สังคมครอบครัวของประเทศไทยในหนึ่งครอบครัว มักจะมีคนหลากหลายเจเนอเรชันอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ เช่น Baby Boomer, Gen X , Gen Y และ Gen Z ตามลำดับ ทำให้มีความหลากหลายทางความคิด ความเข้าใจ รวมทั้งการดูแลสุขภาพที่แตกต่างกันออกไป การที่ช่วยกันดูแล ประคับประคอง และทำความเข้าใจทั้งสุขภาพ และสุขภาพจิตของคนในบ้านแต่ละช่วงวัยนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นจุดเริ่มต้นของสภาพแวดล้อมครอบครัวที่ดีและมีความสุข
สุขภาพทางร่างกาย ในแต่ละช่วงอายุนั้นต่างมีโอกาสที่จะเกิดโรคได้ทั้งสิ้น ดังนั้นการติดตามดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้มีความแข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ อาจจะมีความแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่หากทำความเข้าใจปัญหาสุขภาพของร่างกายของแต่ละช่วงวัยได้ จะเป็นการส่งเสริมให้ครอบครัวนั้นมีความแข็งแรงขึ้น คนในครอบครัวสุขภาพดี ชีวิตก็จะยิ่งมีความสุขมากยิ่งขึ้น
พญ.มนฑรัตม์ เจนทวีพรกุล แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลวิมุต กล่าวในงาน “Healthy 50 Plus สุขภาพในฝันหลัง 50+” ว่า ถึงแม้แต่ละเจเนอเรชัน จะมีความกังวลและการดูแลสุขภาพที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตาม มักจะมี 3 กลุ่มโรค และ 3 อวัยวะ ที่ควรต้องตรวจเช็กให้ละเอียดอยู่ประจำ เพราะถ้าหากไม่รีบตรวจรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ โรคเหล่านี้สามารถเรื้อรังจนกลายเป็นโรคร้ายแรงได้ในทุกเพศและทุกวัย
3 กลุ่มโรคที่ควรระมัดระวังในทุกเจเนอเรชัน
กลุ่มโรคหลอดเลือดและหัวใจ : ไม่ว่าจะช่วงอายุไหน ก็จะมีน้ำตาลในเลือด และเริ่มไต่ระดับแล้ว ถึงแม้จะไม่เป็นโรคเบาหวาน แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายชนิดนี้ได้ รวมถึงไขมันในเลือดสูง ก็สามารถเกิดขึ้นได้แม้จะมีอายุยังน้อยก็ตาม ในปัจจุบันก็เริ่มมีเด็ก หรือวัยรุ่นเริ่มรักษามาแล้วแต่เนิ่นๆ เป็นจำนวนหนึ่ง
...
กลุ่มโรคมะเร็ง : ถึงแม้โรคมะเร็งยังไม่ค่อยจะก่อตัวสักเท่าไรในวัยเด็กหรือวัยรุ่น แต่อย่างไรก็ตรวจสุขภาพเพื่อหาต้นตอ และรักษาได้แต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ หรือสามารถชะลอเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงได้เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ยิ่งเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มีความเสี่ยงในด้านกรรมพันธุ์ ยิ่งต้องหมั่นตรวจโรคมะเร็งอย่างมีระเบียบ และวางแผนเพื่ออนาคตที่ดีของสภาพร่างกาย
กลุ่มโรคติดเชื้อ : ในแต่ละช่วงอายุมักจะมีความเสี่ยงในโรคติดเชื้อได้หลากหลายชนิดที่ไม่เหมือนกัน เช่น ไวรัสตับอักเสบ, ไข้หวัดใหญ่, โรคบาดทะยัก, ไข้สมองอักเสบ, โรคหัด และอีกมากมาย การติดตามและทำวัคซีนเพื่อป้องกันให้เหมาะสมตามช่วงอายุวัย จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ต้องคอยดูแลกันและกันอย่างใกล้ชิด
สุขภาพกายที่แต่ละ 'เจเนอเรชัน' ควรพึงระวัง
- Gen Z : โรคที่ควรพึงระวังในกลุ่ม Gen Z คือ กลุ่มโรคติดเชื้อต่างๆ การรับวัคซีนให้ครบจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับในวัยนี้ อาจจะมีการตรวจเช็กสุขภาพอย่างน้อย 1-3 ปีครั้ง เพื่อป้องกันโรคที่ได้รับมาจากทางพันธุกรรม ที่จะส่งผลได้ในอนาคต
- Gen Y : กลุ่ม Gen Y เป็นกลุ่มที่อาจจะไม่ได้สนใจหรือห่วงสุขภาพมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้ควรตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ 1-2 ปีต่อครั้ง เพราะในช่วงวัยนี้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยง จึงมีโอกาสอย่างมากในการรับสารต่างๆ ที่อันตราย และสามารถก่อให้เกิดโรคร้ายในอนาคตได้ การตรวจเจอปัญหาแต่เนิ่นๆ เพื่อรับการแก้ปัญหา จึงเป็นเรื่องที่ควรติดตามและระมัดระวังอย่างใกล้ชิด
- Gen X : กลุ่ม Gen X เป็นกลุ่มที่ควรเริ่มตรวจสุขภาพอย่างจริงจังในทุกๆ ปี และวางแผนสุขภาพ รวมถึงการใช้ชีวิตในอนาคต เป็นช่วงอายุที่โรคร้ายต่างๆ มักจะเกิดขึ้นมากที่สุด เช่น เบาหวาน ความดัน รวมทั้งโรคมะเร็งด้วย การติดตามผลสุขภาพกับคุณหมออยู่เป็นประจำ จะช่วยให้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่นี้มีสุขภาพแข็งแรง และมีผลต่อเนื่องในการเข้าสู่วัยสูงอายุอย่างแข็งแรง
- Baby Boomer : กลุ่ม Baby Boomer เป็นกลุ่มที่ต้องมีความละเอียดในการเฝ้าระวังและตรวจสุขภาพอย่างมาก เพราะสามารถเกิดโรคร้ายต่างๆ จากสุขภาพได้มากที่สุด ซึ่งมาจากร่างกายที่ค่อยๆ เสื่อมสมรรถภาพตามกาลเวลา รวมทั้งโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ฉับพลัน ที่มีผลเกี่ยวเนื่องมาจาก มะเร็ง ความดัน และเบาหวาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้โดยไม่ทันตั้งตัว เพราะร่างกายเปราะบางมากที่สุด
สุขภาพจิต สำคัญต่อสุขภาพกายอย่างไร
การดูแลสุขภาพ ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพกายเพียงอย่างเดียว เรื่องของ ‘สุขภาพจิต’ ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะถ้ายิ่งมีปัญหาทางสุขภาพจิตรบกวนอยู่ตลอดเวลา อาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง เหตุมาจากความเครียดในสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งทำให้โรคร้ายต่างๆ เข้ามาแทรกแซงได้ รวมทั้งการหันไปพึ่งแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือสารเสพติด ยิ่งอาจจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมได้ไวกว่ากำหนด หรือแม้แต่กระทั่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปที่มาจากความเครียด ก็เป็นผลพวงที่ทำให้สภาพร่างกายแย่ลงได้ โดยสุขภาพทางจิตสามารถเกิดได้ในทุกช่วงอายุ สาเหตุจากเรื่องงาน ครอบครัว การใช้ชีวิต ความรัก และเรื่องเพศ
พญ.มนฑรัตม์ กล่าวว่า สุขภาพจิตเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพกายตามมา โดยที่ผู้ป่วยเองไม่รู้ตัว และปัญหานี้ยังสามารถทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ตัวได้ การทำความเข้าใจกันในครอบครัวให้มีความสุข รวมถึงการตรวจสุขภาพ และปรึกษาร่วมกับคุณหมอร่วมเพื่อหาสาเหตุ อาจจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เรารับรู้ปัญหาของสุขภาพกายและสุขภาพจิตควบคู่กันไปได้ด้วย
...
จุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดีได้นั้น ต้องเริ่มจากสถาบันครอบครัว ที่เป็นหนึ่งในความสัมพันธ์หลัก ที่อาจจะเกิดช่องว่างระหว่างวัย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ เพราะในปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ความเข้าใจของคนแต่ละรุ่นแตกต่างกัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหญ่กับคนรุ่นเล็ก ซึ่งเป็นเหตุให้สุขภาพทางจิตของคนทั้งสองช่วงวัยแย่ลงได้ หากเกิดความไม่เข้าใจกัน และไม่สามารถปรึกษาปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้
2 วิธีคิดเพื่อปรับความเข้าใจ เพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย
- Empathy (เข้าอกเข้าใจ) : โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนในแต่ละช่วงวัยมีประสบการณ์ที่ต่างกัน ส่งผลต่อมุมมองที่มีต่อโลกแตกต่างกันไปด้วย และไม่จำเป็นต้องคนละช่วงวัยเท่านั้น แม้แต่คนที่อยู่ในรุ่นเดียวกันก็สามารถมีความคิดและทัศนคติที่แตกต่างกันได้ ดังนั้นความเข้าอกเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการรับฟัง ทำความเข้าใจในมุมของอีกฝ่ายที่ต้องเจอกับปัญหา หรือประสบการณ์ที่ต่างกันจากตนเองเป็นสิ่งสำคัญ และไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางว่าทุกคนต้องคิด หรือรู้สึกแบบเดียวกันกับเรา ซึ่งจะนำพาไปสู่ความขัดแย้งและลุกลามใหญ่โตจนเกินแก้ไขได้ และความเข้าอกเข้าใจนี้จะสามารถหล่อหลอมคนรอบข้างให้มีความเข้าใจในตัวเราเช่นกัน ทำให้เราสามารแชร์สิ่งที่ตนเองคิด หรือความเครียด เพื่อให้ผู้อื่นได้รับฟัง ก็สามารถทำให้เราสบายใจได้เฉกเช่นเดียวกัน
- Equality (เท่าเทียมกัน) : แม้ว่าในครอบครัวจะมีช่วงอายุที่แตกต่างกัน แต่ควรมีความเท่าเทียมกันในเรื่องความคิดเห็น การถือว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่นๆ จะนำไปสู่ความล้มเหลวและความเครียดได้ นอกจากนี้ บทบาทของความเท่าเทียมยังสามารถช่วยให้เราปรับตัว เปิดโลกกว้าง และเข้าใจความรู้สึกของคนในแต่ละช่วงวัยได้ดี ช่วยในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับคนกลุ่มเหล่านี้ เพื่อทำความเข้าใจ และเป็นฐานที่ดีในการสร้างสถาบันครอบครัวที่มีคุณภาพ สามารถพูดคุย แชร์ความคิดเห็น และเพิ่มความเข้าอกเข้าใจกันได้ดีมากยิ่งขึ้น
...
การทำความเข้าใจทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคนทุกวัยในครอบครัว นอกจากเราจะได้รับรู้ข้อมูลในการช่วยดูแลป้องกันสุขภาพของตนเองและครอบครัวแล้ว ยังเป็นจุดประสงค์หลักที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันในอนาคต โดยสามารถใช้เทคนิคเหล่านี้มาสร้างพื้นฐานครอบครัวที่แข็งแรง และมีความสุขได้ในระยะยาวอีกด้วย