ความสามารถในการจำ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเรา เพราะสิ่งที่ประกอบมาเป็นตัวตนเรา ก็มาจากความจำจากสิ่งที่เราเรียนรู้ในอดีตทั้งสิ้น ทั้งทักษะในชีวิตพื้นฐานที่ทำให้เรามีชีวิตรอด ทักษะและความรู้ขั้นสูงที่นำมาใช้ประกอบอาชีพ หรือไปจนถึงจิตสำนึกและความมีมนุษยธรรม และเช่นกัน สิ่งที่เราได้เรียนรู้ในปัจจุบันขณะที่เราจำได้ ก็จะกลายเป็นบทเรียนใหม่ๆ ในวันต่อไป
โดยปกติแล้ว เรามีความจำ 3 ระดับ นั่นคือ ความจำระดับประสาทสัมผัส ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับประสบการณ์ใดๆ จากสิ่งเร้า เช่น ภาพ เสียง สัมผัส ความจำชนิดนี้มีอายุสั้นมากแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ตราบเท่าที่สิ่งเร้านั้นยังอยู่ ถัดมาเป็นคิวของความจำระยะสั้น ที่เก็บจากสิ่งเร้านั้นมาไว้ได้ไม่เกิน 7 เรื่อง และในระยะเวลาไม่เกิน 20-30 วินาที เช่น การจำตัวเลขไม่กี่ชุดเพื่อมาบันทึก และความจำระดับสุดท้าย ความจำระยะยาว ที่มีอายุยืนยาวไม่จำกัด ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ถูกถ่ายโอนมาจากความจำระยะสั้น ที่เราเรียกมาใช้บ่อยๆ โดยมากมักเป็นความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ที่มีบริบทประกอบ โดยความจำทั้ง 3 ระดับนี้มีความสำคัญเท่าเทียมกัน และต้องทำงานเกื้อหนุนกันตลอดเวลา
ความจำก็เหมือนสิ่งอื่นๆ ในร่างกายที่เสื่อมถอยตามกาลเวลา หากไม่ดูแล เพราะปัจจัยทางกายภาพของสมองที่เปลี่ยนไปเมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น พันธุกรรม การใช้ยาบางชนิด หรือได้รับสารพิษที่ส่งผลต่อสมอง หรือการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างหนัก ไปจนถึงความเครียดและวิตกกังวล ก็ส่งผลต่อการจดจำและการเรียนรู้ด้วยเช่นเดียวกัน
หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ความเสื่อมถอยของความจำเป็นสิ่งที่อย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น ไม่สามารถหยุดยั้งได้ แต่มีงานวิจัยว่า ผู้ใหญ่อายุ 70 ปี สามารถทำแบบทดสอบความจำได้ดีไม่แพ้วัยรุ่นอายุ 20 ปีเลย แถมได้คะแนนดีกว่าในแง่ความฉลาดในการใช้ภาษาด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าอายุเท่าไร เราก็สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่และจดจำได้ดีได้เช่นกัน
แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง ถึงจะดูแลความจำของเราให้ยังดีได้ดังเดิม?
• ทำกิจกรรมท้าทายสมองบ่อยๆ
นอกจากลดละเลิกพฤติกรรมเสี่ยงแล้ว การออกกำลังสมองให้ได้ใช้อยู่ตลอดเวลาก็มีความสำคัญ โดยเราสามารถแทรกกิจกรรมลงในชีวิตประจำวันได้ทุกวัน เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกม เขียน หรือเรียนภาษา หรือกระทั่งพบปะพูดคุยกับผู้คน ก็สามารถช่วยยืดอายุของสมองได้เช่นกัน
• เสริมอาหารให้ความจำ
อาหารการกินก็มีความสำคัญมากทีเดียว สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อความจำ นอกจาก กรดไขมันโอเมก้า-3 อันโด่งดังที่มีมากในปลาทะเลแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมในผลไม้ตระกูลเบอร์รีและองุ่นที่มีรสชาติเปรี้ยวสดชื่น ก็ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสารอาหารที่ช่วยเรื่องความจำด้วยเช่นกัน
ล่าสุด ฝรั่งเศสคิดค้นนวัตกรรมใหม่ เมมโมฟีนอล สารสกัดจากส่วนผสมของบลูเบอร์รีและองุ่น ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยรักษาความจำทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้ดีขึ้น โดยทดลองในกลุ่มคนอายุ 60-70 ปี จำนวน 215 คน ซึ่งรับประทาน “เมมโมฟีนอล” วันละ 600 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน โดยผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสามารถชะลอภาวะความเสื่อมถอยของความจำได้
นอกจากนี้ เมมโมฟีนอลยังได้รับรางวัล Best Ingredient ในหมวด Healthy Ageing จาก Nutra Ingredients Awards 2017 (Vitafoods Europe 2017) และ Best Innovation ในหมวด Pharmaceutical Product จาก the 2016 French Innovation Corner (organized by BPI France)
หากอยากพิสูจน์ด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปถึงฝรั่งเศส เพราะเมมโมฟีนอลมีให้ทดลองในไทยแล้ว มายด์เบอรี่ ใหม่ เครื่องดื่มเยลลี่ผสมเมมโมฟีนอลนำเข้าจากฝรั่งเศส ในรูปแบบชอท อร่อยกลมกล่อม ดื่มง่าย ได้ทุกวัยเหมือนรับประทานขนมเยลลี่รสไวน์ที่หวานและฝาดนิดๆ กำลังดี แคลอรีต่ำเพียง 20 Kcal น้ำตาลก็ต่ำแค่ 4 กรัมต่อขวด วิตามินซีสูง และอร่อยชื่นใจสุดๆ เมื่อแช่เย็น
แค่ดื่มก็มีส่วนช่วยรักษาความทรงจำดีๆ ให้อยู่กับเราไปนานๆ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร
ไม่ลืม! ดื่มมายด์เบอรี่ เพียงขวดละ 55 บาท สั่งซื้อได้ที่ เฟซบุ๊ก MindberryThailand และ Shopee