เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ประกาศเลิกจ้างพนักงานอีก 300 คน โดยเป็นการปลดพนักงานครั้งที่สองในรอบหนึ่งเดือน สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการปลดพนักงานมาจากรายได้การเติบโตที่ช้าลงของเน็ตฟลิกซ์
การปลดพนักงานเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วสำหรับเน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการสตรีมมิงรายใหญ่ของโลก โดยการประกาศปลดคนงานในครั้งนี้ ถือเป็นการปลดพนักงานเป็นครั้งที่สองในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน ซึ่งครั้งนั้นมีการปรับลดพนักงาน 150 คน คิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด
การปรับลดพนักงานลงของเน็ตฟลิกซ์ มีเหตุผลสำคัญจากการที่พวกเขาสูญเสียยอดสมาชิกเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ในช่วงการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่หนึ่งของปี 2022 เน็ตฟลิกซ์สูญเสียมูลค่าเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะการที่พวกเขามียอดสมาชิกลดลงถึง 2 แสนราย และในช่วงหลังประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2022 คาดว่าเน็ตฟลิกซ์จะสูญเสียยอดสมาชิกอีก 2 ล้านรายเลยทีเดียว
แถลงการณ์ของเน็ตฟลิกซ์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันที่พวกเราเสียใจอย่างมากที่จะต้องปล่อยพนักงานราว 300 คน ในขณะที่เรายังลงทุนอย่างหนักในธุรกิจนี้ เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนค่าใช้จ่ายตามการเติบโตของรายได้ที่ช้าลง เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกอย่างที่พวกเขาทำเพื่อเน็ตฟลิกซ์
ปัจจุบัน เน็ตฟลิกซ์มีพนักงานราว 11,000 คน
ที่ผ่านมา ธุรกิจสตรีมมิงเป็นธุรกิจที่เน็ตฟลิกซ์ผูกขาดความเป็นผู้นำมาตลอด แต่การที่มีดิสนีย์พลัส (Disney Plus) และเอชบีโอ แม็กซ์ (HBO Max) ตลอดจนคู่แข่งรายอื่นจึงทำให้ความเข้มข้นของธุรกิจสตรีมมิงหนักหน่วงรุนแรงมากขึ้น พร้อมกับทำให้บัลลังก์ผู้นำของเน็ตฟลิกซ์สั่นคลอนในที่สุด
นอกจากเรื่องของการแข่งขันแล้ว เน็ตฟลิกซ์ยังต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ เงินเฟ้อที่พุ่งสูง สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ไปจนถึงสถานการณ์ของโควิด-19 ซึ่งแม้ยังไม่จบสิ้น แต่ผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้นแล้ว
...
ทางด้านนโยบายใหม่ๆ ที่เน็ตฟลิกซ์เตรียมขุดมาใช้เพื่อกู้สถานการณ์ในเวลานี้ ก็จะมีตั้งแต่การออกแพ็กเกจในราคาที่ถูกลง, การเพิ่มระบบโฆษณา นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่เน็ตฟลิกซ์ค่อยๆ ดำเนินการอยู่ก็คือ การปราบปรามการแชร์รหัสผ่านร่วมกัน
ที่มา: Variety