ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศความสำเร็จของการท่องเที่ยวไทยในวาระ 8 ปี พร้อมส่งไม้ต่อให้ผู้ว่าฯ คนใหม่ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและก้าวสู่สิ่งที่ดีขึ้นในปีหน้า
การแถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวปี 2567 หลังจากที่ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าฯ ททท. อยู่ในตำแหน่งเป็นเวลา 8 ปี ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้ประกอบการ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันตั้งแต่สองปีแรก เริ่มต่อสู้กับทัวร์ศูนย์เหรียญ เหตุการณ์ภูเก็ต และ 3 ปี กับสถานการณ์โควิด ที่ไม่มีใครลืม และไม่มีใครอยากเจอ
ถึงวันนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวตอนนี้กลับมาอย่างเต็มตัว จากจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2565 มีจำนวนกว่า 11 ล้านคน ในปี 2566 ผ่านไป 6 เดือนแรก ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวถึง 12.78 ล้านคน สร้างรายได้ 618,000 ล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยก็คึกคักเที่ยว สร้างรายได้ 325,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 944,500 ล้านบาท
“ย้อนไปวันแรก 1 ก.ย. 2558 ที่มารับตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. ที่มีความสำคัญ และมีความตั้งใจสองอย่าง คือ อยากเห็นททท.เป็นหน่วยงานทำงานกับทุกท่านได้ มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดเท่าที่จะทำได้ และผลักดันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ สร้างรายได้ กระจายรายได้และเป็นธรรม”
...
เขาได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานภายใต้คำว่า Move แสดงถึงความเคลื่อนไหว การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เป็นเจตจำนงตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งผู้ว่าการ ใช้ตลอดจนขณะนี้และอีกไม่กี่วันข้างหน้า
M = Marketing and More ททท. เป็นมากกว่าการท่องเที่ยว เพราะช่วยดูแลผู้ประกอบการ
O = Operational excellence นำไปสู่องค์กรที่มีสมรรถนะได้รับความยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
V = Value Creation สร้างเครือข่ายความร่วมมือตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
E = Effectiveness มุ่งมั่นตั้งใจในการแก้วิกฤติ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ททท.พร้อมจะทำงานกับทุกท่าน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
จากนั้น ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ ได้เล่าถึงโจทย์ที่ท้าทายในการทำงานมาทุกตั้งแต่ปี 2561-2562 จนถึงปี 2563 ซึ่งเจอสิ่งท้าทายอย่างยิ่งทั่วโลกเพราะโควิดระบาด และในปี 2564 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวรู้จักคำว่า New Normal ในการบริหารจัดการให้การท่องเที่ยวปลอดภัยมากขึ้น
ในปี 2565 เป็นช่วงเวลาของการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างผลกระทบเชิงบวก มิติเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อม อย่างสมดุล สร้างท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และปี 2566 คือการปรับตัวสู่การท่องเที่ยวแบบใหม่ สร้างภาพลักษณ์ให้มีความยั่งยืน การพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างสมดุลต่อความต้องการอย่างรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวในแง่จำนวน แต่สร้างรายได้จากกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ พร้อมสร้างอีโคซิสเต็มเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
“เรากำลังเจอวิกฤติเชิงซ้อน บางสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาดหมาย ถ้าให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้มแข็ง เผชิญวิกฤติทุกโอกาส ล้มให้เป็น ลุกให้ไว โดยสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว หรือ Tourism Security เพื่อให้มั่นใจว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะเติบโตอย่างเข้มแข็ง และ ไปต่อ อย่างมีภูมิคุ้มกันระยะยาว สามารถเผชิญวิกฤติเชิงซ้อนได้”
4 ปัจจัยสำคัญที่สร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ได้แก่
- เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานบนพื้นฐานของคุณภาพและความยั่งยืน สอดรับกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
- พัฒนาปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว เอื้อต่อการเดินทางอย่างสะดวก และปลอดภัย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี มีคุณค่าอย่างเท่าเทียม ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
- ใช้ประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนสู่โลกดิจิทัล เพิ่ม Digital Literacy ลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล เน้นการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าและความยั่งยืน
- ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงภายนอก อย่างมีประสิทธิภาพ
การสร้างสมดุลอย่างยั่งยืน ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคน ททท.ต้องดำเนินการบริหารความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบ การสร้างความยั่งยืน มีกระบวนการทางด้าน CSR เป็นเครื่องยืนยันว่า ททท.จะสร้างความยั่งยืนต่อไป
“ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่ง ปณิธาน และความตั้งใจ ที่เล่าตลอดช่วงปีที่ผ่านมานั้น จะได้รับการสานต่อ ผู้ว่าการท่านใหม่ ท่านฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ เป็นคนที่อยู่กับททท.มานาน และผมคิดว่าทุกท่านรู้จักกันดี ผมดีใจและถือเป็นโอกาสสำคัญยิ่ง ในการที่จะส่งมอบสิ่งที่เรียกว่าจะเป็นเมล็ดพันธ์ุ และต้นกล้าแห่งความยั่งยืนไว้ให้ท่านผู้ว่าททท.ท่านใหม่ และชาวททท.ไว้ดูแลกันต่อไป เพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของพวกเราจะได้เติบโตอย่างมีคุณค่า และยั่งยืนต่อไป”
...
ด้าน ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ซึ่งจะรับตำแหน่งผู้ว่าฯ ททท. คนใหม่ได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าฯ ททท. คนปัจจุบัน ว่า
“ขอบคุณท่านผู้ว่ายุทธศักดิ์ สุภสร ขอเสียงปรบมือดังๆ อีกครั้ง ท่านเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ท่านทำให้กับองค์กรและอุตสาหกรรมของเรามาตลอด 8 ปี เมล็ดพันธุ์ที่ท่านมอบให้นี้ พวกเรา ททท.ก็จะทำให้เติบโต เติบใหญ่ และสร้างความก้าวไกลให้อุตสาหกรรมของประเทศไทย ที่พวกเราดูแลอยู่นี้”