติบโต อุ่น ใจ ไปด้วยกัน” ใน 3 มิติ เริ่มจากโซลูชันที่ช่วย สร้างการเติบโต ของธุรกิจ ช่วยสร้างขีดความสามารถใหม่ๆ ด้วยเครื่องมือทางดิจิทัล เพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจให้สามารถก้าวสู่การเป็น สมาร์ทแมนูเฟคเจอร์ริ่ง สมาร์ท ทรานสปอตเทชันและสมาร์ทโลจิสติกส์”

ต่อมาคือ บริการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และ เชื่อถือได้ หรือทรัสต์ ด้วยความพร้อมเต็มรูปแบบที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็ว ความยืดหยุ่น ช่วยยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลและระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยขององค์กร

และบริการที่จะช่วย สนับสนุนการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเพื่อธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่พร้อมนําเทคโนโลยีโซลูชันเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกลไกสําคัญที่ช่วยทําให้องค์กรมีการบริหารจัดการอย่างสอดคล้องกับ หลักการทําธุรกิจแบบยั่งยืนในทุกด้าน ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

“เรามุ่งหวังที่จะเป็นพันธมิตรสมาร์ทดิจิทัลที่ไว้วางใจได้ พร้อมสนับสนุนองค์กรธุรกิจและ SME ไทยให้ เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน ตามวิสัยทัศน์ที่ต้องการเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ด้วยเทคโนโลยีและการให้บริการดิจิทัลที่หลากหลายครบครัน ด้วยทีมงานที่ไว้ใจได้ในความสามารถอย่างมืออาชีพ” ธนพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย