พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภค รับมอบผลิตภัณฑ์อาหารแทนกำลังใจสู้วิกฤติโควิด-19 โครงการ ซีอาร์จี อิ่มนี้เพื่อทีมแพทย์ จาก ณัฐ วงศ์พานิช ผู้แทนกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อสนับสนุนการทำงานบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ที่ สนง.ราชวิทยาลัย โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ วันก่อน
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ...ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ... เกาะกระแสวิกฤติโควิด-19 ลามเป็นวิกฤติการเมือง ลมหายใจเฮือกสุดท้าย...ตรงกับ วันฉัตรมงคล ประจำ วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม 2564
สถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัสมรณะโควิด-19 ในประเทศไทย...กลายเป็นประเด็น ล้มเหลว การบริหารจัดการรับมือโควิด-19 ของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...และจะนำไปสู่ ความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ในที่สุด
...
จาก จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อรายวัน ที่ยังพุ่งไม่หยุด (ณ วันที่ 2 พ.ค. มีผู้ป่วยอาการหนัก 829 ราย หนักมากต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 270 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 21 ราย ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,891 ราย) นพ.ยง ภู่วรวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ระบุ สายพันธุ์อังกฤษ ที่กำลังระบาดขณะนี้ รับเชื้อแค่ 50 ตัว ก็ สามารถที่จะเกิดโรคได้แล้ว...ต่างจาก สายพันธุ์เดิม ที่ต้องได้รับเชื้อ 100 ตัวขึ้นไป และยัง เกาะติดกับเซลล์ของมนุษย์ ได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิม จึงกระจายได้ง่าย (ติดง่าย หายยาก)...สำนักวิจัยซูเปอร์โพล..เผยผลสำรวจภาคสนาม วิกฤติโควิด คนไทย อยากเห็นอะไร...ส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.9 ระบุภาครัฐ ยังไม่นำ บิ๊กดาต้า มาใช้ประโยชน์ (ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเยียวยา หรือการใช้บริการวัคซีน ทั้งๆที่มีการนำแอปพลิเคชันสารพัดแอป มาใช้ในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน)...การทำงานของภาครัฐ ยังล่าช้า เป็น ไทยแลนด์ 1.0 ไม่ใช่ 4.0...ร้อยละ 77.8...เห็นว่าภาครัฐ ยังไม่เป็นเอกภาพ ในการช่วยเหลือประชาชน (ต่างคนต่างพายเอาคะแนนนิยม)...ร้อยละ 75.7 ระบุ ภาครัฐ บริหารจัดการวัคซีนล่าช้า...โดยไม่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง...ที่เจ็บปวดที่สุด ร้อยละ 87.7 ระบุ ช่วงวิกฤติโควิด-19 ฝ่ายการเมือง มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ...ทะเลาะขัดแย้งบนความตายของชาวบ้าน...ร้อยละ 85.4 ระบุ นักการเมือง เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น หวังผลประโยชน์ทางการเมือง (จะมีนักการเมืองเอาไว้ทำไม)...ร้อยละ 85.4 ระบุนักการเมือง เป็นตัวแพร่เชื้อโรค แต่ไม่เคยรับผิดชอบต่อสังคม ...ร้อยละ 85.3 ระบุ นักลงทุน ธุรกิจสีเทา ยังเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว จนเป็นต้นเหตุของ คลัสเตอร์ ติดเชื้อไวรัสโควิดไปทั่วประเทศ (ไม่ต้องรับโทษใดๆทั้งสิ้น)...ร้อยละ 85.2 ระบุ เจ้าสัว ทั้งหลาย ยังผูกขาด มุ่งกอบโกย ไร้น้ำใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ...ร้อยละ 84.7 ยังจะต้องจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอำนาจ...ที่ ชาวบ้านอยากเห็นในช่วงของวิกฤติโควิด–19 ...ร้อยละ 95.1 อยากเห็น เจ้าสัว เลิกผูกขาดและหัดมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ...ร้อยละ 94.8 อยากเห็น นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ ทำมากกว่าพูด...ร้อยละ 93.7 อยากเห็น ทุกฝ่ายยึดเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง...มากกว่าผลประโยชน์และการเมือง...ร้อยละ 93.5 อยากเห็น รัฐเพิ่มงบทางการแพทย์และเยียวยาประชาชน...ร้อยละ 92.8 ระบุรัฐต้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ต้นเหตุการแพร่ระบาด อย่างจริงจัง (ไม่ใช่ให้ประชาชนแบกรับภาระ)...ร้อยละ 92.4 อยากเห็นภาครัฐร่วมมือทุกภาคส่วน นำเข้าวัคซีนอื่นๆ (เพื่อให้บริการชาวบ้านได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว)...และข้อสุดท้าย อยากเห็น นักการเมือง เสียสละ เอาเงินเดือนเยียวยา บุคลากรทางการแพทย์และสังคม ...เพี้ยง ขอให้สมหวังทีเถอะ สาธุ
...
ถึงคิว องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จับตา 8 โครงการเสี่ยงทุจริต...จาก งบเงินกู้สู้โควิด–19 รอบนี้ จำนวน 3.55 แสนล้านบาท...มีมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท...ที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน...ได้ทำหนังสือถึง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ...ระบุการใช้เงิน โครงการเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท...แบ่งเป็น การแพทย์และสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้าน...ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 3.55 แสนล้าน...เยียวยาประชาชน อีก 6 แสนล้าน...มี 2 โครงการที่เสี่ยงทุจริตสูง คือ โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ งบ 9,806 ล้าน...โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต โคก หนอง นา โมเดลงบ 4,788 ล้านบาท...อีก 6 โครง– การที่มีความเสี่ยงทุจริตระดับกลาง...โครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านสัตว์ป่า 742 ล้านบาท... โครงการพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย 15 ล้านบาท...โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ย 170 ล้าน...โครงการเฝ้าระวังแนวกันไฟ 247 ล้าน...โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ 2,702 ล้าน...โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุ 1,081 ล้าน...อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงใดบ้าง ทราบแล้วเปลี่ยน
...
และแล้ว ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ออกประกาศขอความร่วมมือ ประชาชนใน 22 จังหวัด ต่อไปนี้...ภาคเหนือ แพร่ อุทัยธานี...ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชัยภูมิ บึงกาฬ ยโสธร หนองคาย อุบลราชธานี...ภาคตะวันออกและภาคกลาง ชัยนาท นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ สุพรรณบุรี...ภาคใต้ ตรัง พัทลุง ยะลา ระนอง สงขลา และ สุราษฎร์ธานี...งดออกนอกเคหสถาน... ตั้งแต่ 21.00-04.00 น. ...เคอร์ฟิวแบบขอความร่วมมือ (กทม.ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด มีความเสี่ยงมากที่สุด กลับยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว)
...
หันมาที่การเมืองแบบไทยๆ...พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม...ยกเลิกคำสั่งมอบหมาย รัฐมนตรี ดูแล ขับเคลื่อนไทย ระดับจังหวัด...ในสถานการณ์ที่ โควิด-19 ระบาดหนัก...ให้ใช้คำสั่งเดิมพื้นที่ใครพื้นที่มันไม่ก้าวก่ายกัน...กระนั้นก็ดี ยังมีข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ปาดหน้า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์...ให้ อ.ต.ก. ลงไป รับซื้อพริกของชาวบ้าน ที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ...โชว์ให้เห็นว่าทำมากกว่าพูด...ที่ยังน่าหนักใจ การเปิดประชุมสภา เพื่อ พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ในวันที่ 27 พ.ค. ที่จะถึงนี้...ยังมี ส.ส.ที่ไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 อีกจำนวนมาก...จะลงเอยแบบไหน...เรื่องนี้ประธานสภา ชวน หลีกภัย ต้องคิดหนัก งบ ประมาณก็ต้องพิจารณา สภาก็ต้องเปิด โควิดก็กำลังฮอต...กับเสียงเรียกร้อง ความรับผิดชอบ คลัสเตอร์ โควิด-19 งานรดน้ำดำหัว รมว.ยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ จ.สุโขทัย...จนในที่สุดลามไปทั้งในและนอกพื้นที่ บานตะไท...ยังกริบ...ภญ.อำพร เจริญสมศักดิ์ กรรมการ ผจก.ใหญ่ อินโนบิก และสมเกียรติ เลิศฤทธิ์ภูวดล รองกรรมการสายกลยุทธ์ ไออาร์พีซี ลงนามร่วมทุนจัดตั้ง อินโนโพลีเมด สร้างโรงงานผลิตผ้าไม่ถักทอ เป็นที่เรียบร้อย
“อินทรีเหล็ก”