"เทอม 3" (Haunted Universities 3) ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องใหม่จากสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จะกลับมาสานต่อความหลอนจาก "เทอมสอง สยองขวัญ" ด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวสุดสะพรึงในรั้วมหาวิทยาลัยไทยทั้ง 3 ภาค ที่จะถูกนำมาเล่าบนจอภาพยนตร์ผ่านเรื่องสั้น 3 ตอน ได้แก่ ขบวนแห่ (ภาคเหนือ), พี่เทค (ภาคอีสาน) และ ศาลล่องหน (ภาคกลาง)
ภาพยนตร์เรื่องเทอม 3 (เทอมสาม) จะมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 โดยก่อนที่จะได้ไปสัมผัสประสบการณ์สุดหลอน ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปพูดคุยกับ 5 นักแสดงนำ ถึงบทบาทที่ได้รับ รวมถึงมุมมองที่มีต่อเรื่องผีๆ ในฐานะนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องเทอม 3 ได้แก่
- ตาต้า-ชาติชาย ชินศรี รับบทเป็น "ฮ่องเต้" ในตอน ขบวนแห่
- มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล รับบทเป็น "วาฬ" ในตอน ศาลล่องหน
- แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ รับบทเป็น "มินท์" ในตอน ศาลล่องหน
- อัด-อวัช รัตนปิณฑะ รับบทเป็น "ซัน" ในตอน พี่เทค
- จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ รับบทเป็น "เอิร์ท" ในตอน พี่เทค
สัมภาษณ์ทีมนักแสดง "เทอม 3" หนังผีรวมเรื่องเล่าสุดหลอนในรั้วมหาวิทยาลัยไทย
...
Q : ปกติในแก๊งนักแสดงมีใครเป็นคนกลัวผีไหม
แพรวา : ไม่มีใครกลัวผีแบบสุดๆ เลยสักคนค่ะตรงนี้
มาร์ช : ผมกลางๆ ครับ ไม่กลัว... ถ้าเจอก็กลัวนะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นนอนคนเดียวไม่ได้ โชคดีที่ตอนเราถ่ายหนังกันก็ไม่ได้เจอผีหรืออะไรแปลกๆ ในกองถ่ายเลยครับ
Q : ภาพยนตร์เรื่อง "เทอม 3" เป็นเรื่องสั้น 3 ตอน แยกกันถ่ายทำ แต่เมื่อได้มาเจอกันคิดว่าแต่ละคนมีเคมีนักแสดงร่วมกันบ้างไหม
แพรวา : ความเก่ง และความตลกค่ะ (หัวเราะ) ไม่ได้มีความรู้สึกว่าเราถ่ายทำแยกกันมาแต่ละตอนเลย เพราะพอเรามาเจอกัน ก็สนิทกันเหมือนได้ถ่ายด้วยกันมาอยู่แล้ว
มาร์ช : เราได้มีโอกาสเจอกันแบบรวมทีม เฉพาะวันที่ถ่ายโปสเตอร์และช่วงวันโปรโมตเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วพวกเราควรได้อยู่คณะเดียวกัน หรือเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ลองคิดแบบนี้เล่นๆ แล้วมันน่าจะสนุกมากเลยนะ เพราะพอมาเจอแล้วเราสนิทกันเร็วมาก เหมือนมีเคมีอะไรบางอย่างที่เชื่อมถึงกัน
Q : เคยสงสัยไหมว่าทำไมพอพูดถึง "มหาวิทยาลัย" มันต้องมีเรื่องเล่าผีๆ ผสมอยู่ในนั้น?
มาร์ช : ใช่ครับ ผมเคยสงสัยเหมือนกัน เพราะในมหา'ลัยมันจะมีเรื่องเล่าหนึ่งที่เด็กในนั้นต้องรู้จักกันดี เช่น เฮ้ย! ห้ามเดินผ่านห้องนี้นะ ตึกนี้มีผีนะ... หรือคิดอีกแง่หนึ่งสถานศึกษาเป็นสถานที่มีเรื่องราวเยอะ ในแต่ละปีมีคนเข้าออกหลายพันคน มีเรื่องราวของความเครียด ความกดดัน แถมอาจมีประวัติคนฆ่าตัวตาย หรือมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับคนตาย ก็เลยถูกนำมาเล่าต่อๆ กันจนกลายเป็นเรื่องหลอนในแต่ละที่
อัด : ผมคิดว่าเรื่องผีก็คือประวัติศาสตร์การเล่าแบบหนึ่งครับ เรื่องที่เคยเกิดขึ้น ณ ที่นั้น บวกกับเรื่องของคัลเจอร์ในการเป็นอยู่ของคนไทย เมื่อเรื่องผีมันถูกเล่าต่อมาเรื่อยๆ บวกกับความเชื่อแบบไทยๆ ก็กลายเป็นเรื่องผีเล่าที่บอกต่อมาเรื่อยๆ
Q : ได้มาเล่นหนังผี...คุณเชื่อเรื่องผีไหม?
ตาต้า : ผมเชื่อนะ แม้ผมจะไม่เคยเจอผีก็ตาม แต่ผมรู้สึกว่าอาจจะมีแหละ บางคนเชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อ ก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ คนที่เขาเชื่อเรื่องผีมากๆ ก็อาจเพราะเคยมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เขาเชื่อ ส่วนคนที่ไม่เชื่อ ก็อาจเพราะยังไม่เคยมีเรื่องที่ทำให้เขาสัมผัสได้
...
มาร์ช : ผมอาจไม่เคยเจอจังๆ ครับ แต่ก็อาจมีอะไรบางอย่างใกล้เคียงบ้างแหละ อาจจะแค่ประมาณ 2-3 ครั้งที่รู้สึกว่าใกล้เคียงการเจอผี
แพรวา : เคยเจอนะคะ แม้จะไม่ได้เห็นชัดๆ เป็นตัวเป็นตน แต่คิดว่าน่าจะเป็นผีแน่นอนค่ะ
จั๊มพ์ : ผมก็ยังไม่เคยเจอนะครับ ไม่เคยเจอจังๆ อาจมีแบบแวบๆ ซึ่งก็ไม่ได้การันตีว่าผีแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
อัด : ส่วนตัวผมไม่เคยเจอผีเลย และไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะเจอ หรืออยากเข้าไปทำความรู้จักนะครับ (หัวเราะ) แต่เราก็เคารพความเชื่อของแต่ละคน ซึ่งส่วนตัวเรื่องผีก็อาจไม่ได้อยู่ในความสนใจที่เราอยากจะไปโฟกัสขนาดนั้น เหมือนพอเราไม่ไปคิด เราก็ไม่ได้สนใจว่าจะต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงของมันขนาดนั้น
Q : สำหรับ อัด-อวัช ที่เคยร่วมงานกับผู้กำกับ เบิ้ล-นนทวัฒน์ นำเบญจพล ในภาพยนตร์เรื่อง "ดอยบอย" พลิกบทบาทมาเล่นหนังผี มีความแตกต่างอย่างไรบ้าง
อัด : ก็มีความแตกต่างครับ หนังสยองขวัญมันจะเป็นอีกมู้ดหนึ่ง เราก็ต้องจูนกับคาแรกเตอร์และการอยู่กับเรื่องให้ได้ อันดับแรกก็ต้องเชื่อในสิ่งที่เรากำลังเล่นอยู่ ต้องอยู่กับมัน ซื่อสัตย์กับมัน ว่ามันจะต้องมีสิ่งนี้เกิดขึ้นนะ เราเชื่อไปกับความคิดตัวละคร มันก็ท้าทายแหละครับ แต่เราก็ทำเต็มที่ไปกับทีมงาน ผู้กำกับ และนักแสดงทุกคน การได้มารับเล่นหนังผีก็รู้สึกว่าสนุกดีนะครับ เป็นความท้าทายใหม่ของผม แถมยังได้ร่วมงานกับพี่เบิ้ล-นนทวัฒน์ มันคือการค้นหาสิ่งใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กัน
Q : ถ้าเราพูดถึงผี ก็มักจะถูกเชื่อมโยงไปถึงความกลัว แล้วในฐานะนักแสดง คิดว่าอะไรที่เปรียบเสมือน "ผี" (ความกลัว) ที่ตามหลอกหลอนคุณบ้าง
...
อัด : ความกลัวคือ... กลัวไม่มีกินครับ (หัวเราะ)
แพรวา : กลัวว่าวันหนึ่งที่โอกาสเข้ามา แล้วเราจะไม่พร้อมมากกว่า เลยทำให้เราต้องพยายามที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอค่ะ
มาร์ช : ผมกลัวฟุตเทจหาย... กลัวว่าที่เราถ่ายทำหรือทำงานมาทั้งหมด เมื่อทำเสร็จแล้วฟุตเทจหาย
ตาต้า : เออ... อันนี้น่ากลัวจริง
มาร์ช : อันนี้น่ากลัวมาก ขนลุกเลยเนี่ย (หัวเราะ) เช่น เมมการ์ดมีปัญหา หรือลืมกดบันทึก ฟุตเทจที่ถ่ายมาทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงสี่ทุ่ม หาย... ขนลุกว่ะ
ตาต้า : ผมกลัวการอยู่คนเดียว สมมติถ้าถามถึงความกลัวที่เราขยะแขยง ผมกลัวตุ๊กแก แต่นี่เป็นความกลัวอีกแบบที่ไม่เหมือนกัน จริงๆ บางคนอาจไม่ได้กลัวผี แต่เขาอาจจะกลัวความมืด ถ้าหากผมต้องอยู่ในความมืด ก็ขอไม่อยู่คนเดียวได้ไหม (หัวเราะ)
จั๊มพ์ : ถ้าในมุมนักแสดงและความเป็นมนุษย์ ผมอาจจะกลัวคนเข้าใจผิดครับ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราสนใจด้านการแสดง เพราะมันสอนให้เราสื่อสารด้วยท่าทางและอวัจนภาษาให้มันถูกต้อง เป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนทักษะการแสดงของเราให้ดีขึ้น
...
Q : อะไรคือความท้าทายของการเล่นภาพยนตร์แนวสยองขวัญ
จั๊มพ์ : ผมเป็นคนไม่กลัวผี หรือไม่ค่อยแสดงออกในด้านความกลัวเท่าไร แล้วต้องมาแสดงหน้ากล้องเลย ก็ถือเป็นสิ่งที่เราต้องออกจากเซฟโซนให้ได้เหมือนกัน ด้วยระยะเวลาอันสั้น เลยต้องพยายามให้ถึงที่สุด ก็โชคดีที่มีพี่ อัด-อวัช ที่ถ่ายทำตอนเดียวกัน ช่วยให้กำลังใจอยู่ตลอดครับ
แพรวา : คิดว่าเป็นเรื่องการเอาชนะความกลัวค่ะ เราค่อนข้างเป็นคนกลัวผี ดังนั้นการเล่นหนังผี เหมือนเรากำลังพุ่งชนสิ่งที่เราไม่ชอบ ก็ท้าทายให้ลองแสดงดู แต่ขอให้เราอย่าเจออะไรเลย (หัวเราะ) เราแค่มาถ่ายทอดในฐานะนักแสดง
มาร์ช : พอเราอยู่กับบทมากๆ ซึมซับมากๆ ผมว่าเวลาเราแสดงในหนังผีแล้ว มันจะชอบเก็บเอาไปฝันครับ อาจเพราะเราเชื่อในเหตุการณ์ตรงหน้า เชื่อว่ามันมีจริง แล้วร่างกายเราจำว่าเรากลัวมันจริงๆ บางทีก็ติดเอาไปฝัน เวลาออกกองหนังสยองขวัญ ผมมักจะนอนไม่เต็มอิ่ม ชอบไปคิดถึงเรื่องอะไรที่ไม่ดี นั่นเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งว่าเราจะนอนหลับยากขึ้น ต้องรอให้ปิดกล้องก่อน ถึงจะหลุดออกมาจากความรู้สึกนั้นได้ เพราะถ้าพยายามหนีตอนถ่ายทำอยู่ ก็จะทำให้เราห่างไกลจากตัวละครไป
ตาต้า : ผมรู้สึกว่าความท้าทายคือระยะเวลาที่เราต้องทำความเข้าใจกับมัน พร้อมๆ กับที่เราต้องถอนตัวเองออกมาด้วย ในเรื่องเทอมสาม ผมถ่ายทำยาว 4 วัน 4 คิวรวด ในช่วงวันแรกๆ ยากมากครับ แล้วการเล่นหนังผีทำให้เรากลายเป็นคนเริ่มระแวง อยู่ๆ ก็กลายเป็นคนขี้กลัวเฉยเลย ก็งงเลยครับ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้คิดเรื่องผีด้วยซ้ำ เหมือนพอเราอยู่ในคาแรกเตอร์นั้น เราก็เริ่มเชื่อไปแล้ว แต่พอถ่ายทำเสร็จ ก็หาอะไรตลกๆ ดูแก้เครียดก็หายครับ
Q : ในเรื่องสั้นทั้ง 3 ตอนของ "เทอมสาม" นอกจากความสยองแล้ว คิดว่ายังสะท้อนบริบทอะไรผ่านเรื่องเล่าเหล่านั้นบ้าง
อัด : ตอนของผมมีชื่อว่า "พี่เทค" เราพูดถึงเรื่องระบบโซตัสและการรับน้อง ซึ่งผมรู้สึกว่าสิ่งที่สะท้อนออกมา สุดท้ายแล้วระบบโซตัสไม่เคยเวิร์กเลย เพราะมันไม่ได้เคารพความเป็นสิทธิมนุษย์ของกันและกัน เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ควรหายไปจากโลกได้แล้ว ระบบโซตัส การกดขี่ทางอำนาจ ไม่ว่าจะทางกาย หรือทางใจ มันไม่ควรมีใครโดนกระทำเลย ในอีกแง่หนึ่งมันได้สะท้อนเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์ด้วย มันสามารถเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติ บางทีเราไม่จำเป็นต้องไปบังคับให้มันเกิดขึ้น ถ้ามันจะเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเอง
จั๊มพ์ : ผมก็เล่นตอน "พี่เทค" กับพี่อัดครับ ผมคิดว่าเรามีสิทธิ์เลือกว่าจะเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์แบบไหน เทคแคร์เขามากน้อยแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์เราจะอยู่ร่วมกันได้นั้น ต้องมีมารยาทให้กัน เรานึกถึงคนอื่นบ้าง ถึงจะอยู่ร่วมกันอย่างมีมารยาทมีความสุข
อัด : ใช่ครับ การจะสร้างความสัมพันธ์ให้กัน มันเริ่มจากการที่คุณต้อง "Be kind" คือควรเป็นคนจิตใจดีกับคนอื่นก่อน ไม่ใช่การบังคับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะยิ่งไม่เวิร์ก
มาร์ช : สำหรับตอน "ศาลล่องหน" ก็มีประเด็นน่าสนใจซ่อนอยู่ ศาลล่องหนนั้นเป็นศาลที่บางคนเห็น บางคนไม่เห็น ก็สะท้อนมุมมองว่าเรื่องบางเรื่อง บางทีคนเราอาจมองไม่เหมือนกันก็ได้ ตีความออกมาแตกต่างกันได้ แม้กระทั่งสิ่งที่เหนือธรรมชาติ บางทีเกิดจากมนุษย์ตีความเจตนาของสิ่งเหล่านั้นไปเองด้วยซ้ำ มันเกิดจากความคิดเรา ทุกอย่างคือความคิดเรา ไม่ได้ผ่านมาจากการที่เรารับฟังอีกฝ่ายก่อน เพราะบางครั้งคนเราก็ชอบไปคิดแทนคนอื่น
แพรวา : "ศาลล่องหน" เป็นเรื่องการขอขมา ที่ทำให้เราคิดได้ว่าถ้าสมมติเราบังเอิญไปล่วงเกินใคร ก็ควรขอโทษเขานะ เป็นการแสดงความเคารพผู้อื่นด้วย
ตาต้า : ตอน "ขบวนแห่" ก็ให้ข้อคิดเรื่องการเคารพกฎเกณฑ์ของบางสิ่งครับ เช่น เราไม่ควรไปโกหก บิดเบือนความจริง หรือไปแหกกฎที่เขาตั้งไว้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้น สุดท้ายเราเลยต้องมารับผลของการกระทำที่ตามมานั่นแหละครับ
Q : สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่อง "เทอม 3" ถึงผู้ชมหน่อย
มาร์ช : "เทอม 3" เดินทางมาถึงภาค 3 แล้วนะครับ ตั้งแต่ "มหาลัยสยองขวัญ" และ "เทอมสอง สยองขวัญ" เรื่องนี้จึงถือเป็นอีกรสชาติหนึ่ง ที่เราได้หยิบตำนานในแต่ละมหาวิทยาลัยมาเรียบเรียง แปลงเป็นภาพ ผ่านการตีความของ 2 โปรดิวเซอร์ 4 ผู้กำกับที่มีส่วนผสมที่หลากหลายมาก ออกมาเป็นอาหารจานกลมกล่อม อยากให้ทุกคนไปเสพรสชาติความกลัวและความสยองขวัญกัน หวังว่าเราจะสร้างความบันเทิง สร้างความกลัวให้ผู้ชมได้นะครับ
จั๊มพ์ : คอหนังผีน่าจะไม่ผิดหวังครับ เพราะเทอม 3 ได้มัดรวมตำนานเรื่องผีฮิตๆ จาจหลายมหาวิทยาลัยมารวมกันในภาพยนตร์เรื่องเดียว ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ตอน เชื่อว่าจะต้องมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ทุกคนชอบ และได้ประสบการณ์สัมผัสความสยองกลับบ้านไป "เทอม 3" เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 30 พฤษภาคมนี้นะครับ
เรื่องย่อ "เทอม 3" (เทอมสาม) ตำนานหลอนสยองขวัญในมหาวิทยาลัยไทย
เทอม 3 ตอน ขบวนแห่
เรื่องราวของ "ก้อย" ที่ต้องแข่งขันกันแย่งทุนการศึกษากับเพื่อนสนิทอย่าง "ฮ่องเต้" ที่ก้อยแอบหลงรัก ทั้งสองจึงชวนกันไปขอพรที่ศาลเจ้านาง ซึ่งเชื่อว่าเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ประทานพรเรื่องความรัก หากไม่ใช่คู่กันจริงก็ต้องแลกด้วยชีวิต ฮ่องเต้ทำไปเพื่อให้ก้อยสบายใจ ทว่าวิญญาณเจ้านางกำลังจะมาพร้อมขบวนแห่ไร้หัว เพื่อหมายเอาชีวิตคนทั้งคู่
เทอม 3 ตอน พี่เทค
เมื่อหนุ่มรุ่นพี่อย่าง "เอิร์ธ" ไม่อินกับกิจกรรมจับคู่พี่เทค-น้องเทค ในรั้วมหาวิทยาลัย ทำให้เขาละเลย "ซัน" หนุ่มรุ่นน้องที่เขาจับชื่อได้ ทำให้มีรุ่นพี่ลึกลับปรากฏตัวขึ้นเพื่อสวมรอยเป็นพี่เทคของซัน ความประหลาดนี้ทำให้เอิร์ธต้องเริ่มต้นสืบหาความจริงเพื่อรู้ให้ได้ว่าพี่เทคปริศนาคนนี้คือใคร
เทอม 3 ตอน ศาลล่องหน
ความทะเล้นของ "วาฬ" หนุ่มคณะศิลปกรรม ที่ดันไปหยิบพวงมาลัยจากศาล มาคล้องคอให้เพื่อนสนิทอย่าง "มินท์" ในขณะที่กำลังประกวดร้องเพลง ทำให้เกิดเรื่องหลอนๆ ตามมา ทั้งคู่จึงตั้งใจจะไปขอขมา แต่พบว่าศาลลึกลับได้หายไปอย่างปริศนา ทำให้ต้องไปขอช่วย "ฮาเลย์" ให้ตามหาโดยไม่เผยความจริงให้รู้
เปิดรายชื่อนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง "เทอม 3"
- ตาต้า-ชาติชาย ชินศรี (จากผลงานเรื่อง สัปเหร่อ)
- อุ้ม-อิษยา ฮอสุวรรณ (จากผลงานเรื่อง สยามสแควร์)
- อัด-อวัช รัตนปิณฑะ (จากผลงานเรื่อง ดอยบอย)
- จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ (จากผลงานเรื่อง เพื่อน(ไม่)สนิท)
- มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล (จากผลงานเรื่อง ฝากไว้..ในกายเธอ)
- แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ (จากผลงานซีรีส์ Friend Zone เอา-ให้-ชัด)
- มาร์ค-ศิวัช จำลองกุล (จากผลงานซีรีส์ บังเอิญรัก)
ภาพยนตร์เรื่อง "เทอม 3" เข้าฉายวันไหน?
สำหรับแฟนหนังผีไทยและแฟนหนังสยองขวัญห้ามพลาด "เทอม 3" ปลุกตำนานความหลอนครั้งใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยไทย มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไทยตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
เรื่องโดย : ตติยา แก้วจันทร์
ภาพโดย : เอกลักษณ์ ไม่น้อย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม