ทวิตเตอร์ (Twitter) เผย 6 เทรนด์มาแรงของชาวทวิตภพคนไทย ที่ 3 ปีเปลี่ยนแปลงไปมาก  ทั้งเรื่องกล้าแสดงออกเพื่อตัวเอง และประเทศชาติ ต้องการชีวิตที่สมดุล ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

รายงานข้อมูลเชิงลึก "Thailand TwitterTrends Report 2021” ที่ทวิตเตอร์วิเคราะห์นี้ เป็นการสำรวจจากข้อความที่มีการทวีต พูดคุยกันช่วงเดือน ก.ค. 2561-มิ.ย. 2564 พบ 6 เทรนด์ที่สะท้อนความต้องการ และวัฒนธรรมใหม่ๆ ของผู้เล่นทวิตเตอร์ในไทย ดังนี้

1. การมีชีวิตที่ดี (Wellbeing)

ชาวทวิตภพในไทยจะไม่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพเดิมๆ ไม่ปล่อยชีวิตให้ผ่านไปแบบง่ายๆ อีกต่อไปแล้ว การทวีต พูดคุย เกี่ยวกับ Wellbeing หรือ การมีชีวิตที่ดี จึงคึกคักเพิ่มขึ้น 16% แสดงถึงการให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพจิต

หัวข้อการพูดคุยเปลี่ยนจากเรื่องการอดอาหารลดน้ำหนัก และการออกกำลังกายแบบยกเวท มาเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพองค์รวม มองร่างกายตัวเองในเชิงบวกและค้นหาตัวเอง และแบ่งปันคำปรึกษาและให้กำลังใจคนอื่นไปพร้อมๆ กัน

...

ดังนั้นแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ต้องมีมุมมองเรื่อง Wellbeing และแบ่งปันเรื่องราวที่แสดงว่า แบรนด์ใส่ใจเรื่อง Wellbeing เช่นกับพนักงานในบริษัท โดยมีแฮชแท็กที่ได้รับความนิยม คือ#ความเครียด, #mentalhealth, #สุขภาพ, #ออกกำลังกาย

2. วัฒนธรรมของครีเอเตอร์ (Creator Culture)

วัฒนธรรมของครีเอเตอร์ หรือนักสร้างสรรค์เนื้อหา เติบโตมากขึ้นทั้งหน้าใหม่ไปจนถึงหน้าเดิมมืออาชีพ ทำให้การทวีตเรื่องนี้เพิ่มขึ้นถึง 26% ในกลุ่มต่างๆ เช่น เกมเมอร์ หรือคนที่ชื่นชอบการเล่นเกม มาแชร์รีวิวเกมใหม่ เครื่องเล่นเกมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการสตรีมเกม และสตรีมเมอร์ยังมีการโปรโมตเกมต่างๆ และการสร้างรายได้จากการสตรีมเกม

อีกลุ่มคือครีเอเตอร์อาชีพต่างๆ เห็นได้จากการพูดคุยเรื่องอาชีพเพิ่มมากขึ้นถึง 48% และยังมีศิลปินและครีเอเตอร์หันมาไลฟ์สดการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น

ความนิยมนี้ หากแบรนด์ต่างๆ จะนำมาใช้ ควรให้ความสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจ มอบเครื่องมือสร้างโอกาส ช่วยแจกจ่ายหรือช่วยโปรโมตผลงานแบรนด์ ควรมองกลุ่มนี้ว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคอนเซปต์และมีทักษะฝีมือ ไม่ใช่มองว่าพวกเขาคืออินฟลูเอนเซอร์ โดย #โบ๊ะบ๊ะแฟมิลี่, #gamerboys, #ร้านกาแฟ, #คาเฟ่, และ #แอพแต่งรูป เป็นแฮชแท็กที่ได้รับความนิยม


3. สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน (Everyday Wonder)

คนไทยแสดงออกถึงแพสชั่น หรือสิ่งที่ชื่นชม หลงใหลที่จะทำอย่างเต็มที่ทั้งที่อยู่รอบตัวหรือไกลออกไป ค้นพบวิธีรับมือสถานการณ์ปัจจุบันและยังมีความหวังมีมุมมองบวกเกี่ยวกับอนาคต จึงพูดคุยกันเกี่ยวกับ Everyday Wonder หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 45% ส่วนหนึ่งสะท้อนว่าคนไทยอยากหลีกหนีจากความเครียดในชีวิตประจำวัน และก้าวออกไปยังโลกแฟนตาซี ทำให้เกิดบทสนทนาเกี่ยวกับโลกแห่งจินตนาการเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังมีบทสนทนาเกี่ยวกับซีรีส์วายเพิ่มขึ้นถึง 381% ในขณะที่บทสนทนาเกี่ยวกับอนิเมะก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

การทวีตเกี่ยวกับการทำนายทายทัก การดูดวง สายมู และข้อความที่ให้กำลังใจ ก็เพิ่มขึ้น และด้านจิตวิญญาณในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น 10%
เทรนด์ของการทวีตหัวข้อเหล่านี้ เป็นโอกาสให้แบรนด์สามารถช่วยสร้างความสุขให้กับชีวิตประจำวันของกลุ่มเป้าหมายได้ เช่น การใช้ทวีตที่มีอารมณ์ขัน ความสนุกสนาน และความหวัง โดย #การ์ตูน, #anime, #cosplay, #ดูดวง และ #ดวงรายวัน เป็นแฮชแท็กเด่นที่แบรนด์สามารถใช้เพื่อเข้าไปร่วมวงสนทนาได้

...

4. ร่วมกันใส่ใจโลกใบนี้ (One Planet)

One Planet เป็นเทรนด์บทสนทนาที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดบนทวิตเตอร์ประเทศไทย สูงถึง 191% เนื่องจากคนไทยเริ่มใส่ใจขวนขวายหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนที่อยู่ในกระแสหลักมากขึ้น เช่น เรื่องภาวะโลกร้อน และความปลอดภัยของสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทร

ทวีตเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นถึง 200% เกี่ยวกับเรื่องขยะ คุณภาพอากาศที่เลวร้าย และการขนส่ง รวมถึงเทคโนโลยีสีเขียว

ประเด็นนี้ทำให้แบรนด์มีโอกาสเป็นผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์และคอนเซปต์ใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน โดยการสร้างความน่าเชื่อถือและแบ่งปันความก้าวหน้าและความโปร่งใสในการพัฒนาความยั่งยืนดังกล่าว มีแฮชแท็กที่ได้รับความนิยม ที่แบรนด์สามารถใช้เพื่อเข้าไปร่วมสนทนาได้ เช่น
#earthday, #ถุงผ้า, #recycle และ #greenerychallenge


5. ชีวิตที่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ (Tech Life)

...

ทวีตเกี่ยวกับชีวิตที่มีการนำเทคโนโลยีบนมาใช้เพิ่มขึ้น 31% เช่น ชีวิตแบบดิจิทัลของฉัน ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดด้วยเทคโนโลยี การสร้างสมดุลในชีวิตแม้ต้องทำงานที่บ้าน การเชื่อมต่อกันตลอดเวลา บ้านอัจฉริยะ และยังทวีตถึงการหาตัวช่วยด้านความบันเทิงในบ้านและแชร์ประสบการณ์การใช้งานอีกด้วย รวมไปถึงการช็อปปิ้งออนไลน์

นอกจากนี้ยังมีหัวข้อเกี่ยวกับบทบาทของบริษัทเทคโนโลยีจะช่วยสร้างสังคมที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไรบ้าง รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีความรับผิดชอบ

เทรนด์นี้บ่งบอกว่าแบรนด์ที่พัฒนานวัตกรรมให้เหนือคู่แข่ง ก็ควรปรับปรุงประสิทธิภาพและปรับปรุงการมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า แฮชแท็กส่วนหนึ่งที่ได้รับความนิยม ที่แบรนด์สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างบทสนทนาได้ เช่น
#ai, #ลำโพงบลูทูธ, #หูฟังไร้สาย, และ #เรียนออนไลน์ 


6. ความเป็นตัวเอง (My Identity)

คนไทยมีความมั่นใจมากขึ้นและสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง
ทวีตเกี่ยวกับ My Identity หรืออัตลักษณ์ของตนเอง จึงเติบโตขึ้น 72% และยังสะท้อนไปถึงไอดอล บุคคลที่ชื่นชม ทวีตที่สะท้อนพลังของแฟนคลับ
จึงเพิ่มขึ้น 21%

...

นอกจากนี้ทวีตเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางสังคมก็มาแรง เช่น ด้านเศรษฐกิจและสังคม สิทธิมนุษยชน สิทธิต่างๆ ของกลุ่ม LGBTQIA และอื่นๆ อีกมากมายที่มีแรงขับมาจากกลุ่มไพรด์ชาวไทย

ที่น่าสนใจทวีตเกี่ยวกับตัวเองและประเทศของฉัน ยังเพิ่มขึ้นสูงถึง 260% เพราะมีความหวังที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับสังคมได้  เพราะเห็นว่าทุกการกระทำในวันนี้จะส่งผลต่อทุกชีวิตในอนาคต ทำให้ทวีตเกี่ยวกับเรื่องอนาคตที่ดีขึ้นเพื่อตัวเองและทุกคน เพิ่มมากขึ้น 40%

ประเด็นนี้ แบรนด์จำเป็นต้องพิจารณาถึงพื้นฐานของกลุ่มเป้าหมายในแง่ที่ว่าพวกเขาชอบทำอะไร อยากเห็นอะไร ชอบทานอะไร ชอบฟังและชอบเล่นอะไร มากกว่าจะไปค้นหาว่าพวกเขาอาศัยอยู่ที่ไหน อายุเท่าไหร่ ทำอาชีพอะไร ซึ่งเป็นก้าวแรกที่แบรนด์สามารถเพิ่มความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้#เป๊กผลิตโชค, #bbrightvc, #lisa, #LGBTQ และ #MissUniverse เป็นตัวอย่างแฮชแท็กบางส่วนที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งแบรนด์สามารถเริ่มเข้าไปร่วมบทสนทนากับกลุ่มเป้าหมายได้

นายมาร์ติน ยูเรน หัวหน้าแผนกงานวิจัย ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและระดับโลกของทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า การจัดทำรายงานข้อมูลเชิงลึก Thailand TwitterTrends Report 2021 เป็นการเจาะลึกถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ประเทศไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อทำให้นักการตลาดและแบรนด์เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้นว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาสนใจ อะไรคือสิ่งที่พวกเขามีแพสชั่น พวกเขากำลังพูดคุยอะไรกัน และอะไรที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพวกเขา รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ทางวัฒนธรรมที่กำลังเป็นตัวกำหนดการสนทนาในอนาคต