เป็นคนจริงที่กล้าคิดกล้าพูดกล้าทำ!! “เศรษฐา ทวีสิน” บอสใหญ่แห่งแสนสิริ ย้ำชัดคนแข็งแรงกว่าต้องช่วยคนอ่อนแอกว่า ยิ่งสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 สังคมจะเดินหน้าต่อไปได้ ต้องไม่มีใครถูกทอดทิ้งแม้แต่คนเดียว

“อย่ามาถามดีกว่าเป็นหน้าที่ของใคร ตอนนี้ใครทำอะไรได้ก็ต้องทำทันที จะบอกว่าหน้าที่จัดหาวัคซีนเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หน้าที่ช่วยเหลือคนอ่อนแอเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ทำไมรัฐบาลไม่ทำให้ดี ผมว่ามันไม่มีประโยชน์จะมาเถียงกัน เพราะไม่ช่วยให้อะไรๆดีขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆแบบนี้ ใครทำอะไรได้ก็ต้องทำเลย ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และต้องถือเป็นหน้าที่ที่คนแข็งแรงกว่าต้องช่วยคนอ่อนแอกว่า ถ้าเราแข็งแรงคนเดียวอยู่ไปก็ไม่มีความสุขหรอก เอสเอ็มอีล้มเราจะอยู่ได้เหรอครับ ผมยืนยันว่าไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลคนเดียว แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม”...บอสใหญ่แสนสิริ เตือนสติคนไทย

...

ต้องทำอย่างไรจึงจะประคับประคองให้สังคมไทยเดินหน้าต่อไปได้

ผมอยากให้บริษัทใหญ่ๆในตลาดหลักทรัพย์มาช่วยกัน เพื่อประเทศไทยของเราจะได้ฟื้นตัวและข้ามวิกฤติโควิด-19 ไปได้ โดยไม่ทอดทิ้งใครไว้แม้แต่คนเดียว เพราะการสร้างสังคมที่ดีสร้างชีวิตที่ดี ต้องหมายถึงคนไทยทุกคน สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย คือช่องว่างความมั่งคั่งระหว่าง “คนมี” กับ “คนไม่มี” กำลังขยายตัวกว้างขึ้นอย่างน่ากลัว ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าวิกฤติโควิดครั้งนี้จะทำให้คนจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 1.5 ล้านคน ทุกประเทศมีวิธีแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ผ่านนโยบายอัดฉีดเงินเข้าระบบ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย, การแจกเงิน, การลดภาษี และผ่อนปรนหนี้ แต่มาตรการเหล่านี้ไม่ใช่คำตอบที่จะลดช่องว่างทางสังคม ผมขอเสนอแนะให้รัฐบาลหยิบยกปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อให้สังคมไทยฟื้นตัวอย่างยั่งยืนโดยไม่มีใครถูกทอดทิ้ง

ในฐานะคนแข็งแรงกว่า “แสนสิริ” ยื่นมือช่วยเหลือคนอ่อนแออย่างไรบ้าง

เราเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆ แต่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประเทศไทยให้ก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปด้วยกัน ที่ผ่านมาแสนสิริใช้งบไปแล้ว 100 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้เกิด “วัคซีนทั่วถึง-รักษาเท่าเทียม-พยุงคนลำบาก” โดยเราทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ตั้งแต่ร่วมสร้างโรงพยาบาลสนามบุษราคัม, ช่วยแคมป์คนงาน, ช่วยเหลือเกษตรกร, ช่วยช้างไทย พร้อมบริจาคเงินสมทบภาครัฐ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงเท่าเทียมกัน ล่าสุด ได้บริจาคเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือการแพทย์ มูลค่า 8 ล้านบาท แก่กระทรวงสาธารณสุข และร่วมบริจาคเงิน 4 ล้านบาท ให้ศูนย์วัคซีนกลางบางซื่อ เพื่อปูพรมฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้พนักงาน, คู่ค้า และประชาชนทั่วไป รวมทั้งจัดซื้อโมเดอร์นาเข็มที่ 3 ให้พนักงานรวม 6,000 คน

...

อะไรคือทางรอดที่จะพาประเทศฝ่าวิกฤติไปได้ โดยไม่มีใครถูกทอดทิ้ง

วิกฤติโควิดจะฟื้นได้ หากมีวัคซีนที่ดีทั่วถึงโดยเร็วที่สุด คนป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ภาครัฐควรจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และขาดรายได้ ควบคู่ไปกับการพักชำระหนี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจของประเทศ ที่สำคัญต้องไม่ลืมมองข้ามช็อตไป ถึงวัคซีนปีถัดๆไป เรามีบทเรียนมาแล้ว ตอนนี้ก็สั่งวัคซีนมาก่อนเลย 3 เท่าของจำนวนประชากรภาครัฐควรลงทุนกับสวัสดิภาพและความมั่นใจของประชาชนในระยะยาว เพื่อแก้วิกฤติศรัทธาและฟื้นความมั่นใจ

...

เราจะสร้างการเติบโตให้เศรษฐกิจไทยในระยะยาวได้อย่างไร

ผมอยากเสนอให้ภาครัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เพิ่ม เพราะแผนลงทุนโครงสร้างขนาดใหญ่กระตุ้นให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างและการจ้างงานมหาศาลตามมา ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศ รัฐต้องหาเงินมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบเพิ่ม โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และธุรกิจท่องเที่ยว ผ่านการกู้เงินเพิ่มและเก็บภาษีมรดกคนรวย อย่าไปกลัวที่จะต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ เพราะเมืองไทยต้องแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ที่ตอนนี้เร่งกู้เงินมาอัดฉีดเยียวยากันหมดแล้ว หากไทยไม่เร่งกู้ สุดท้ายเงินในระบบจะถูกดูดไปหมดก่อน คล้ายกับกรณีวัคซีน ที่สำคัญคือเมื่อกู้เงินมาแล้วก็ต้องรู้จักจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ รัฐบาลควรขอขยายสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ตอนนี้อยู่ที่ 60% เช่นเดียวกับหลายประเทศที่มีการปรับสูงขึ้นแล้ว

...

ยังมีมาตรการอะไรอีกไหมที่จะกู้ชีพประเทศไทยให้ฟื้นจากโคม่า

ขอเสนอให้ปรับโครงสร้างการเก็บภาษี เพราะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐ ที่จะนำมาใช้ชำระหนี้และดำเนินการบริหารโครงการต่างๆของประเทศ เช่น เก็บภาษีเพิ่มจากผู้ที่มั่งคั่งในสังคม ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องเพิ่มแรงจูงใจให้เกษตรกรกลับไปสร้างผลิตผลทางการเกษตร แทนที่จะรอเงินช่วยเหลืออย่างเดียว ด้วยการช่วยพยุงราคาสินค้าและประกันราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าว, ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน, มันสำปะหลัง และอ้อย เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มพอเลี้ยงตัวเองให้ผ่านพ้นวิกฤติ อีกด้านหนึ่งรัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหาการบินไทยและพยุงสายการบินอื่นๆ อย่ามองว่าเป็นการอุ้มธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง เพราะ GDP ของไทย พึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาก ถ้าเปิดประเทศเมื่อไหร่ แล้วไม่มีสายการบินหลักคอยให้บริการ ก็จะไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ ดังนั้นต้องเร่งแก้ปัญหาการบินไทยให้จบ เร่งปรับโครงสร้างหนี้ ปรับองค์กรให้โปร่งใส

นักลงทุนต่างชาติพากันเมินประเทศไทย ทำยังไงให้กลับมายืนหนึ่งบนเวทีโลก

เราต้องเร่งออกมาตรการเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ผมเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ปริมาณการลงทุนจะดีดตัวขึ้น ตอนนี้ไทยเริ่มโดนสิงคโปร์, เวียดนาม และอินโดนีเซีย ทิ้งห่างไปเยอะ การคิดหามาตรการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นภาษี หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็นอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ของรัฐบาล ขณะเดียวกัน ก็ต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา เพราะเศรษฐกิจและการเมืองแยกกันไม่ขาด เช่น ที่มาของ “250 ส.ว.” ไม่สะท้อนภาพความเสมอภาค ผมเห็นว่าหากเศรษฐกิจฟื้นคืนมา แต่องค์ประกอบการเมืองยังเป็นชนวนความขัดแย้ง ประชาชนจะไม่มีความมั่นใจ และเศรษฐกิจก็ขาดเสถียรภาพ

ฟังจากซุ่มเสียงแล้ว ยังไม่สิ้นหวังกับอนาคตของเมืองไทยใช่ไหมคะ

ไม่ใช่เราเท่านั้นที่เหนื่อย ประเทศอื่นก็เหนื่อย แต่เรามีความรักชาติ ต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ อย่าให้ปัจจัยลบมาบั่นทอนกำลังใจของพวกเรา ผมว่าเราต้องมีความหวัง ผมไม่ได้จะมาบอกว่าเราทำดีขนาดไหน แต่อยากจะบอกว่าถ้าเรายังพอมีแรงมีกำลังใจก็ต้องยื่นมือช่วยคนอ่อนแอกว่าให้อยู่ได้ด้วย ใครทำอะไรได้วันนี้ทำไปเลย ก่อนที่คนอ่อนแอจะหมดลมไปซะก่อน ผมเชื่อว่าความหวังเป็นอะไรที่เราทุกคนต้องมี วิกฤติครั้งนี้ทำให้ประเทศเราถดถอยไปมาก คนกระหายจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นได้แน่เมื่อทุกคนได้รับวัคซีนทั่วถึง แต่อย่าคาดการณ์ต่ำไปเลย วันนี้รัฐบาลควรให้ความมั่นใจกับประชาชน ออกมาประกาศเลยว่าวัคซีนจะมาครบเมื่อไหร่ ถ้าไม่ใช่ 120 วัน แล้วเราจะเปิดประเทศได้ภายในกี่วัน ประกาศไปเลยว่าเราจะมีแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ภายใน 3-5 ปีข้างหน้าอย่างไร ประชาชนจะได้มีขวัญกำลังใจสู้ต่อไป พวกเราต้องการอะไรที่จับต้องได้เป็นรูปธรรม อยากเห็นอนาคตว่าวิกฤติพอจะจบได้เมื่อไหร่ เมื่อประชาชนมีความมั่นใจ ผมเชื่อว่าเราจะสบายใจที่จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น สบายใจที่จะออกมาช่วยเหลือคนที่อ่อนแอมากขึ้น

เป็นห่วงบ้านเมืองขนาดนี้ ปิดสวิตช์ยังไงไม่ให้เครียดเกินไป

ผมพยายามปิดสวิตช์แล้ว แต่ยังทำไม่ได้ดีเท่าไหร่ เพราะมันเหนื่อยเหลือเกิน
ผมนอนไม่น้อยนะครับ แต่นอนหลับไม่สนิทเลย เพราะฝันถึงวิกฤติที่ต้องรับมือทุกวัน เช่น ฝันว่ามีคนมาขอวัคซีน ฝันว่าเครื่องบินจะบินไปไหนแล้วขึ้นบินไม่ได้ ฝันถึงความพิกลพิการที่เป็นอยู่ ครุ่นคิดถึงอนาคตการเมืองว่าถ้าเศรษฐกิจกลับมาดีแล้ว แต่การเมืองบ้านเรายังไม่แข็งแรงจะทำยังไง ผมว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับความไม่เสมอภาคและไม่เท่าเทียมกันในสังคม อย่าว่าแต่เข็มสามเลย ประชากร 40-50% ยังไม่ได้วัคซีนเข็มหนึ่งด้วยซ้ำ มันไม่เท่ากันจริงๆ คิดแล้วมันเศร้า!! ผมคงเลิกเครียดไม่ได้หรอก อย่างมากก็พยายามดูแลร่างกายให้แข็งแรง คนที่อ่อนแอมากๆยังมีอยู่อีกเยอะในสังคมไทย ออกมาช่วยพยุงคนที่ยังอ่อนแอกันเถอะ ยิ่งช้ายิ่งเกิดความเสียหาย ปัญหาสำคัญของสังคมไทยตอนนี้คือวิกฤติศรัทธา เราต้องเสนอภาพที่มีความหวังออกไป ผมเชื่อว่าท่านนายกฯก็หนักใจ และอยากทำให้ดีกว่านี้ ผมยังให้กำลังใจ
ท่านอยู่นะครับ ตำแหน่งนายกฯแบกความหวังไว้เยอะ คนอาสามาทำงานตรงนี้มีความตั้งใจสูง ตรงไหนติเพื่อก่อได้ผมก็จะทำ เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ผมอยากให้คนไทยมีความหวังกับประเทศชาติ!!

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ