สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำวิธีการปรับพฤติกรรมการกินเค็ม ภายใน 21 วัน เพื่อลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำร้ายสุขภาพ และทำให้มีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น

ทฤษฎีลดเค็มภายใน 21 วัน จากคำแนะนำของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งหากสามารถปรับพฤติกรรมการติดกินเค็มได้อย่างต่อเนื่อง จะสามารถช่วยให้ลิ้นปรับความไวในการรับรสชาติ และทำให้พฤติกรรมการกินเค็มนั้นเกิดขึ้นได้น้อยลง

เนื่องจากการทานเค็ม เป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อาจทำให้เกิดปัญหาโรคไต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรคสำคัญที่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารเค็ม โดย องค์การอนามันโลก รายงานว่า ปัจจุบัน 1 ใน 10 ของประชากรทั่วโลกมีการทำงานที่ผิดปกติของไต อยู่จำนวน 1 ล้านราย และเสียชีวิตจากโรคไตเรื้อรังเพิ่มขึ้น

ข้อมูล Health Data Center ของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 ท่ีพบว่า คนไทยป่วยด้วยโรคไตเรื้อรัง 1,072,756 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีผู้ป่วย 977,692 ราย และมีผู้ป่วยอยู่ในระยะที่ 3 มากที่สุด จำนวน 464,420 ราย รองลงมาคือ ระยะที่ 2 จำนวน 268,713 ราย ขณะที่ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย (ระยะที่ 5) ที่ต้องล้างไตมีจำนวน 70,474 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 12.9 

6 วิธีปรับพฤติกรรมการกินเค็ม ภายใน 21 วัน

  • ทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง ชิมก่อนปรุง และไม่ปรุงเพิ่ม
  • เลี่ยงทานอาหารคู่กับน้ำจิ้ม เช่น พริกน้ำปลา น้ำจิ้มซีฟู้ด
  • เลี่ยงอาหารรสจัด
  • เลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง และขนมขบเคี้ยว
  • อ่านฉลากโภชนาการ และเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง
  • เน้นสมุนไพร และเครื่องเทศ เพื่อแต่งกลิ่นและรสชาติของอาหาร

...

การป้องกันและดูแลรักษาโรคไตเรื้อรัง ต้องมุ่งเน้นการสร้างความตระหนัก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการบริโภคโซเดียม เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ เพราะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหมาะสม สามารถลดการเกิดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่.

ภาพ : istock