ผู้หญิงไม่ใช่ไม้ประดับที่มีไว้เพื่อสร้างสีสันเสริมบารมีให้ผู้ชาย แต่นับวันผู้หญิงจะยิ่งมีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆ และพร้อมลุกขึ้นมาเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสะเทือนเลื่อนลั่นในทุกมิติ ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐขอส่งท้ายปีด้วยการเปิดทำเนียบ “7 ผู้หญิงทรงอิทธิพลและสร้างแรงบันดาลใจแห่งปี” เพื่อแบ่งปันพลังบวก และจุดประกายความหวังให้กับผู้หญิงทุกคน
นำทัพสร้างบิ๊กอิมแพกต์ให้เห็นถึงพลังของดอกไม้เหล็กโดย “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” หรือ “คุณหญิงอ้อ” สุภาพสตรีรายนี้ไม่เพียงจะมีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยมาตลอด แต่ยังทรงอิทธิพลเหนือเหตุการณ์บ้านเมืองด้วย ฉับพลันที่ “คุณหญิงอ้อ” และลูกสาว แต่งกายชุดเหลืองเข้าเฝ้าฯ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี” ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อถวายรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ก็ส่งแรงกระเพื่อมใหญ่ไปทั้งพสุธา แม้แต่ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ที่วางตัวเป็นเจ้าแม่เหนือพรรค ยังต้องถอยร่นยอมลาออกจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เก็บกระเป๋าออกจากบ้านแทบไม่ทัน งานนี้ ขยับแค่หมากเดียวได้เซ็ตซีโร่ใหม่หมด ปรับโครงสร้างอำนาจในพรรคของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ทั้งองคาพยพ โดยมีเป้าหมายดิสรัปต์พรรคเพื่อไทย กวาดล้างทีมคุณหญิงหน่อยและขั้วอำนาจก๊กใหม่ให้สิ้นซาก พร้อมดึงกลุ่มอำนาจเก่าสายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้าผงาดขึ้นแทน เข้าตำราขยับนิดชีวิตเปลี่ยน!! สมกับเป็นคนถือรีโมตตัวจริง
...
ดอกไม้เหล็กที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่ยังรวมถึงทีมนักวิจัยสาวจากคณะเภสัชศาสตร์ รั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “อาจารย์แป้ง-รศ.ดร.วรัญญู พูลเจริญ” และ “อาจารย์บิ๊บ-ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ” แห่งบริษัทสตาร์ตอัพสัญชาติไทย “ใบยา ไฟโตฟาร์ม” ที่จุดประกายความหวังให้คนไทยทั้งประเทศ ด้วยการออกมาประกาศข่าวดีประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จากใบพืช เป็นรายแรกของไทยและอาเซียน โดยคาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนให้คนไทยได้ใช้จริงเร็วสุดภายในปลายปี 2564 ตั้งราคาไว้เพียงโดสละ 500 บาท เพราะอยากให้คนไทยได้เข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมกันที่สุด ถือเป็นไอดอลของผู้หญิงเก่งยุคใหม่ ที่กล้าลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงได้ ขอปรบมือให้ “ฮีโร่ผู้สานฝันคนไทย” ผลิตวัคซีนโควิด-19 ใช้เองสำเร็จ เรียกว่าเป็นวัคซีนโดยคนไทยเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง
“น้องมายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล” เป็นอีกหนึ่งพลังเยาวชนรุ่นใหม่ที่กล้าแสดงจุดยืนเพื่อประชาธิปไตย เธอเริ่มสนใจการเมืองหลังจากการทำรัฐประหารของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เมื่อปี 2557 และเริ่มเป็นที่รู้จักจากการร่วมชุมนุมแฟลชม็อบ ปี 2558 ในนามกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย ก่อนจะเข้าร่วมคณะประชาชนปลดแอกในเวลาต่อมา และมีบทบาทร่วมกับเครือข่ายหลายกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ทั้งกิจกรรมการชุมนุมและการเสวนาเพื่อให้ความรู้เรื่องประชาธิปไตย ด้วยวัยเพียง 25 ปี นักศึกษาวิศวะผู้นี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากวาทศิลป์ที่มีชั้นเชิง, การปราศรัยชัดถ้อยชัดคำ, รอยยิ้มพิมพ์ใจ และการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ปราศจากความก้าวร้าวและหยาบคายรุนแรง “มายด์” เคยถูกจับในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯหลังยุติการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และถูกพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาผิด พ.ร.บ.ชุมนุม อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 12 แกนนำคณะราษฎร 2563 ที่ถูกออกหมายจับในความผิดฐานเป็นบุคคลตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ หลังมีการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ พ่วงด้วยอีกสารพัดคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว สาวน้อยหน้าคมแจ้งเกิดไปทั่วประเทศก็ตอนออกรายการ “ถามตรงๆกับจอมขวัญ” ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ปาดมีดโกนใส่ “ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์” จากพรรคพลังประชารัฐ จนหงายเงิบ...อย่ามองข้ามพลังบริสุทธิ์เด็ดขาด
...
ในวงการกีฬาไทยก็มีหญิงเก่งที่สร้างแรงบันดาลใจอยู่หลายคน ล้วนแต่น่าซูฮกในความทุ่มเทเกินร้อย ไม่ว่าจะเป็น “มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” หลังพาทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยเข้าชิงแชมป์โลก 2 สมัยติดกัน มาดามคนสวยก็ทุ่มพลังในการปลุกปั้นทีมสโมสรฟุตบอลการท่าเรือ ใช้เวลาแค่ปีเดียวสามารถฟื้นคืนชีพทีมฟุตบอลในตำนานที่ตกชั้นไปดิวิชัน 1 ให้กลับมาสู่ไทยลีกได้สำเร็จอีกครั้ง หลังจากกอดคอร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนักฟุตบอลทีมท่าเรือมา 6 ปี “มาดามแป้ง” ยิ่งฮึดสู้อยากจะพัฒนาการท่าเรือให้เป็นทีมฟุตบอลอาชีพที่มีศักดิ์ศรีและเป็นที่ภาคภูมิใจของแฟนบอล ล่าสุด สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่พาทีมสิงห์เจ้าท่าคว้าโควตาไปฟาดแข้งศึกฟุตบอลสโมสรเอเชียถ้วยใหญ่ “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก” รอบแบ่งกลุ่ม ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของสโมสรท่าเรือ นับตั้งแต่ก่อตั้งมายาวนาน 53 ปี เอาไปเลยเต็มสิบไม่หักแม้แต่แต้มเดียว
...
ประสบความสำเร็จในการปลุกปั้นธุรกิจมาโชกโชน ทั้งอุตสาหกรรมเหล็ก, อสังหาริมทรัพย์, ก่อสร้าง และโรงแรม แถมคว้ารางวัลดีเด่นด้านธุรกิจนับไม่ถ้วน รวมถึงรางวัลสตรีดีเด่นแห่งชาติ สาขานักธุรกิจ ประจำปี 2547 จากสภาสตรีแห่งชาติ “คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล” ตั้งปณิธานว่าจะใช้เวลาที่เหลือของชีวิตอุทิศตนรับใช้ประเทศชาติในด้านการกุศล ไม่ว่าจะเป็นดนตรี, กีฬา, วัฒนธรรม และคนด้อยโอกาส โดยเฉพาะด้านกีฬา ถือเป็นสตรีคนแรกของไทยที่ได้รับเลือกจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล โดยประธานสรรหาคัดเลือก “เจ้าฟ้าหญิงแอนน์แห่งอังกฤษ” ให้เป็นคณะกรรมการโอลิมปิกสากล 1 ใน 70 คน ประเภทบุคคล ต่อเนื่องยาวนานถึงอายุ 70 ปี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดของวงการกีฬาโลก ที่สามารถช่วยยกระดับและพัฒนาวงการกีฬาของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังได้รับเลือกให้รับงานใหญ่อีกหลายวาระ ตั้งแต่ประธานคณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรมและมรดกโอลิมปิก, คณะกรรมาธิการกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกสากล ที่ดูแลเงินหลายหมื่นล้านบาท ช่วยเหลือวงการกีฬาของประเทศสมาชิก, กรรมการบริหารสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย, ประธานคณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรมสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย และรองประธานคนที่ 1 สหพันธ์ แบดมินตันโลก ขณะรั้งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศ ไทยฯ คุณหญิงยังผลักดันให้แบดมินตันกลายเป็นกีฬามหาชนของคนไทยอย่างแท้จริง โดยพานักกีฬาแบดมินตันไทยก้าวไกลไปสู่เวทีโลก สมกับที่ได้รับรางวัลจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” ยกย่องเป็นบุคลากรที่ทำคุณประโยชน์ให้กับวงการกีฬา และได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี ให้เป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม, กีฬา, แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พร้อมนั่งเป็นประธานอนุกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกีฬา ถามว่าเหนื่อยไหมกับสิ่งที่ทำอยู่ คุณหญิงยิ้มอ่อนๆตอบว่า ทุ่มเททำทุกอย่างด้วยใจรักและมีความสุข เพราะได้แรงสนับสนุนจากสามี “ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล” เจ้าสัวใหญ่ผู้น่ารัก
...
ปีนี้ยังต้องยกให้เป็นปีทองของ “โปรจีน-อาฒยา ฐิติกุล” ทำผลงานได้น่าทึ่งสมกับเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์คนใหม่ของวงการกอล์ฟ ทั้งๆที่เพิ่งเทิร์นโปรปีแรก ขณะอายุ 17 ปี “โปรจีน” ก็ผงาดคว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพสตรี 5 รายการรวด แถมเพิ่งซิว 3 รางวัลเกียรติยศจากสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ในงานประกาศผลงานนักกีฬา “ไทย แอลพีจีเอ อวอร์ดส์ 2563” กวาดหมดทั้งรุกกี้ออฟเดอะเยียร์, เงินรางวัลสูงสุด และสกอร์เฉลี่ยดีที่สุด ย้อนกลับไปสมัยยังเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น “โปรจีน” เคยสร้างผลงานให้วงการกอล์ฟโลกได้ฮือฮา จากการเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยสุด 14 ปีเศษ ที่คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพในเลดีส์ ยูโรเปียนทัวร์ รายการ “ไทยแลนด์แอลพีจีเอ ทัวร์” ก่อนจะมาเบิ้ลแชมป์อีกในปี 2562 จับตาสาวน้อยคนนี้ให้ดี เธอคือดาวรุ่งดวงใหม่ที่เป็นความหวังของชาติ และแรงบันดาลใจของเยาวชนไทย.
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ