หนึ่งในผู้บริหารหญิงที่ไฟแรง อรนิดา จุลเสน นอกจากจะเข้าไปช่วยดูเรื่องการเงินธุรกิจการ์เมนต์ของครอบครัวแล้ว ยังทำธุรกิจส่วนตัว ที่เธอเองรู้สึกว่ามีประโยชน์ต่อคนอื่น และได้ช่วยเด็กที่มีปัญหา

อรนิดา จุลเสน หรือ โอ๊ะ ผู้บริหารสาวที่มีดีกรีปริญญาตรี บริหารธุรกิจ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ MBA จาก Babson college ที่สหรัฐฯ ก่อนกลับมาช่วยงานธุรกิจของครอบครัว เธอเล่าว่า ได้ทำงานบริษัทข้ามชาติมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นบริษัท IT consulting firm ที่ติดท็อป 5 ของโลก, บริษัทยาอันดับ 2 ของโลก จากสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งทำงานในตำแหน่ง Manager ที่ Dtac จากนั้นจึงได้ออกมาเป็น Assistant CFO บริษัท Nice Apparel จำกัด (ไนซ์แอพพาเรล) เป็นผู้ผลิตและส่งออกเสื้อผ้ากีฬารายใหญ่สุดของไทย และรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ดังระดับโลก ซึ่งได้เข้ามาช่วย 6-7 ปีแล้ว และเมื่อ 3 ปีที่แล้วจึงได้เริ่มธุรกิจส่วนตัว เป็นผู้นำเข้ารองเท้าเด็กแบรนด์ Babybotte จากฝรั่งเศส

“ธุรกิจนำเข้ารองเท้าเด็กนี้เริ่มมาจากที่พาลูกไปหาคุณหมอ แล้วคุณหมอแนะนำว่า ถ้าอยากให้ลูกเดินดีเดินสวย อยากให้ไปหารองเท้าแบบนี้ ที่สเปกตรงตามตำราแพทย์ แต่เมืองไทยไม่มีนะ ซึ่งรองเท้าคู่นั้นเป็นรองเท้าที่คุณหมอซื้อให้ลูกเมื่อ 29 ปีที่แล้ว ทำให้เราต้องไปหา และคิดว่าทำไมเมืองไทยไม่มีรองเท้าแบบนี้ แล้วคนจะซื้อจะทำอย่างไร เลยไปติดต่อที่ฝรั่งเศส เป็น distributer ผู้นำมาจำหน่ายทั้งเอเชียเลย และได้นำเข้ามาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งการทำธุรกิจ Babybotte นี้ไม่ใช่แค่รองเท้าที่แค่นำเข้ามาเพื่อขายในตลาดประเทศไทย แต่เป็นการให้ความรู้ใหม่แก่พ่อแม่ในการเลือกซื้อรองเท้าที่เหมาะสมสำหรับเด็กช่วง 0-5 ขวบ ว่ารองเท้าที่ดีสำหรับวัยนี้ต้องไม่ใช่รองเท้าที่นิ่ม ต้องมีโครงที่ช่วย support การเดิน หุ้มข้อ ซึ่งจะมีผลต่อการเดิน สรีระ และบุคลิกภาพของเด็กไปตลอดชีวิต แบรนด์นี้เขาทำรองเท้าเด็กมา 80 ปีแล้วค่ะ”

...

ความท้าทายในการทำธุรกิจใหม่ในมือ โอ๊ะ–อรนิดา บอกว่า ด้วยความที่รองเท้ามีความ premium และราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นความท้าทายในการเข้ามาในตลาดประเทศไทย และเด็กเปลี่ยนรองเท้าทุก 3-5 เดือน ซึ่งไม่ง่ายที่จะทำให้แม่ๆยอมจ่ายค่ารองเท้าราคาสูงที่ใช้ได้ไม่นานมาก ตอนนั้นทำโมเดลอยู่นาน แต่ที่ตัดสินใจนำเข้าเพราะมองว่าจะเป็นสินค้าที่มีประโยชน์กับเด็กไทย และต้องการให้ความรู้เรื่องการเดิน และการเลือกรองเท้าที่ดีไปในวงกว้าง การทำธุรกิจจึงเน้นไปในทางออนไลน์ ส่วนช็อปมีอยู่แค่ที่สยามพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ในแผนกเด็ก และช็อปที่เซ็นทรัลเวิลด์ ข้างๆร้าน Zara

“ที่ไม่ได้ขยายร้าน และเน้นออนไลน์ เพราะเราเน้นในเรื่องการให้ความรู้แก่พ่อแม่ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ มีคนบอกปากต่อปากจำนวนมาก และจากการทำธุรกิจนี้ทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ ทั้งเรื่องของการตลาด การทำโฆษณาต่างๆ การนำของเข้าห้าง ก็สนุก ซึ่งงานหลักธุรกิจเป็นการผลิตการ์เมนต์ ซึ่งไปโรงงานทุกวัน ไม่ได้เป็นอารมณ์สนุกสนานแบบนี้ นับเป็นประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ คือในเดย์วันเราอาจจะรู้สึกว่าเราทำได้ ไหม เราไม่เคยอยู่ในธุรกิจนี้มาก่อน สุดท้ายถ้าเราทำ เราหาความรู้ไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เรามี skill ที่หลากหลาย แล้วจริงมันสำคัญ อย่างเราอยู่การเงิน เราก็จะรู้แต่เรื่องการเงิน ไม่สามารถก้าวไปอีกสเต็ปได้ แต่พอได้ทำธุรกิจรองเท้าเด็ก ทำให้เราได้รู้เรื่องทุกเรื่อง ทั้งมาร์เกตติ้ง ทั้งไอทีค่ะ และพอมาทำธุรกิจนี้ก็รู้สึกว่ามีประโยชน์ ได้ช่วยคนที่มีปัญหาด้วยค่ะ”... อีกหนึ่งมุมมองการทำงานของผู้บริหารสาวคนนี้.