การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากทุกกิจกรรมของมนุษย์บนโลกนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่าภาวะโลกร้อน ที่กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลก จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างๆ ทางธรรมชาติที่แปรปรวนไปทั่วโลกจนเป็นที่น่ากังวลต่อโลกของเราในอนาคตข้างหน้า

มนุษย์เราสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 4.6 ตัน ต่อปี ทำให้การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน กลายเป็นวาระสำคัญที่ผู้นำระดับโลกนั้นจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความแตกต่างที่มีความหมาย และลดระดับความรุนแรงของสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนไป เช่น เลือกใช้พลังงานหมุนเวียน การรีไซเคิลขยะ กิจกรรมลดคาร์บอนอย่างยั่งยืน และอีกมากมาย

ฐานะปัจเจกบุคคล กลุ่มคนกลุ่มเล็กๆ ก็สามารถมีส่วนร่วมกันคนละไม้ คนละมือ เพื่อลดปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาสู่โลกได้ง่ายๆ จากการร่วมกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น และเพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเล็กน้อย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

4 พฤติกรรมช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

...

ลดการเดินทางด้วยเครื่องบิน

หนึ่งเที่ยวของการเดินทางด้วยเครื่องบิน ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.6 ตัน ต่อเที่ยว หากใช้เวลาเดินทางเป็นเวลา 14 ชั่วโมงขึ้นไป จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าหนึ่งในสี่ของคนทั่วไปที่ปล่อยก๊าซออกมาต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนที่มากอย่างยิ่ง 

การหลีกเลี่ยงการสัญจรด้วยเครื่องบินอาจเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับใครบางคน แต่อย่างไรก็ตาม หากมีโอกาสที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งต่อโลกของเรา เพียงลดการเดินทางด้วยเครื่องบิน สัก 1-2 ครั้งต่อปี ก็ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปได้หลายตันเลยทีเดียว

การไดเอต หรือคุมอาหาร

การปรุงอาหาร หรือการทานเนื้อวัวเพียง 1 กิโลกรัม สามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงราวๆ 0.5-0.75 กิโลคาร์บอนไดออกไซด์ ในขณะที่เนื้อไก่ และถั่วเหลือง ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ถึง 0.25 กิโลคาร์บอนไดออกไซด์ แต่อย่างไรก็ตามเนื้อสัตว์เหล่านี้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาก่อนแล้วจากฟาร์ม ก่อนจะวางสู่ตลาด ทำให้อัตราคาร์บอนเพิ่มขึ้นไปอีก

แม้ว่าเนื้อสัตว์จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่ฟาร์ม ไปจนสู่การกิน แต่การช่วยโลกลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นไม่ได้หมายความว่า มนุษย์เราต้องเลิกรับประทานเนื้อวัว หรือเนื้อสัตว์แต่อย่างไร ซึ่งการช่วยโลกของเราได้นั้นเพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการทานเนื้อวัว ด้วยการลดมื้ออาหาร หรือลดปริมาณเนื้อลง ก็สามารถช่วยโลกได้แล้ว แถมยังเป็นการไดเอต สร้างความเฟิร์มให้แก่ร่างกายได้

ปรับเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าในบ้าน

การปรับเปลี่ยนองศาของแอร์ หรือฮีตเตอร์ เพียง 1-2 องศา หรือหยุดใช้งานเพียงชั่วครู่ก็สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อย่างชัดเจน หรือแม้กระทั่งการซักผ้าในน้ำอุณหภูมิปกติด้วยมือ และตากแห้งธรรมชาติ แทนเครื่องซักผ้าในบางครั้งหากรณรงค์ และสามารถทำได้ทุกครัวเรือน ก็จะทำให้ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อย่างมหาศาล แถมค่าไฟภายในบ้านก็ลดลงตามด้วย เฉลี่ยถึง 10% ต่อเดือน 

...

ใช้ขนส่งสาธารณะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2.5 ตัน ต่อปี รวมถึงการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ก็ยังสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ โดยอัตราคาร์บอนไดออกไซด์จะลดลงครึ่งหนึ่งจากรถยนต์น้ำมัน ดังนั้นแล้วหากสามารถเดินทางได้ด้วยรถขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟ รถเมล์ ก็จะเป็นทางออกที่ดีมากในการลดภาระของโลก รวมถึงหากสามารถปั่นจักรยาน หรือสัญจรด้วยการเดินได้ ก็จะส่งผลดีต่อโลกของเรา แถมยังประหยัดเงิน และได้ออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรงไปในตัวด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ว่าการช่วยลดปัญหาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาสู่โลก ในรายบุคคลอาจจะส่งผลเล็กน้อย ที่มีอัตราก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ไม่มากนัก แต่ถ้าหากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเหล่านี้ได้ในลักษณะกลุ่มใหญ่ จนไปถึงระดับประเทศ ก็จะสามารถลดภาระของโลก และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นจำนวนที่มหาศาล ซึ่งส่งผลต่อโลกไปในทิศทางบวกได้อย่างแน่นอน 

ทั้งหมดข้างต้น มีส่วนทำให้การฟื้นตัวของโลก กลับมาได้เร็วยิ่งขึ้น และนี่คือเหตุผลสำคัญที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับสถานการณ์เหล่านี้ จนเกิดนโยบาย การรณรงค์ และการให้ความรู้ เรื่องของการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้นอย่างวิกฤติอยู่ในโลกของเราปัจจุบัน  

ข้อมูล : bbc-reel

ภาพ : istock