“พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3” คือตำแหน่งใหม่ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทลำดับที่ 1 ที่ได้รับการสืบทอดในทันทีหลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ในวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย. 2565 เพื่อทำหน้าที่เป็นประมุของค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพอังกฤษ

ประวัติของ “พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3”

ชีวิตวัยเด็กและการศึกษา

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ประสูติเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2491 เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ และมีพี่น้องทั้งหมดสามคนได้แก่ เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กซ์

ในวัยเด็ก พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ถูกส่งตัวไปโรงเรียนประจำในสกอตแลนด์ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องระเบียบวินัย รวมทั้งยังใช้เวลาส่วนหนึ่งในวัยเด็กที่ออสเตรเลียด้วย ในปี 2513 พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยด้านมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์ที่วิทยาลัยทรินิตี เมืองเคมบริดจ์ และกลายเป็นราชาหรือทายาทแห่งบัลลังก์พระองค์แรกที่ได้รับปริญญา

...

ขณะที่พระองค์กำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยก็เข้ารับการฝึกเป็นนักบินจากกองทัพอากาศไปพร้อมกัน และเมื่อสำเร็จการศึกษาก็ได้เข้าประจำการกับกองทัพอากาศและกองทัพเรือแห่งสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 7 ปีด้วยกัน

นอกจากนี้ ในปี 2512 พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้ใช้เวลาหนึ่งปีที่ University College of Wales ในการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและภาษาของเวลส์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ ซึ่งต่อมาพระองค์ได้รับตำแหน่งนั้นในปี 2520

ชีวิตส่วนตัว

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับไดอานา สเปนเซอร์ ซึ่งต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าหญิงไดอานา ที่มหาวิหารเซนต์ปอล ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2524 ซึ่งเป็นพิธีแต่งงานที่ผู้คนนับล้านทั่วโลกจับตาดู เจ้าหญิงไดอานาได้กลายเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลกด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามน่าดึงดูดอีกทั้งยังอุทิศตนให้ความใส่ใจในเรื่องการกุศล

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และเจ้าหญิงไดอานา มีพระโอรสด้วยกัน 2 พระองค์ คือ เจ้าชายวิลเลียม ประสูติเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2525 และเจ้าชายแฮร์รี่ ประสูติเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2527 ซึ่งปัจจุบันทั้งสองพระองค์ได้อภิเษกสมรสและมีพระโอรส พระธิดาให้กับราชวงศ์สืบต่อมาแล้ว

ขณะเดียวกัน ชีวิตรักของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และเจ้าหญิงไดอานา เป็นประเด็นที่จับตามองของสื่อมวลชนและคนทั่วโลก ด้วยปัญหาความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกัน และในปี 2535 ทั้งสองพระองค์ได้หย่าร้างกัน ทำให้ราชวงศ์อังกฤษยุคใหม่เป็นที่จับตามอง

ในปี 2539 เจ้าหญิงไดอานาได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์สิ้นพระชนม์ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ทั่วโลกตกใจและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และราชวงศ์อังกฤษอย่างรุนแรง แต่เมื่อเวลาผ่านไปความรุนแรงก็เริ่มเบาบางลง และพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ก็ได้อภิเษกสมรสใหม่กับคามิลลาผู้ซึ่งเป็นคนรักเก่า ในวันที่ 9 เมษายน 2548

และจากการเฉลิมฉลองวาระการครองราชย์ครบ 70 ปี ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีฯ ได้ตรัสว่า พระองค์ทรงต้องการให้คามิลลาซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ เป็นที่รู้จักในนาม "พระราชินี" หลังจากที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์

ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม

...

ในส่วนของพระราชกรณียกิจของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พระองค์ทรงให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลานานก่อนที่จะกลายเป็นกระแสในปัจจุบัน และยังคงสนับสนุนในนามของสิ่งแวดล้อมมาจนถึงทุกวันนี้ ควบคู่ไปกับงานการกุศลอื่นๆ

จากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ในปี 2564 พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้วิงวอนให้ประเทศต่างๆ ทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นเรื่องที่พระองค์ให้ความสนใจมาตั้งแต่ปี 2511 และปัจจุบันเรื่องนี้กลายเป็นกระแสหลักและเป็นประเด็นทางการเมือง นอกจากนี้ พระองค์ยังเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญของข้อตกลง Paris Climate Accord ประจำปี 2558 อีกด้วย

ที่มา: Anadolu Agency, CNN