เมื่อ 50 ปีที่แล้ว นักบินอวกาศในภารกิจอพอลโล (Apollo) ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา ได้ใช้ท่อคู่หนึ่งยาว 35 เซนติเมตร กว้าง 4 เซนติเมตร ตอกลงไปยังพื้นผิวดวงจันทร์เพื่อเก็บตัวอย่างหินและดิน โดยท่อหนึ่งปิดผนึกสุญญากาศ ในขณะที่อีกท่อหนึ่งถูกใส่ในภาชนะปกติที่ไม่ได้ปิดผนึก

โดยทั้ง 2 ท่อก็ถูกนำกลับมายังโลกตัวอย่างบรรจุในท่อที่ไม่ได้ปิดผนึกสุญญากาศได้ถูกเปิดขึ้นแล้วในปี 2562 แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์อวกาศจอห์นสันขององค์การนาซา ที่นครฮิวส์ตัน ในสหรัฐฯ เตรียมจะเปิดท่อแรกอย่างระมัดระวัง ซึ่งท่อดังกล่าวถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนามาตลอดหลายปี นับตั้งแต่เสร็จสิ้นภารกิจอพอลโล 17 ในปี 2515 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่มนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ ทั้งนี้ ตัวอย่างที่ได้จากภารกิจอพอลโล 17 ก็จะมีอายุ 50 ปีในวันที่ 13 ธ.ค.ปีนี้ เรียกได้ว่าท่อที่ปิดผนึกด้วยสุญญากาศชิ้นที่จะเปิดนี้น่าตื่นเต้นกว่าชิ้นไหนๆ เพราะอาจมีสิ่งที่เรียกว่า “สารระเหย” หรือ “ก๊าซ” ระเหยออกมาจากตัวอย่างข้างใน

...

นักวิทยาศาสตร์เผยว่า ตัวปิดผนึกด้านนอกได้ถูกเปิดออก แต่ตัวปิดผนึกด้านในยังไม่เสียหาย พวกเขาจะเจาะท่อตัวอย่างก่อนและดักจับก๊าซที่อาจติดอยู่ หลังจากสกัดก๊าซแล้วก็จะนำดินและหินดวงจันทร์ออกมา ด้านผู้นำโครงการที่มาจากองค์การอวกาศยุโรปเผยว่า องค์ประกอบของก๊าซแต่ละชนิด เมื่อได้รับการ วิเคราะห์ก็เชื่อว่าจะช่วยให้ข้อมูลถึงส่วนต่างๆที่เกี่ยวกับต้นกำเนิดและวิวัฒนาการของสารระเหยหรือก๊าซบนดวงจันทร์ รวมถึงภายในระบบสุริยะยุคแรกได้.