เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม คือเรื่องสำคัญที่ผู้ประกันตนทุกมาตรา รวมถึงนายจ้างไม่ควรมองข้าม เพื่อเป็นการปกป้องและคุ้มครองสิทธิประกันสังคมของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ด้วยคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มาช่วยพัฒนาระบบประกันสังคมให้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม คืออะไร
การเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคมครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ประชาชนผู้จ่ายเงินเข้าระบบประกันสังคมเป็นประจำต่อเนื่องทุกเดือน ทั้งผู้ประกันตนมาตรา 33, มาตรา 39 และมาตรา 40 รวมทั้งนายจ้าง จะได้เข้าคูหาเลือกตัวแทนที่จะมาจัดการเงินกองทุนนี้โดยตรงแบบ 1 สิทธิ 1 เสียง เพื่อเป็นตัวแทนในการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน และบริหารกองทุนประกันสังคมให้มีเสถียรภาพ อันจะนำไปสู่การยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของนายจ้าง และผู้ประกันตนทุกมาตราให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม สำคัญอย่างไร
เพราะคณะกรรมการประกันสังคม จะเข้ามาจัดการและดูแล “กองทุนประกันสังคม” ซึ่งมีผลต่อสิทธิประโยชน์ที่ทุกคนพึงได้รับ โดยมีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญ ดังนี้
- มีอำนาจเสนอและพิจารณาความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการประกันสังคม
- วางระเบียบเกี่ยวกับการรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินกองทุน รวมทั้งจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน
- พิจารณางบดุล + รายงานการรับจ่ายเงินของกองทุน
- ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการอื่นหรือสำนักงาน
- และหน้าที่อื่นๆ ที่ต้องดูแลรับผิดชอบ
เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม มีขั้นตอนอะไรบ้าง
สำหรับผู้ประกันตน และนายจ้าง ที่ต้องการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ต้องทำการลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิดังกล่าวก่อน ซึ่งทางสำนักงานประกันสังคมได้ประกาศเลื่อนระยะเวลาหมดเขตลงทะเบียนจากเดิมคือวันที่ 31 ต.ค. 2566 ออกไปอีก 10 วัน จนถึงวันที่ 10 พ.ย. 2566 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เพิ่งรับทราบประกาศการเลือกตั้งและยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถใช้สิทธิใช้เสียงของตนเองได้ โดยสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
...
- ทางเว็บไซต์ www.sso.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. (ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ)
- พร้อมประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในวันที่ 21 พ.ย. 2566
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
นอกจากต้องเป็นผู้ประกันตนทั้ง 3 มาตรา หรือนายจ้างแล้ว ยังต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ถึงจะมีสิทธิเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมได้
ผู้ประกันตน
- มีสัญชาติไทย
- ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อนเดือนที่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้ง (มีนาคม-สิงหาคม 2566)
- จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ภายใน 6 เดือนก่อนเดือนที่ประกาศเลือกตั้ง)
นายจ้าง
- มีสัญชาติไทย
- ขึ้นทะเบียนเป็นนายจ้างติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนเดือนที่มีประกาศให้มีการเลือกตั้ง (มีนาคม-สิงหาคม 2566)
- จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ภายใน 6 เดือนก่อนเดือนที่ประกาศเลือกตั้ง)
- กรณีนายจ้างเป็นนิติบุคคลผู้จะใช้สิทธิต้องอยู่ในฐานะผู้มีอำนาจ/กรณีเป็นผู้มีอำนาจในนิติบุคคลมากกว่า 1 นิติบุคคลต้องเลือกใช้สิทธิได้เพียงแห่งเดียว
เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมวันไหน และไปเลือกได้ที่ไหนบ้าง
สำหรับวันเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม 2566 เวลา 08.00-16.00 น. โดยแต่ละพื้นที่จะมีจำนวนหน่วยเลือกตั้งแตกต่างกันไป
จำนวนหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ภาคกลาง
- กรุงเทพมหานคร มี 14 หน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย เขตคลองเตย เขตคันนายาว เขตดินแดง เขตธนบุรี เขตบางขุนเทียน เขตบางเขน เขตบางแค เขตบางรัก เขตปทุมวัน เขตพระนคร เขตมีนบุรี เขตยานนาวา เขตสวนหลวง และเขตหลักสี่
- จังหวัดสมุทรปราการ มีหกหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอบางบ่อ อำเภอบางพลี อำเภอบางเสาธง อำเภอพระประแดง อำเภอพระสมุทรเจดีย์ และอำเภอเมืองสมุทรปราการ
- จังหวัดสมุทรสาคร มีสองหน่วยเลือกตั้ง คือ อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอเมืองสมุทรสาคร
- จังหวัดนนทบุรี มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอบางบัวทอง และอำเภอเมืองนนทบุรี
- ขณะที่จังหวัดอื่นๆ อย่างจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง ต่างมีหน่วยเลือกตั้งเดียวในแต่ละจังหวัด โดยจะตั้งอยู่ภายในเขตอำเภอเมืองเท่านั้น
จำนวนหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ภาคตะวันออก
- จังหวัดชลบุรี มีสามหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอบางละมุง อำเภอศรีราชา และอำเภอเมืองชลบุรี
- จังหวัดระยอง มีสามหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอนิคมพัฒนา อำเภอปลวกแดง และอำเภอเมืองระยอง
- จังหวัดปราจีนบุรี มีสามหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอศรีมหาโพธิ และอำเภอเมืองปราจีนบุรี
- จังหวัดฉะเชิงเทรา มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอบางปะกง และอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา
- จังหวัดตราด มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอเกาะช้าง และอำเภอเมืองตราด
- ขณะที่จังหวัดอื่นๆ อย่างจังหวัดจันทบุรี นครนายก และสระแก้ว ต่างมีหน่วยเลือกตั้งเดียวในแต่ละจังหวัด โดยจะตั้งอยู่ภายในเขตอำเภอเมืองเท่านั้น
...
จำนวนหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ภาคตะวันตก
- จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสามหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอบางสะพาน อำเภอปราณบุรี อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
- จังหวัดนครปฐม มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอสามพราน และอำเภอเมืองนครปฐม
- ขณะที่จังหวัดอื่นๆ อย่างจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี และราชบุรี ต่างมีหน่วยเลือกตั้งเดียวในแต่ละจังหวัด โดยจะตั้งอยู่ภายในเขตอำเภอเมืองเท่านั้น
จำนวนหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- จังหวัดขอนแก่น มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอชุมแพ และอำเภอเมืองขอนแก่น
- จังหวัดนครราชสีมา มีสามหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอโนนสูง อำเภอปากช่อง และอำเภอเมืองนครราชสีมา
- ขณะที่จังหวัดอื่นๆ อย่างจังหวัดกาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครพนม บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ต่างมีหน่วยเลือกตั้งเดียวในแต่ละจังหวัด โดยจะตั้งอยู่ภายในเขตอำเภอเมืองเท่านั้น
จำนวนหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ภาคเหนือ
- จังหวัดเชียงใหม่ มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอฝาง และอำเภอเมืองเชียงใหม่
- จังหวัดลำปาง มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอเถิน และอำเภอเมืองลำปาง
- จังหวัดน่าน มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอปัว และอำเภอเมืองน่าน
- จังหวัดตาก มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอแม่สอด และอำเภอเมืองตาก
- ขณะที่จังหวัดอื่นๆ อย่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำพูน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และพิจิตร ต่างมีหน่วยเลือกตั้งเดียวในแต่ละจังหวัด โดยจะตั้งอยู่ภายในเขตอำเภอเมืองเท่านั้น
...
จำนวนหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้
- จังหวัดชุมพร มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอหลังสวน และอำเภอเมืองชุมพร
- จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอทุ่งสง และอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
- จังหวัดสงขลา มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอเมืองสงขลา
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสองหน่วยเลือกตั้ง ประกอบไปด้วย อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
- ขณะที่จังหวัดอื่นๆ อย่างจังหวัดกระบี่ ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา ระนอง และสตูล ต่างมีหน่วยเลือกตั้งเดียวในแต่ละจังหวัด โดยจะตั้งอยู่ภายในเขตอำเภอเมืองเท่านั้น
ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบขับขี่ ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ หรือนำบัตรอื่นที่มีรูปถ่ายและเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือบัตรที่หมดอายุแล้ว ก็สามารถนำไปใช้แสดงตนได้ แต่สำหรับฝ่ายนายจ้างต้องมีหนังสือการจดทะเบียนนิติบุคคลที่มีการรับรองไม่เกินหกเดือนมาแสดงด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานประกันสังคม, iLaw