คนไทยยังอู้ฟู่ไม่มีตก พิสูจน์ได้จากความคึกคักของงานมหกรรมยานยนต์ส่งท้ายปี ครั้งที่ 40 “MOTOR EXPO 2023” ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี นอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับรถรุ่นใหม่ๆที่ค่ายรถชั้นนำขนมาประชันกันแบบไม่มีใครยอมใคร งานนี้ยังได้สีสันจาก “พริตตี้คิวทอง” ที่เปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงดูดยอดขายให้ทะลุเป้า

...

หนึ่งในต้นแบบของ “พริตตี้คิวทอง” ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการกว่า 10 ปี แต่ยังคงรักษาความฮอตไว้ได้ ต้องยกให้ “ต้นหลิว-กัลยรัตน์ อินทร์อุไร วัย 30 ปี” เข้าวงการตั้งแต่อายุ 19 จากการชนะประกวดแบรนด์แอมบาสเดอร์ของธนาคารกรุงศรีฯ จากนั้นก็โลดแล่นอยู่ในวงการพริตตี้เต็มตัว

ต้นหลิว
ต้นหลิว

ถามว่าวิวัฒนาการของพริตตี้เปลี่ยนไปเยอะไหมจากสมัยก่อน “ต้นหลิว” เล่าว่า ยุคแรกๆที่เข้าวงการจะมีโมเดลลิ่งเป็นคนรับงานให้ เราต้องไปถ่ายรูปกับโมเดลลิ่ง และต้องคอยรับงานผ่านโมเดลลิ่ง โดนหักหัวคิว 30% งานแรกหนูได้ค่าตัววันละ 1,500 บาท แต่ความที่เราเป็นเด็กน้อยคิดว่าได้เงินเยอะมากแล้ว เคยวิ่งรอกเยอะสุดวันหนึ่ง 3 งาน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปจบเที่ยงคืน งานตามร้านอาหาร บูธเครื่องดื่มก็รับหมด ไม่เกี่ยงงาน

จริงไหมพริตตี้เป็นอาชีพสบาย ขายความสวย และรายได้ดี “ต้นหลิว” ตอบว่า เป็นอาชีพที่รายได้ดีจริง แต่รายจ่ายก็สูงตามมา เพราะเราต้องดูแลตัวเองให้สวยตลอด ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม เฉพาะหน้าก็ลงทุนเยอะมาก ต้องซื้อครีมบำรุงดีๆ ต้องเข้าคลินิกทำหน้า อย่างหน้าหนูก็แน่นฟิลเลอร์และโบทอกซ์อยู่ เพราะอายุเข้าเลขสามแล้ว หนูชอบฉีด ไม่ชอบมีดหมอเพราะกลัวเจ็บ

“เรตค่าตัวพริตตี้ทุกวันนี้แล้วแต่งาน ถ้าเป็นไลฟ์สดจะคิดเป็นชั่วโมง ได้ชั่วโมงละ 12,000 บาท ทำไลฟ์สดไม่เกิน 2 ชั่วโมง ถ้าเป็นไลฟ์เสื้อผ้าจะกินเวลาหลายชั่วโมง และค่าตัวถูกหน่อย แต่ถ้าสัมภาษณ์ดาราด้วยก็จะได้ค่าตัวสูงขึ้น งานที่ได้ค่าตัวแรงสุดก็ต้องพวกถ่ายคลิป และถ่ายโปรโมตโฆษณาสินค้า งานหนึ่งได้หลักแสน ส่วนงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ค่าตัวพริตตี้เริ่มต้นที่วันละ 2,500 บาท ไปจนถึง 7,000 บาท รับทรัพย์ทีเดียว 12-13 วัน จนจบงานก็มีรายได้เฉียดแสนบาท แต่ถ้ามีทักษะพิธีกรรับงานเฉพาะช่วงเปิดงานแล้วจบเลยจะได้เรตสูงพิเศษ การเป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป นอกจากจะได้เงินก้อนชัวร์ๆแล้ว ยังเป็นเวทีแจ้งเกิดของสาวๆวงการพริตตี้ เด็กใหม่ทุกคนต้องอยากยืนงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เป็นการสร้างโปรไฟล์ที่ถูกต้องสำหรับน้องๆที่เพิ่งเข้าวงการ”

...

ถ้าอยากเป็นแบบ “ต้นหลิว” ต้องทำยังไง เธอตอบว่า ก็ทำงานเยอะๆค่ะ พริตตี้ไม่ใช่แค่ขายความสวย แต่เวลาทำงานต้องมีวินัย, ตรงต่อเวลา และยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไว้ ต้องน่ารักสดใสเข้าหาลูกค้า เขาให้ทำอะไรก็ทำที่ไม่ได้เกินความสามารถของเรา เพราะเรามีหน้าที่เปิดประตูให้ลูกค้าเข้ามา พริตตี้ยุคใหม่ถือว่าโชคดีกว่ายุคก่อนมาก ไม่ต้องรอโมเดลลิ่งป้อนงาน และไม่ต้องวิ่งแคสต์งานอย่างเดียว แต่สามารถนำเสนอตัวเองผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย น้องๆหลายคนมาเป็นพริตตี้ได้ เพราะลูกค้าเห็นจากไอจีแล้วชอบ มีโอกาสมากกว่าสมัยก่อนเยอะ สำหรับหนูเริ่มปรับเปลี่ยนตัวเองไปทำพิธีกรมากขึ้น ค่อยๆฝึกทักษะ เริ่มรับพิธีกรตามงานอีเวนต์ มีทำไลฟ์สด และเป็นอินฟลูเอนเซอร์รับรีวิวสินค้าลงไอจี

ด้านมืดของวงการพริตตี้น่ากลัวขนาดไหน “ต้นหลิว” บอกว่า มันก็มีแหละ คนส่วนใหญ่มองว่าพริตตี้ก็เหมือนกันหมด ใช้แค่ความสวยทำมาหากิน เหมารวมว่าพริตตี้ก็เด็กเอนเด็กชงเหล้า ทั้งๆที่เราทำงานกันคนละอย่างเลย หนูเคยเจอไปทำพริตตี้ในงานเครื่องดื่ม เรามีหน้าที่แค่เอสคอร์ตลูกค้าเข้างาน เราไม่ได้มีหน้าที่ไปชงเหล้าให้ลูกค้า แต่ลูกค้ามองว่าเป็นประเภทเดียวกัน มาขอถ่ายรูปด้วย มาโอบไหล่โอบเอว เราก็ปฏิเสธไปดีๆว่าโอบไม่ได้นะคะ ขอโทษด้วยนะคะ บางงานต้องสะบัดตัวออก หรือเอาศอกกระทุ้งเลย สิ่งสำคัญอยู่ที่การวางตัวของเรา เราต้องไม่เล่นกับลูกค้า เขาจะแซวอะไรเราก็ยิ้ม อย่าไปโต้ตอบ และเอาตัวเราออกมาจากตรงนั้นซะ ถ้าถามถึงด้านบวกของวงการนี้ หนูรู้สึกว่าเราได้เรียนรู้งานใหม่ๆทุกวัน ได้เจอคนใหม่ๆทุกวัน ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ได้เจอสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทุกวัน เจอคนเยอะบ้างน้อยบ้าง แต่หนูก็ชอบนะคะ เพราะหนูเป็นคนเบื่อง่าย สนุกที่ได้เรียนรู้และปรับตัวทุกวัน

...

พริตตี้ยุคนี้มีหลายแนว มีทั้งสายเซ็กซี่ สายสวยหรูดูแพง สายใสๆน่ารัก สายตัวเล็ก สายตัวสูง สายที่เป็นโมเดลได้ สุดท้ายแล้วทุกคนเวลาเจอกันเป็นเพื่อนกันหมดเลย สายเซ็กซี่ไม่ใช่คนไม่ดีนะคะ เพียงแต่เขาถนัดแบบนั้น และแค่ทำตามหน้าที่เฉยๆ ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ไม่ได้มีอะไรไม่ดี สมัยนี้เปิดกว้างกว่าเดิมเยอะ สมัยก่อนชอบขอพริตตี้ผิวขาว แต่เดี๋ยวนี้ขอมีความเก๋ในแบบตัวเอง ยิ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวยิ่งเด่น

“ต้นหลิว” ยืนยันว่า หนูภูมิใจกับอาชีพตัวเองมาก เพราะทำให้เราสามารถดูแลพ่อแม่และครอบครัวได้ หนูส่งน้องสาวเรียนหนังสือ ดูแลตัวเองโดยไม่ต้องขอเงินใคร หนูทำงานสุจริตร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่งตัวเองเรียนจนจบคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เอาจริงๆชีวิตตอนมาจากอ่างทองใหม่ๆลำบากค่ะ หนูเคยอยู่ห้องเช่าหลังรามฯเดือนละ 1,500 บาท ไม่มีแอร์ด้วยซ้ำ เคยถึงขั้นไม่มีเงินเลย วันหนึ่งต้องกินข้าวมื้อเดียว นั่งรถเมล์และต่อเรือ วันละ 2-3 ชั่วโมง เพื่อไปทำงาน หนูเริ่มต้นทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่ ม.4-ม.5 เป็นพนักงานตามบูธให้ชิมอาหาร ได้เงินวันละ 300 บาท เข้างานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม ทุกวันจันทร์ต้องไปแคสต์งานใหม่ สมัยก่อนเคยประกวดนางงามที่ต่างจังหวัด ส่งรูปไปแคสต์งาน พอเจอตัวจริงเราแต่งหน้าไม่เป็น โดนแคนเซิลหน้างาน ต้องกลับบ้านมือเปล่า ตรงนี้จำได้ฝังใจเลย ทุกวันนี้หนูอยู่สุขสบายและมีความสุขกับชีวิตแล้ว หนูมีความฝันอยากทำมาร์เกตติ้งคอนเทนต์ ก็เริ่มเป็นที่ปรึกษาให้แบรนด์เสื้อผ้า ทุกวันนี้วงการอีเวนต์ไม่ได้เข้าร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เริ่มหันไปทำพิธีกรมากขึ้น พยายามปรับงานให้โตขึ้น และขึ้นเวทีใหญ่ได้ สัมภาษณ์ดาราได้ ทำงานวงการนี้การแข่งขันสูงมาก อยากประสบความสำเร็จต้องทำตัวน่ารักไว้ก่อน, มีมายด์เซตดี, ยิ้มแย้มแจ่มใส, เป็นตัวของตัวเอง และตั้งใจทำงานให้ดี ผู้ใหญ่ก็เมตตาแล้วค่ะ

...

ด้าน “ติวเตอร์-ศศิภา พิพัฒน์อนุสรณ์” เจ้าแม่วงการพริตตี้ ยืนหนึ่งคู่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปมาทุกยุคทุกสมัย จนปีนี้อายุเข้าเลขสามแล้ว บอกเล่าถึงเส้นทางการแจ้งเกิดว่า ด้วยความใฝ่ฝันอยาก

ติวเตอร์
ติวเตอร์

ทำงานพริตตี้มาตั้งแต่เด็ก จึงสมัครไปยืนเชียร์สินค้าตามห้างในช่วงปิดเทอม ยืนทั้งวันได้ค่าตัววันละ 300 บาท จากนั้นมีคนแนะนำให้ส่งอีเมลไปแคสต์งานผ่านเว็บบอร์ดดังในอินเตอร์เน็ต ได้งานอีเวนต์งานแรก “ไทยแลนด์เกมโชว์” ค่าตัววันละ 1,500 บาท ต่อมามีโมเดลลิ่งชวนไปแคสต์กับค่ายรถ ช่วงนั้นทำจมูกมาอย่างเดียว ยังไม่มีหน้าอก หนูยังเด็กมาก แต่โดนชุดเซ็กซี่ไม่มั่นใจเลย รู้สึกว่าไม่ได้ล่ะ ต้องไปเสริมอึ๋มให้เซ็กซี่ขึ้น หมอเสริมให้ใหญ่เบิ้ม

ทำงานวงการพริตตี้ย่อมต้องเจอกับมุมมืดบ้าง “ติวเตอร์” เล่าประสบการณ์ว่า เคยเจอดาร์กๆโดนหลอกไปแคสต์งาน แต่ไปถึงไม่มีงานจริง บางทีลูกค้าลวนลามเราบ้าง แต่เราก็เอาตัวรอดมาได้ ตอนเข้าวงการใหม่ๆ เราเป็นเด็กน้อย มีคนจ้างไปถ่ายแบบ เราอุตส่าห์เอาแฟนไปด้วย ตอนถ่ายแบบก็แค่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นไม่ได้โป๊อะไร แต่รู้สึกว่ามุมถ่ายรูปแปลกๆ เลยขอเช็กรูป ปรากฏว่าซูมแต่จุดวาบหวิวและหน้าอกของเรา หนูเลยสั่งให้ลบทิ้งทั้งหมด เพราะเจตนาไม่ดีไม่ถ่ายหน้าเราเลย เวลาทำงานเราต้องบอกกติกาชัดเจนกับลูกค้า บางงานถามว่าเต้นได้ ไหม เราเต้นได้กรุบกริบ แต่ไม่ใช่ฟีลเซ็กซี่ยั่วยวน เราต้องอธิบายว่าลูกค้าถ่ายรูปสนุกสนานได้นะคะ แต่ห้ามจับห้ามลวนลาม เราสร้างสีสันและชวนเล่นเกมได้ แต่ถ้าอยากได้เด็กเอนเด็กชงเหล้าก็ต้องจ้างน้องๆอีกกลุ่มหนึ่ง ตัวจริงหนูเป็นคนนิสัยผู้ชายห้าวๆลุยๆไม่ได้จริตเซ็กซี่เหมือนในเนื้องาน

“ติวเตอร์” ยอมรับว่า อาชีพพริตตี้เป็นหนึ่งในอาชีพที่รายได้ดี ปัจจุบันงานพริตตี้ทำรายได้วันละ 3,000-5,000 บาท คุณสมบัติของพริตตี้ที่ดีคือ ต้องมีความเป็นโปรเฟสชันนอล เราตกลงรับงานมาแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ให้รู้สึกว่าจ้างมาแล้วคุ้มค่า ต้องวางตัวว่าเป็นคนทำงานคนหนึ่ง อย่าคิดว่าเป็นพริตตี้เป็นคนดัง พรีเซนต์ให้ดีที่สุด ถ้างานออกมาดี คนก็เรียกใช้เราอีก งานพริตตี้ไม่ได้ขายความสวยอย่างเดียว ต้องสามารถทำงานให้ออกมาดี พรีเซนต์สินค้าออกมาได้ดี ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ต้องยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้าเป็นสีสันของงานได้ ลูกค้าแต่ละรายก็มีโจทย์ไม่เหมือนกัน บางรายอยากให้พรีเซนต์แล้วสินค้าดูแพงขึ้น บางรายอยากให้พริตตี้ทำคอนเทนต์ได้ด้วย เป็นพริตตี้ที่ดีต้องพัฒนาตัวเองตลอด หนูรับงานทุกอย่าง ทั้งรถยนต์, พิธีกร, ไลฟ์สด, งานอินฟลู ถนัดสินค้าทุกประเภท โดยเฉพาะความสวยความงาม ต่อไปก็อยากไปสกิลทางการมากขึ้น มีไปเรียนพิธีกรบ้าง ถ่ายแบบก็ยังรับอยู่ และรับรีวิวสินค้าทางไอจีด้วย

ถามว่าภูมิใจกับอาชีพนี้แค่ไหน “ติวเตอร์” ยิ้มรับว่า ภูมิใจกับอาชีพนี้มากๆ เรียกว่าเป็นอาชีพที่ให้อะไรเราหลายอย่าง ได้เปิดโลกได้เจอคนเก่งๆ ตอนเข้าวงการใหม่ๆ คุณพ่อไม่สนับสนุนอาชีพนี้เลย ท่านทำงานรัฐวิสาหกิจ และหวงลูกสาวมาก แต่หนูใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง และตั้งใจเรียนจนจบด้านไอที จากราชภัฏสวนสุนันทา ทุกวันนี้คุณพ่อโอเคมาก หนูสามารถทำมันออกมาได้ดี ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่แล้ว

อยากอยู่ยงคงกระพันในวงการพริตตี้มีเคล็ดลับอย่างไร “ติวเตอร์” กระซิบว่า ตอนนี้ดูแลตัวเองทุกอย่าง เพราะวัยเลขสามแล้ว อันดับแรกต้องเข้าฟิตเนสออกกำลังกายเพื่อให้หุ่นกระชับจะได้ดูเด็ก เรื่องบำรุงผิวก็สำคัญ กระปุกละหลายพันหนูก็สู้ โชคดีที่มีหลายคลินิกช่วยดูแลความสวยความงามให้อยู่ ทั้งฉีดฟิลเลอร์และโบทอกซ์ ส่วนเรื่องศัลยกรรมความงาม หนูขึ้นเขียงมาจนไม่มีพื้นที่ให้ขึ้นแล้ว ทำทุกอย่างเลยบนหน้า โดยเฉพาะตาและจมูก แก้อยู่หลายครั้งกว่าจะได้หน้าสวยขนาดนี้ คิดว่าพอแล้วขอหยุดก่อน.

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่