เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย จ่ายเงินสด กับ ผ่อนจ่าย ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน

จากกรณีดราม่าที่ดาราสาว มารี เบรินเนอร์ หลุดปากพูดในรายการของตนเองว่า “คนไทยมีนิสัยชอบผ่อน” ทำให้เกิดกระแสทัวร์ลงเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็เกิดคำถามว่าจ่ายเงินสดดีกว่าการผ่อนจ่ายจริงหรือ และแบบไหนดีกว่ากัน

การจ่ายเงินสด กับ การผ่อนจ่าย คืออะไร

  • "การจ่ายเงินสด" คือ การชำระค่าสินค้าและบริการทั้งหมดในจำนวนเต็มด้วยเงินสด เท่ากับว่าเราต้องมีเงินสำรองที่เพียงพอ หรือมากกว่าราคาสินค้าเพื่อใช้ในการชำระ รวมทั้งมีเงินสดส่วนที่เหลือเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
  • “การผ่อนจ่าย” คือ รูปแบบหนึ่งของการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยการทำสัญญาเพื่อแบ่งชำระออกเป็นงวด ซึ่งการผ่อนจ่ายส่วนใหญ่มักทำผ่านสถาบันการเงินในรูปแบบของบัตรเครดิต เพื่อใช้ชำระสินค้าและบริการ ซึ่งอาจมีการคิดดอกเบี้ยตามมา หรืออาจทำสัญญาผ่อนจ่ายโดยตรงกับทางร้านค้าก็ได้

ข้อดีของการจ่ายเงินสด

  1. สามารถเป็นเจ้าของสินค้าและบริการได้ในทันทีโดยไม่ต้องรอโปรโมชั่นในการผ่อนจ่าย
  2. ไม่มีดอกเบี้ยตามมาในภายหลัง
  3. ไม่ต้องคอยจำกำหนดวันชำระค่าสินค้า
  4. ได้ส่วนลดจากการซื้อสินค้าผ่านเงินสด
  5. รู้ความเคลื่อนไหวของบัญชีเงินเก็บได้ในทันทีที่ชำระค่าสินค้าและบริการ

ข้อเสียของการจ่ายเงินสด

  1. การซื้อสินค้าบางอย่างด้วยเงินสด เช่น บ้าน รถ อาจทำให้เราไม่เหลือเงินเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
  2. ต้องใช้ระยะเวลาในการเก็บเงินเพื่อซื้อสินค้า จึงอาจทำให้ไม่สามารถซื้อสินค้าบางชิ้นที่วางขายในระยะเวลาที่จำกัดได้
  3. ไม่ได้รับเครดิตเงินคืน หรือสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัลแบบบัตรเครดิต
  4. ประวัติการเงินจะไม่ถูกบันทึกไว้ในเครดิตบูโร จึงทำให้เมื่อต้องยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถจะต้องหาเอกสารเพื่อยืนยันสถานะการเงิน
  5. มีความเสี่ยงต่อการสูญหาย หรือเกิดการโจรกรรม เมื่อต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก

...


ข้อดีของการผ่อนจ่ายสินค้าและบริการ

  1. สามารถเป็นเจ้าของสินค้าและบริการที่ราคาสูงได้โดยที่ไม่ต้องใช้เงินก้อน
  2. ในบางร้านอาจมีโปรโมชั่นผ่อน 0% เพื่อกระตุ้นในการใช้จ่าย จึงทำให้เราสามารถซื้อสินค้าในราคาปกติได้โดยไม่ต้องใช้เงินก้อน
  3. มีการสะสมแต้มคะแนนและรับเงินคืน เมื่อใช้วงเงินครบตามที่กำหนด
  4. ลดความเสี่ยงในการพกเงินสดเป็นจำนวนมากติดตัว
  5. การชำระสินค้าด้วยการผ่อนจ่ายถือเป็นการสะสมเครดิตบูโรติดตัว ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ ที่จะตามมาในอนาคต
ข้อควรระวังของการผ่อนจ่าย คือความมีระเบียบวินัยในการชำระเงินที่ถูกต้องและสม่ำเสมอ รวมทั้งต้องบังคับตัวเองไม่ให้สุรุ่ยสุร่ายเพื่อไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัวจนเกิดหนี้สินจำนวนมากตามมาในอนาคต
ข้อควรระวังของการผ่อนจ่าย คือความมีระเบียบวินัยในการชำระเงินที่ถูกต้องและสม่ำเสมอ รวมทั้งต้องบังคับตัวเองไม่ให้สุรุ่ยสุร่ายเพื่อไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัวจนเกิดหนี้สินจำนวนมากตามมาในอนาคต

ข้อเสียของการผ่อนจ่ายสินค้าและบริการ

  1. มีการคิดค่ารูดสินค้าและดอกเบี้ย กรณีที่ไม่ใช่การผ่อน 0%
  2. ห้ามชำระค่าบริการเกินกำหนดจากที่แจ้ง มิเช่นนั้นอาจจะโดนคิดค่าปรับตามมา
  3. ถ้าหากเป็นคนที่ไม่มีวินัยในการใช้เงิน บางครั้งการมีบัตรเครดิตจะทำให้เรารูดซื้อสินค้าจนกลายเป็นหนี้ก้อนโตโดยไม่รู้ตัวตามมาได้
  4. ประวัติการชำระจะถูกบันทึกอยู่ในเครดิตบูโร ถ้าหากเคยผ่อนจ่ายไม่ตรงกำหนดหรือติดหนี้บัตรเครดิตหลายๆ ใบ จะส่งผลโดยตรงเมื่อยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถในอนาคต

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินสดหรือการผ่อนจ่าย ทั้งสองรูปแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยของผู้ชำระค่าสินค้าและบริการนั้นๆ ทั้งในเรื่องรายได้ จำนวนเงินสดสำรอง ไปจนถึงระเบียบวินัยในการใช้เงินของแต่ละบุคคลด้วย ดังนั้นการจะตัดสินแบบเหมารวมว่าการผ่อนจ่ายเป็นเรื่องไม่ดีคงไม่ถูกต้องนัก เพราะแต่ละคนย่อมมีความสามารถและเงื่อนไขในการใช้จ่ายและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันนั่นเอง.