Pepsi เตรียมตัวเปลี่ยนโลโก้ใหม่ในปี 2024 นี้ ตั้งเป้าปรับยุคย้อนวัยเอาใจ Gen Z คาดใช้ที่แรกในตลาดอเมริกาเหนือ

เนื่องจากเทรนด์กระแสของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนในยุคสมัยใหม่ต่างโหยหาความทรงจำเก่าๆ เพื่อให้ย้อนนึกถึงช่วงเวลาก่อนยุคเทคโนโลยีเฟื่องฟู ที่เห็นกันได้อย่างชัดเจน คือ กระแส Y2K ที่นำการแต่งตัวแบบป๊อปคัลเจอร์สมัยเก่า มาผสมสานแฟชั่นในสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว และเริ่มพัฒนาการจากยุคแฟชั่นมินิมอลให้ดูมีสีสันเพิ่มมากขึ้น

เหตุผลข้างต้นทำให้ PepsiCo, Inc บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อย่าง Pepsi ได้เล็งเห็นช่องทางตลาดใหม่จากคน Gen Z (คนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1995–2009) เนื่องจากคนกลุ่มนี้เริ่มจะมีกำลังใช้จ่ายที่มากขึ้นในปัจจุบัน และคนกลุ่มนี้มักเลือกหาสินค้า และบริการที่บ่งบอกที่มาของตนเองได้ รวมทั้งเป็นกลุ่มคนที่กล้าตัดสินใจซื้อได้ไวที่สุด

จากช่องทางการตลาดกับกลุ่มลูกค้า Gen Z นี้ทำให้ Mauro Porcini เจ้าหน้าที่หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ PepsiCo, Inc มีความตั้งใจออกแบบโลโก้ใหม่ของ Pepsi ให้กลับไปเหมือนกับโลโก้เก่าในยุค 1987-1997 โดยจะพาผู้บริโภคย้อนวัยกลับไปในความทรงจำของตัวเองในวัยเด็กที่มีประสบการณ์ร่วมกับ Pepsi และยังนำตัวอักษรเก่าของ Pepsi มาดัดแปลง เติมสีสัน ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะขัดกับเทรนด์การตลาดแบบมินิมอลในยุคก่อนหน้านี้ก็ตาม

Mauro Porcini กล่าวเสริม แรงบันดาลใจในการเปลี่ยนโลโก้ครั้งนี้ มาจากการได้เห็นแฟชั่นในปัจจุบันที่ได้เริ่มนำของยุคเก่ากลับมาใช้ให้ชวนนึกถึงอีกครั้ง และแฟชั่นเหล่านี้มีสีสันสะดุดตา รวมไปถึงบางผลิตภัณฑ์ในตลาดก็มีนโยบายการเปลี่ยนกลับมาใช้โลโก้เดิมอีกครั้งแล้วด้วย

ซึ่งทาง Pepsi ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มลูกค้าที่ยังคงนิยมเครื่องดื่ม Pepsi อยู่ ยังเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมในยุค 90s ที่มีจำนวนมากที่สุด ซึ่งยังจดจำเอกลักษณ์เก่าๆ ของ Pepsi ได้อย่างชัดเจน และต้องการเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าใหม่ๆ ตามเทรนด์ของแฟชั่นนี้ควบคู่ไปอีกด้วย โดยกำหนดการในการเปลี่ยนโลโก้นั้นจะเริ่มจากทวีปอเมริกาเหนือเป็นที่แรก ภายในปี 2024 นี้

...

ปัจจุบันกระแสการย้อนยุคได้เข้ามาสู่ตลาดต่างๆ มากมายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่พวกเราคงได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น การย้อนยุคของตราสโมสรกีฬา เสื้อผ้า รถยนต์ รวมทั้งการตกแต่งบ้าน และเชื่อว่ายังคงมีหลายตลาดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโลกที่กำลังย้อนกลับไปสู่วันวานเก่าๆ ในอดีต เพื่อเข้าถึงเทรนด์การตลาดแบบนี้เพิ่มอีกอย่างแน่นอน

ที่มา : businessinsider

ขอบคุณภาพ : pepsico