ร่วมหารือ สนั่น อังอุบลกุล นำคณะกรรมการ กกร.ภาคเอกชน 3 สถาบัน เข้าพบ ดอน ปรมัตถ์วินัย เพื่อหารือในเรื่องความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก โดยมี ชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ และ ดร.ชัยชาญ เจริญสุข มาร่วมเข้าพบด้วย ที่กระทรวงการต่างประเทศ วันก่อน.
การใช้จ่ายงบฯยามวิกฤติต้องโปร่งใสคุ้มค่า............หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564
...
“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน...ในที่สุดที่ประชุม สภาผู้แทนราษฎร โดยเสียงข้างมาก 270 ต่อ 196 เสียง มีมติให้ความเห็นชอบอนุมัติ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท...
ทั้งนี้ หากฟังจาก อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงเหตุผลการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เป็นเพราะรัฐบาลใช้งบฯแก้ไขสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 มาต่อเนื่อง ผ่านแหล่งเงินภายใต้กรอบกฎหมาย แต่ยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาการระบาดในระลอกใหม่ได้ ขณะที่เงินทุนสำรองจ่ายที่เหลืออยู่มีไม่เพียงพอ และหากรอแหล่งเงินจากงบประมาณฯ ปี 2565 จะไม่ทันต่อการแก้ไขปัญหา ดังนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว รัฐบาล มีความจำเป็นต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดเชื้อโควิด และไม่อาจดำเนินการให้ได้มาโดยวิธีงบประมาณปกติ จึงเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วน มิอาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นทางเลือกสุดท้ายของรัฐบาลในการตรา พ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายใน 3 แผนงาน คือ เพื่อแก้ปัญหาการระบาดโควิด-19 วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท และเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชยประชาชนทุกสาขาอาชีพ วงเงิน 3 แสนล้านบาท รวมทั้งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท โดยรัฐบาลตระหนักถึงวินัยการเงินการคลัง ความคุ้มค่า ความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าว
ประสา “ธนูเทพ” มองเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องกู้เงิน เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติโควิด ให้ประเทศกลับสู่ภาวะปลอดภัยจากโรคระบาดร้ายแรง ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ประกอบการธุรกิจ การค้า การท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้รอดจากปากเหว แต่ก็อย่างที่ย้ำแล้วย้ำอีก การใช้งบประมาณของ รัฐบาล ทุกบาททุกสตางค์ ต้องควบคุมให้เข้าเป้า แก้ปัญหาให้ตรงจุด คุ้มค่า และโปร่งใส ไร้การทุจริต...
โดยเฉพาะการใช้งบฯช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากพิษโควิด ไม่ใช่เล่นแร่แปรธาตุ นำไปโปรยหว่านแจกจ่าย แบบ สะเปะสะปะ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หวังแต่คะแนนนิยม โดยมองข้าม ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ที่เป็นพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ ถ้ายังไม่ปรับแนวทางให้ถูกต้อง กู้เงินมาก็มีแต่สูญเปล่า เพราะไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
...
ผ่างๆ...ควันหลงจากเวทีอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงระเบิดอารมณ์ใส่ ส.ส.ฝ่ายค้าน บอกต้องคอยมาตอบคำถามเดิมๆ ข้อมูลเก่าๆ ที่ชี้แจงไปแล้วไม่ฟัง อย่างเรื่องบริหารจัดการเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เร่งเบิกจ่ายเต็มที่ ทุกอย่างทำอย่างรอบคอบ ถ้าทบทวนบอกช้า ไม่ทบทวนบอกทุจริต โชคดีที่สภามีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ถ้าพูดข้างนอกมีปัญหาแน่ ใครพูดข้างนอกระวังตัวไว้แล้วกัน ส่วนเรื่องจีดีพีทุกประเทศหดตัวหมด แต่เราจะสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้มีรายได้ในอนาคต ทั้งถนน โครงสร้างพื้นฐาน ระบบดิจิทัล
...
ส่วนงบฯสาธารณสุขไม่เคยตัด แต่การจัดซื้อมีขั้นตอน ขณะที่เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ไม่ได้กู้ทีเดียว เป็นการทยอยกู้ และไม่โง่กู้ให้เกินกรอบ 60% จนผิดกฎหมาย เรื่องหนี้สาธารณะอย่าทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ตอนเข้ามาปี 2557 มีหนี้สาธารณะ 46% แม้จะทำให้เพิ่มขึ้นมา 10 กว่า% แต่ก็เกิดเม็ดงานขึ้นมา เอาผลงานมาเทียบกันได้เลย ผู้นำทุกประเทศโดนด่าหมด แต่ไม่เคยมีที่ใดชิงชังเท่าประเทศไทย ไล่อย่างกับหมูหมา ส่วนเรื่องวัคซีน ขณะนี้มี 65 ล้านโดส และติดต่อเพิ่มไปอีก 100—150 ล้านโดส ยืนยันทุกจังหวัดต้องได้วัคซีน บางครั้งไม่พอต้องรอนิดนึง อย่าเอาวัคซีนมาเป็นการเมือง ขณะนี้วัคซีนมาแล้วในเดือน มิ.ย. ใครที่พูดว่าถ้าวัคซีนมาแล้วจะลาออก ทำไมไม่ลาออก...ปะฉะดะระบายความอัดอั้น ลีลาไม่แพ้นักการเมืองอาชีพ
...
อืม... สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศไทยยังอยู่ในภาวะวิกฤติ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,310 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,170 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 38 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 187,538 ราย หายป่วยสะสม 139,287 ราย อยู่ระหว่างรักษา 46,876 ราย อาการหนัก 1,295 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 359 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 43 ราย...
สำหรับการกระจายฉีดวัคซีนโควิด ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-10 มิ.ย. มีผู้ฉีดวัคซีนแล้ว 5,443,743 โดส โดยตลอดเดือน มิ.ย.มีผู้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน ไว้ 6 ล้านโดส จะทยอยฉีดให้ได้ตามแผน ยอมรับว่าสัปดาห์แรกอาจติดขัดบ้าง แต่สัปดาห์ถัดๆไปจะดีขึ้นอย่างแน่นอน...ขอให้จริงอย่างที่โฆษณา เพราะยิ่งล่าช้าชาวบ้านก็ยิ่งเสี่ยงติดเชื้อ
เฮ้อ...จากการที่ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้เปิดภาคเรียน 1/2564 ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. ล่าสุดในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ทางกระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่า พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 4 จังหวัด ได้แก่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และ สมุทรปราการ ให้เปิดเรียนพร้อมทั่วประเทศ แต่ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่โรงเรียนหรือสถานศึกษา ทำการเรียนการสอน แต่ให้จัดการเรียนการสอน 4 รูปแบบ คือ 1.ทางออนไลน์ 2.ออนแอร์ การเรียนรู้ผ่านดีแอลทีวี หรือดิจิทัลทีวี 3.ออนดีมานด์ หรือการเรียนการสอนผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ และ 4.ออนแฮนด์ หรือการจัดส่งหนังสือแบบเรียน สื่อการเรียนรู้ถึงบ้านทางไปรษณีย์...เด็กๆคงต้องเหงาอยู่บ้านอีกนาน จบข่าว
ศพ ประภาส ขุนสงคราม อดีตผู้สื่อข่าวส่วนกลาง นสพ.ไทยรัฐ ตั้งสวดวัดรังษีนิมิต (ไทรงาม) ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 12 มิ.ย.คืนสุดท้าย ฌาปนกิจ 13 มิ.ย. 15.00 น.
“ธนูเทพ”