ค่ายซัมซุงได้จัดงานใหญ่เพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงใหม่เป็นผลิตภัณฑ์หลักจะเน้นโปรโมตหนักในช่วงครึ่งปีหลัง นำโดยสมาร์ทโฟนจอพับ Galaxy Z Fold3 5G และ Flip 3 5G รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใน Ecosystem คือ นาฬิกาอัจฉริยะ Galaxy Watch4 Series และหูฟังไร้สาย Galaxy Buds2
เป็นที่ทราบกันดีกว่าทางซัมซุงได้ตัดสินใจเลิกผลิตซีรีส์ Note ทำให้หลายคนสงสัยกันมากว่าเพราะเหตุใด ทั้งๆ ที่มีลูกค้าที่ชื่นชอบขีดๆ เขียนๆ บนหน้าจอจำนวนอยู่มาก และซัมซุงเป็นคนแนะนำนวัตกรรม Note เป็นรายแรก แต่ในที่สุดได้เฉลยออกมาผลิตภันฑ์เรือธงทุกรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่จะรองรับฟีเจอร์นี้ทั้งหมด
ซึ่ง Galaxy Z Fold3 5G เป็นหนึ่งในรุ่นที่ซัมซุงได้ให้ความสำคัญมาก จากเดิมที่เป็นสมาร์ทโฟนจอพับพรีเมี่ยม ไฮโซหรูหรา ราคาแพง แต่สำหรับรุ่นใหม่จัดเต็มทั้งเพิ่มฟีเจอร์การใช้งาน การใช้วัสดุให้อุปกรณ์ที่มีทนทานมากขึ้นกันน้ำมาตรฐาน IPX8 และที่สำคัญไปกว่านั้นคือราคาจำหน่ายถูกลงกว่ารุ่นก่อนหน้ากว่าหนึ่งหมื่นบาทเลยทีเดียว
จุดเด่นหลักของ Galaxy Z Fold3 5G คือสามารถใช้ S Pen ได้เป็นครั้งแรกได้ทั้ง S Pen Fold Edition และ S Pen Pro (ซื้อแยก) ทั้งคู่ได้รับการออกแบบพิเศษที่หัวปากกาเพียงกดเบาๆ ก็สามารถเขียนได้ไหลลื่น เพื่อป้องกันหน้าจอพัง รวมทั้งการใช้วัสุดใหม่ให้หน้าจอหลักมีความทนทานมากขึ้น
หลังจากได้ทดลองใช้ในระยะเวลาสั้นๆ นับว่าประทับใจกับการใช้งานในหลายๆ ฟังก์ชี่นกัน โดยเฉพาะจอ ใช้ได้จริงทั้งจอหน้าด้านนอกและจอหลัก จอหน้าที่พับลงเหลือ 6.2 นิ้ว ขอบจอบางมาก แต่เวลาถือรู้สึกจะหนาๆ ทำให้ถนัดกางจอออกมาใช้งานมากกว่า สามารถใข้แอปต่อเนื่องจากจอด้านนอกได้ทันที
...
เมื่อกลางจอออกมาจะได้จอขนาด 7.6 นิ้ว เราจะไม่เห็นรูกล้องที่หลายๆ คนบ่นรำคาญจากรุ่นก่อนหน้า เพราะได้ถูกนำไปซ่อนไว้ใต้จอ ขณะที่ส่วนของรอยพับที่เอานิ้วรูปสัมผัสได้นั้นเมื่อกลางจอออกมายังพอเห็นรอยพับอยู่บ้าง
จุดเด่นที่สำคัญก็คือการยกระดับการใช้งานมัลติทาสกิ้งไปอีกระดับ ใช้งานได้พร้อมกัน 3 จอได้เลย จะดูฟุตบอล จดโน็ต เล่นเกมพร้อมกันได้เลย หรือจะประชุมออนไลน์ พร้อมกับๆ ดูภาวะซื้อขายหุ้นในยามตลาดหุ้นผันผวนที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดสะดวกนับว่าสะดวกสุดๆ
สำหรับกล้องนั้นต้องยกให้ซัมซุงอยู่แล้ว จัดเต็มมาให้สายคอนเทนท์ได้ใช้กันเต็มที่รองรับ 4K ทั้งหน้าและหลัง ให้เลือกคือสีดำ, เขียว และซิลเวอร์ ราคาเริ่มต้น 57,000 บาท
Fold3 5G ใช้หน่วยประมวลผลใหม่ 5 nm 64 bit Octa-Core เมื่อลองวัดประสิทธิภาพกับแอป Geekbench5 ปรากฏว่าประสิทธิภาพ ซีพียู ซิงเกิล คอร์ได้คะแนน 1056 เหนือกว่า S21 Ultra 5G ได้คะแนน 960, S21 5G ได้คะแนน 926 และ Note 20 Ultra 5G คะแนน 894 ส่วนประสิทธิภาพ มัลติคอร์ได้คะแนน 3261 คะแนน, S21 Ultra 5G ได้คะแนน 3176, S21 5G ได้คะแนน 3113 และ Note 20 Ultra 5G คะแนน 3020 ด้านประสิทธิภาพด้านกราฟฟิคได้ 4,638 คะแนน
Galaxy Z Flip3 5G
เป็นสมาร์ทโฟนจอพับออกแบบมาสำหรับสาวๆ ที่พกพาสะดวกแต่ดีไซน์แฟชั่นตลับแป้งสวยงามเรียกว่าหยิบออกจากกระเป๋าออกมาผู้คนต้องมองกัน แต่เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน โดยเฉพาะการใช้งานจอด้านนอกที่พับลงขนาด 1.9 นิ้ว หน้าจอแสดงผลเวลา และวิดเจ็ตต่างๆ รวมทั้งคุณสมบัติความทนทานและกันน้ำเหมือนรุ่น Fold3 5G เมื่อกลางจอออกมาจะมีขนาด 6.7 นิ้ว
ที่ชื่นชอบก็คือการใช้งานโหมด Flex โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง จะใช้ประชุมออนไลน์ เรียนออนไลน์สะดวก หรือดูยูทูปจอด้านบน ส่วนที่พับด้านล่างแสดงผลและร่วมคอมเมนท์แยกกันไม่ต้องรำคาญกับคอมเมนท์ที่ทับลงบ้านหน้าจอ
อีกทั้งยังใช้กล้องหลังถ่ายเซลฟี่ ด้วยการมองที่จอหน้าจะเห็นชัดเจนว่าเอาต้องการมุมมองตรงไหน และใข้ฝ่ามือสั่งกดชัตเตอร์ได้เลย หรือใช้กล้องหน้าโหมด Flex ถ่าย มองว่าฟังก์ชั่นนี้สาวๆ จะชอบกัน รุ่นนี้มี 3 สีให้เลือกคือสีเทา, สีขาว, สีชมพู ราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท
...
นาฬิกา Galaxy Watch4 Series และหูฟัง Galaxy Buds2
สำหรับใช้ซัมซุง Ecosystem การใข้งานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย เข่น Galaxy Watch 4 Series จะเปิดใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็ได้ หรือเชื่อมต่อผ่านแอป Galaxy Wearable ตั้งค่านาฬิกาผ่านแอปได้เลย เช่นการปรับเปลี่ยนหน้าปัดที่มีหลากหลายให้เลือกตามความชอบ สำหรับฟังก์ชี่นการใช้งานใหม่ๆ เช่น วิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย การวัดความดัน การวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้า ซึ่งบางฟังก์ชี่นนในบ้านเรายังต้องรอทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาอนุมัติการใช้งานก่อน ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS ทำงานร่วม One UI Watch นอกจากสุขภาพแล้วสามารถเข้าแอปสตรีมเพลงขณะออกกำลังกาย วิ่งไปฟังเพลงไปเพลิน ๆ
...
สำหรับการใช้งานในรุ่น Galaxy Watch4 Classic การใช้งานแบตเตอรี่ เมื่อใช้งานดูเวลาปกติไม่ได้เปิดแอปอื่นๆ แบตจะทนมากเปิดนาน 24 ชั่วโมงแล้วยังเหลือแบต 25% แต่เมื่อเปิดงานใช้แอปเดินออกกำลังกาย 2 ชั่วโมง หลังจากเปิดใช้งานปกติมา6 ชั่วโมง แบตลดลงแตะ 20% ให้เปลี่ยนโหมดเป็นประหยัดพลังงาน รวมทั้งการใช้งานหูฟัง Galaxy Buds2 ผ่านแอป Galaxy Wearable เชื่อมต่อและตั้งค่าได้ทันทีพร้อมใช้งานกับสมาร์ทโฟนและนาฬิกาา Galaxy Watch4 ได้ง่ายๆ และลงตัว