แอปเปิลเตรียมปรับโครงสร้างภายในครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในส่วนภาคธุรกิจบริการ (Services business) ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า แอปเปิลกำลังเอาจริงในธุรกิจสตรีมมิงและธุรกิจโฆษณา

รายงานของสำนักข่าวบิสซิเนส อินไซเดอร์ เปิดเผยว่า แอปเปิลมีแนวความคิดที่จะปรับโครงสร้างธุรกิจบริการของตัวเอง ซึ่งมีมูลค่ามากถึง 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจส่วนนี้ หรือถ้ากล่าวเฉพาะเจาะจงก็คือธุรกิจสตรีมมิงและธุรกิจโฆษณาให้เติบโตมากขึ้น

ปัจจุบัน ธุรกิจบริการของแอปเปิลประกอบไปด้วยแอปสโตร์, แอปเปิล มิวสิก, ไอคลาวด์, แอปเปิลแคร์, แอปเปิลเพย์, แอปเปิล นิวส์, แอปเปิลทีวีพลัส (Apple TV+) และธุรกิจโฆษณา

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ธุรกิจบริการของแอปเปิลเติบโตมากถึง 17 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อไตรมาสที่แล้ว อีกทั้งยังมีผู้สมัครสมาชิกทั่วโลกมากถึง 825 ล้านราย จนอาจกล่าวได้ว่า ถ้าหากแอปเปิลคิดจะแยกธุรกิจบริการของตัวเองออกมาเป็นบริษัทเดี่ยว มีมูลค่าในอันดับที่ 113 ตามการประเมินของฟอร์ทูน 500 เลยทีเดียว

ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้ เอ็ดดี คิว (Eddy Cue) รองประธานอาวุโสฝ่ายบริการของแอปเปิล กำลังมองหาแนวทางเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจนี้ จากข้อมูลของแหล่งข่าวภายในแอปเปิล เปิดเผยกับบิสซิเนส อินไซเดอร์

สาเหตุที่ทำให้แอปเปิลเริ่มให้ความสนใจในการปรับโครงสร้างส่วนนี้ นอกเหนือจากรายได้ที่เริ่มพอกพูนมากขึ้นแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ พวกเขาต้องการต่อยอดความสำเร็จจากภาพยนตร์เรื่อง CODA (Child of Deaf Adults) ที่ประกาศศักดาคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ครั้งที่ 95 ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และการต่อยอดการถ่ายทอดสดกีฬา โดยนำร่องจากการแข่งขันเมเจอร์ลีกเบสบอลประจำคืนวันศุกร์

...

การปรับโครงสร้างภายในจึงทำให้ขอบเขตหน้าที่การทำงานของ ปีเตอร์ สเติร์น จากเดิมที่ดูแลหลายหน่วยงานของฝ่ายบริการลดลงเหลือส่วนวิดีโอ, ข่าว, หนังสือ, คลาวด์, ฟิตเนสพลัส และแอปเปิล วัน เพื่อลดภาระงานที่หนักหน่วงเกินไป และในอนาคตมีโอกาสอย่างยิ่งที่จะได้เห็นแอปเปิลคว้าสิทธิ์การถ่ายทอดสดอเมริกันเกมเพิ่มเติม เช่น เอ็นบีเอ และ เอ็นเอฟแอล โดยเฉพาะการแข่งขันในวันอาทิตย์ เนื่องจากสเติร์น มีความคุ้นเคยกับธุรกิจกีฬาเป็นอย่างดี

ในเวลานี้ แอปเปิลทีวีพลัส ยังมีฐานผู้ใช้งานที่ค่อนข้างเล็ก การเพิ่มรายการถ่ายทอดสดกีฬา ก็มีโอกาสที่จะได้เติมยอดจำนวนสมาชิกหน้าใหม่ พร้อมด้วยรายได้เสริมจากแพ็กเกจกีฬา และรายได้จากโฆษณาต่อไป

ในส่วนธุรกิจโฆษณา ซึ่งแต่เดิมเป็นงานของ ปีเตอร์ สเติร์น ก็จะถูกส่งต่อให้กับ ท็อดด์ เทเรซี

แหล่งข่าวของบิสซิเนส อินไซเดอร์ กล่าวด้วยว่า ธุรกิจโฆษณาของแอปเปิลใหญ่พอที่จะดูแลตัวเองได้ โดยในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตมากถึง 238 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบระหว่างปี 2021 และ 2020 คิดเป็น 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจโฆษณาของแอปเปิลเติบโตได้ดี แต่ก็มีขนาดที่ใหญ่เกินไปเช่นกัน

โฆษกแอปเปิลปฏิเสธที่จะให้ความเห็นจากรายงานของบิสซิเนส อินไซเดอร์

ที่มา: Business Insider