ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงไม่มีตก มนาเทศ อันนวัฒน์ พิสูจน์ฝีมือการทำงานมาหลากหลายวงการ กลับมารับบทบาทใหม่ในฐานะผู้ผลิตรายการทีวี พร้อมเปิดใจเรียนรู้งานทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต
คุณจูเนียร์-มนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้บริหารที่มีไฟทำงานอย่างโชติช่วง ผ่านงานมาหลากหลายธุรกิจที่ล้วนยืนอยู่ในแถวหน้า แต่ละแห่งล้วนเป็นโรงเรียนสอนและเสริมประสบการณ์ให้แข็งแกร่ง และสามารถนำมาใช้ในชีวิตการทำงานให้ตกผลึกมากยิ่งขึ้น โดย คุณจูเนียร์-มนาเทศ เล่าว่า ความเป็นตัวตนของตนเริ่มจากที่บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รับตนจากอเมริกา หลังจากที่จบปริญญาโท สาขาการตลาด การเงิน และการธนาคาร มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ แล้วส่งตัวมาทำงานที่เมืองไทย ที่ลาดกระบัง ทำงานด้านมาร์เกตติ้ง ซึ่งที่นี่เป็นโรงเรียนที่ดีมาก เรียนรู้อะไรเยอะมาก ทำได้ 6 ปี หลัง จากนั้นก็มาทำที่บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เป็น Marketing Manager Beverage ที่ลาวและที่ไทย เป็นอีกโรงเรียนที่ทำให้ตนได้รู้จักวิธีการทำงานหลายอย่างมาก จากนั้นมาทำที่บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด ซึ่งที่นี่ได้ทำงานหลากหลายบทบาท เป็น Department Head--Corporate Marketing, Head of Marketing-Mobile Phone Business, Corporate Spokesperson, Senior Marketing Manager--IMC, PR & Telecom. Business Corporate Spokesperson โดยทำได้ 6 ปี และเป็นโรงเรียนอีกที่ที่ดีได้รับโอกาสมากมายจากผู้บริหาร
...
“ชีวิตผมได้เปิดกว้างขึ้นอีก เมื่อเข้ามาทำงานที่ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์ สยามพารากอน ในตำแหน่ง Board of Director Bangkok Arena and EMLive Theatre, Senior Deputy Managing Director The Emporium & EmQuartier, Chief Marketing Officer Siam Paragon Shopping Complex จากนั้นก็มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด (CMO) บมจ.ไรมอน แลนด์ ทีแรกว่าจะหยุดสักพัก แต่จับพลัดจับผลูได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนๆน้องๆ ทำร้านอาหารปูขี่พริก และผลิตละครโทรทัศน์ รายการโทรทัศน์ต่างๆภายใต้ชื่อบริษัท World Y Entertainment โดยเราทำละครสาย Y เรื่อง You’re My Sky จุดหมายคือ ท้องฟ้า ทางช่อง One แต่ก่อนหน้านี้ ที่ทำงานประจำเคยชิมลางทำละครมาก่อนหน้าแล้วเรื่องหนึ่งเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ซึ่งผมก็ทำหน้าที่บริหาร ทำด้านการตลาด ดูสัญญา ดีลช่อง และหาพาร์ตเนอร์ต่างๆ” ผู้บริหารไฟแรงเล่าถึงงานที่ทำอย่างปัจจุบัน
ผ่านงานมาหลากหลายบทบาท คุณจูเนียร์ บอกว่า ที่ผ่านมาได้เรียนรู้จากการทำงานเยอะมาก อย่างแรกการทำงานเราต้องมี passion ทำงานด้วยกันกับสิ่งที่เรารัก การทำงานต้องมีความตั้งใจ แล้วงานจะออกมาดี ต้องมีใจมีความรัก ทำอะไรก็ตามทำให้มันเต็มที่ และเรียนรู้ในสิ่งที่ทำ ไม่ใช่สักแต่ทำ เราต้องคิดว่าจะทำให้แตกต่างจากคนอื่นอย่างไร ที่มาของเหตุคืออะไร เพื่อที่เราจะได้ทำผลให้ออกมาดี แล้วบางครั้งเราเอาสิ่งที่ได้จากธรรมะมาสอนในชีวิตการงานเราได้ด้วย เช่น เรื่องเหตุผล เวลาเราทำงานก็ต้องเจอคนที่เราถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ตอนเป็นเด็กเราอาจจะคิดเยอะ แต่สุดท้ายเราก็รู้ว่าทุกอย่างมีตั้งอยู่ ดับไป ทุกอย่างเป็นแบบนี้ พรุ่งนี้เริ่มต้นใหม่แล้ว หลักธรรมะ อิทธิบาท 4 ช่วยในการทำงานได้อย่างดี
“เมื่อก่อนเราอาจจะคิดว่า คีย์ความสำเร็จเราต้องเป็นตำแหน่งนี้ เป็นซีอีโอ ต้องมีเงินเท่านี้ มีอะไรเท่านี้ แต่ทุกวันนี้ความคิดเปลี่ยนตั้งแต่โควิดรอบแรก และรอบที่ 2 ตั้งแต่เราเข้าวัด ทำบุญ ทำอะไรเยอะมากขึ้น เรามองต่างเลย ผมคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จ คือคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านโลก ครอบครัว และทางด้านธรรม ทางโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน เรื่องครอบครัว อะไรต่างๆต้องไปด้วยกันได้ บาลานซ์ชีวิตให้ได้ มีเวลาให้กับคนที่เรารัก มีเวลาช่วยเหลือคนรอบข้างครับ”...บทสรุปสุดท้ายของผู้บริหารไฟแรงคนนี้.
