ในช่วงเช้าของทุกวันมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการเครื่องดื่มที่ปลุกให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการงัวเงีย และเครื่องดื่มที่ช่วยให้ใครหลายคนรู้สึกตื่นตัวได้ดีก็คือ “กาแฟ” จึงเป็นที่มาของคำฮิตติดปากในหมู่วัยรุ่นว่า ‘กินกาแฟเพื่อตื่น’ แต่ก็มีวัยรุ่นคอกาแฟอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจตอบกลับด้วยประโยคที่ว่า ‘ฉันไม่ได้กินกาแฟเพื่อตื่น แต่ฉันตื่นมาเพื่อกินกาแฟ’ ซึ่งเป็นประโยคที่เหล่าวัยรุ่นจะหยอกล้อกันในเชิงขำขันท่ามกลางมิตรสหาย และอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงวันสำคัญที่คอกาแฟจะพลาดไม่ได้แล้ว เพราะเป็นวันกาแฟสากล (International Coffee Day) ที่ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี และยังเป็นวันพิเศษที่องค์การกาแฟนานาชาติ (International Coffee Organization: ICO) จัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมืองมิลานในประเทศอิตาลี หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันดีว่าดินแดนแห่งต้นกำเนิดชื่อกาแฟนานาชนิด
ปัจจุบันการดื่มกาแฟนั้นกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ช่วยให้ใครหลายคนเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้อย่างสดใส เพราะกาแฟแก้วโปรดหนึ่งแก้วสามารถสร้างโมเมนต์ดีๆ และเชื่อมความผูกพันกับเพื่อนๆ หรือคนใกล้ตัวได้ในทุกวัน จึงทำให้กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมจากคนไทยมากที่สุดในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยจากการสำรวจพบว่าคนไทยหนึ่งคนจะดื่มกาแฟเฉลี่ยประมาณ 586 แก้วต่อปี ซึ่งแปลว่าคนไทยหนึ่งคนจะดื่มกาแฟมากกว่า 1 แก้วต่อวันนั่นเอง
ด้วยความชื่นชอบในการดื่มกาแฟของคนไทย องค์การกาแฟนานาชาติ (International Coffee Organization: ICO) จึงจัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่นิยมดื่มกาแฟเป็นอันดับที่ 24 ของโลก และเมนูกาแฟที่คนไทยนิยมดื่มมากที่สุดก็คือเมนูกาแฟใส่นม ซึ่งจัดเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่คอกาแฟชาวไทย โดยหนึ่งในแบรนด์กาแฟที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานก็คือ ‘เนสกาแฟ’ ที่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 และยังเป็นแบรนด์กาแฟที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากผู้บริโภคไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นผู้นำตลาดกาแฟในปัจจุบัน
แต่หลายคนอาจมีคำถามว่าเนสกาแฟเป็นของใคร แท้ที่จริงแล้ว เจ้าของเนสกาแฟ คือ บริษัท เนสท์เล่ เอส. เอ. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และจัดจำหน่ายโดย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดย เนสท์เล่ เอส. เอ. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั่นเอง
เนื่องจากเนสท์เล่เป็นเจ้าของเนสกาแฟ จึงได้สร้างแบรนด์เนสกาแฟขึ้นในปี 1938 โดยมี Max Morgenthaler ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟและทีมงานที่คอยรังสรรค์กาแฟสำเร็จรูปให้คงรสชาติกาแฟในแบบธรรมชาติ ด้วยการเติมน้ำลงไปได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ที่มาของการคิดค้นกาแฟสำเร็จรูปเกิดขึ้นหลังจากเนสท์เล่ได้รับคำท้าให้เข้าไปช่วยเก็บรักษาเมล็ดกาแฟที่ตกค้างในประเทศบราซิลที่ประสบปัญหาจากการล่มสลายของตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีทในปี 1929 ซึ่งใช้เวลาคิดค้นรวม 9 ปี โดยที่มาของชื่อเนสกาแฟนั้นเกิดจากการผสานตัวอักษรสามตัวแรกของชื่อบริษัท Nestlé และต่อท้ายด้วยคำว่า ‘café’ กลายเป็นชื่อ NESCAFÉ ของเนสท์เล่ ที่ครองใจคอกาแฟทั่วโลก
นอกจากจะเป็นแบรนด์กาแฟที่ครองใจเหล่าคนรักกาแฟแล้ว ในปีนี้ทางบริษัท เนสท์เล่ เจ้าของแบรนด์เนสกาแฟ ก็ได้จัดงาน NESCAFÉ Day อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน โดยนับเป็นครั้งแรกที่เนสกาแฟได้จำลองสวนกาแฟ พร้อมเรื่องราวของการเกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) มาไว้ที่กลางเมือง พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนได้ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ ซึ่งทุกต้นจะมีส่วนสร้างความสมบูรณ์และความหลากหลายในทางชีวภาพ นอกจากนั้น ยังมี กาแฟหอมๆ อร่อยๆ คุณภาพดี มาให้เหล่าคอกาแฟได้ลองชิม และยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ให้ผู้คนได้เก็บภาพความประทับใจกันอีกด้วย
โดยบรรยากาศภายในงานเหล่าคอกาแฟจะได้พบกับ หนุ่ม กรรชัย, ณเดชน์ คูกิมิยะ, ต่อ ธนภพ, แจม รชตะ, กลัฟ คณาวุฒิ ที่พร้อมจัดความสนุกให้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ร่วมลุ้นเป็น 80 ผู้โชคดี ที่จะได้ร่วมกิจกรรม Meet & Plant ปลูกต้นไม้แบบใกล้ชิด กับเหล่าศิลปินทั้ง ต่อ, กลัฟ, แจม และคู่ซี้เฟิร์ส-ข้าวตัง โดยงาน NESCAFÉ Day จะจัดขึ้นในวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ชั้น 1 แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน และสำหรับใครที่อยากมาร่วม #ชงเนสกาแฟปลูกความยั่งยืน ติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook: NESCAFÉ