เบื่อแล้ว...กับวิถีมนุษย์เงิน ตื่นตั้งแต่ไก่โห่ ตาโหลโหนรถเมล์ ฝ่ารถติดไปตอกบัตร ไหนจะเงินเดือน อันน้อยนิดต้องพิชิตสงครามค่าครองชีพให้รอดชีวิตในแต่ละเดือน ชักหน้าไม่ถึงหลังก็ต้องรุงรังกับหนี้อีกยาวๆ แล้วเมื่อไหร่จะได้ลืมตาอ้าปากกับเขา

108 คำถามผุดขึ้นในหัวมนุษย์เงินเดือนวันแล้ววันเล่า แต่ถ้ามัวแต่ตั้งคำถามแล้วไม่หาคำตอบ ก็คงไม่เจอทางออก ลองศึกษาให้ดี บางทีทางออกก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพื่อวัยเกษียณแสนสบายได้อย่างใจ และนี่คือ 5 คำตอบ  ไม่อยากเป็น มนุษย์เงินเดือน กินแต่กระเพราไก่ไข่ดาวต้องทำยังไง?

ไทยรัฐออนไลน์ไปร่วมงาน ฟิวเจอร์ เวลท์ แอนด์ ลักชัวรี่ เอ็กซ์โป 2017 มหกรรมรวบรวมการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต ถามบรรดาเซียนนักวางแผนประมวลมาให้รู้กัน 

1.ตั้งต้นเป็นเจ้านายตัวเอง ด้วยการเป็น Start Up

เมื่อเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วช้ำใจ ก็พลิกบทบาทด้วยการเป็นเจ้านายตัวเองเสียเองเสียเลย ด้วยการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ในโลกดิจิทัล ด้วยการเป็น Start Up ริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยตัวเอง แต่ก่อนจะไปลาออกแล้วมาตั้งบริษัทขอให้ใจเย็นสักนิด ทำงานประจำเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ให้มากพอ ตัดสินใจถูกว่ารักจะทำธุรกิจแนวไหน อ่านกระแสโลกในอนาคตให้ดีว่าเป็นไปในทิศทางไหน และไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานมาทำธุรกิจเสมอไป ลองเริ่มทำจ๊อบที่บริหารจัดการได้ในวันหยุด ควบคู่กับงานประจำไปก่อน ของแบบนี้นอกจากอยู่ที่วิสัยทัศน์ ยังอยู่ที่ดวงด้วย บางครั้งก็เหมือนซื้อหวย จับถูกทางก็รวยไป ถึงวันนั้นค่อยมาลาออก ก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้าจับผิดทาง ก็เจ็บไม่มาก และยังมีเงินเดือนประจำรองรับ ก่อนจะพร้อมลุกขึ้นสู้อีกสักตั้ง

...

2.ให้เงินทำงาน 

ก่อนจะให้เงินทำงาน ก็ต้องเริ่มจากการมีเงินออมเป็นกอบเป็นกำเสียก่อน โดยตั้งเป้าหมาย ออมเงินเดือนละ 10% ตามสโลแกนที่พูดกันประจำว่า “เก็บก่อนแล้วค่อยใช้” เพื่อนำมาลงทุนกับกองทุนต่างๆ โดยเลือกกองทุนบริษัทใหญ่ที่มีแนวโน้มเติบโตระยะยาว ความเสี่ยงน้อย และลงทุนในหลายๆ กองทุน เพื่อลดความเสี่ยง ติดตามข่าวสาวเศรษฐกิจโลกอยู่เสมอ หากมีข่าวตลาดผันผวน จะได้ปรับเปลี่ยนได้ทันเวลา และเลือกลงทุนกับกองทุนที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น LTF RMF ถึงวันที่เราอยากเกษียณ แล้วเงินปันผล จากกองทุนต่างๆ มากพอ แล้วจะรออะไร ลาออกมาเก็บดอกเก็บผลใช้จ่ายได้เลย

3.ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้รอรับค่าเช่าชิลๆ

อสังหาริมทรัพย์ยังถูกยกให้เป็นราชินีของวงการลงทุน เพราะมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง ความเสี่ยงน้อย แต่ถ้าอยากรวยด้วยอสังหาริมทรัพย์ชนิดที่ไม่ต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป ก็ต้องฉลาดลงทุน ต้องตั้งเป้าก่อนว่าจะลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้นเพื่อขายต่อ หรือระยะยาวเพื่อปล่อยเช่า แล้วค่อยเลือกชนิดของอสังหาฯ ให้เหมาะสม เช่น คอนโดแนวรถไฟฟ้า ใจกลางเมือง บ้านเดี่ยวชานเมือง หรือ ที่ดินต่างจังหวัด หรือแม้กระทั่ง การซื้อบ้านเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยก็ตาม ซึ่งอาจจะดูเป็นเหมือนการสร้างหนี้ แต่หนี้ประเภทนี้ถือเป็นการลงทุน นอกจากมูลค่าจะเพิ่มขึ้นแล้ว ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อย่างน้อย ปีละ 100,000 บาทด้วย เมื่อถึงเวลาอยากเกษียณก็จะได้ออกไปเก็บค่าเช่ากิน หรือได้เงินก้อนจากการขาย อสังหาฯ นอนกินชิลๆ
ท่านบอก

4.ฉลาดเลือกประกัน

ต้องพุ่งไปที่เป้าหมายของการซื้อประกันก่อน หากอยากเตรียมเงินก้อนไว้ใช้ยามแก่เฒ่าที่เราทำงาน ไม่ไหว ให้เลือกประกันออมทรัพย์ ระยะยาวเช่น 20 ปี มีประกันบางชนิดที่นอกจะแบ่งเงินปันผลแล้ว ยังได้เงินคืนตลอดช่วงสัญญาอีกด้วย หากอยากสบายใจเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องรักษาพยาบาลและอุบัติเหตุ ก็ให้พ่วงกรมธรรม์ประเภทเข้าประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพไปด้วยเพื่อความอุ่นใจ เมื่อครบสัญญาแล้ว และอยากจะเกษียณ จากงานประจำ ก็จะได้มีเงินก้อนเพื่อเป็นทุนที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ และทำประกันสุขภาพต่อเนื่องไปด้วยเลย เพราะวัยเกษียณค่าใช้จ่ายที่น่ากลัวที่สุดคือ ค่ารักษาพยาบาล เพราะประมาณการมูลค่าไม่ได้เลย

5.ลงทุนกับความสุขแบบลักชัวรี่

ใครที่หลงใหลในการมีไลฟ์สไตล์ลักชัวรี่ หากฉลาดที่จะอยู่หรู ดูแพง ความฟุ่มเฟือยก็อาจจะกลายเป็นทรัพย์สินทำเงินได้ในอนาคต อย่างเช่น รถซุปเปอร์คาร์ เครื่องประดับเพชร ทอง นาฬิกา หรือแม้กระทั่งกระเป๋า แบรนด์เนม ก็ยังทำเงินได้ แต่ผู้ลงทุนจำเป็นจะต้องมีความรู้ในเรื่องของลักชัวรี่เหล่านั้นเป็นอย่างดี ชนิดที่สามารถประเมิณได้ว่าของสวยหรูตรงหน้าในวันนี้ จะกลายเป็นสมบัติที่ทำเงินเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ในวันข้างหน้าได้ไม่ยาก หรือจับเป็นธุรกิจซื้อมาขายไปในระยะสั้น เอากำไรเสียตั้งแต่วันนี้ ก็เป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร แถมได้เลือกแต่ของรักของถูกใจทั้งวันอีกด้วย

...