ในประเทศจีนมีข้อมูลพบว่าเชื้อโควิด-19 ติดผ่านดวงตาได้ จึงเริ่มมีการใช้ Face Shield เป็นอุปกรณ์ป้องกันดวงตากันอย่างแพร่หลาย ซึ่งกลายมาเป็น New Normal ที่ต้องพกติดกระเป๋าในชีวิตประจำวัน ทั้งแว่นตา และหมวกป้องกันใบหน้าก็กลายเป็นสิ่งที่ใช้กันทั่วไป ไม่ได้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลแล้ว
เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องและปลอดภัย วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ พาคุณมารู้จักกับอุปกรณ์ที่เรียกว่า “Face Shield” ที่กำลังนิยมกันอยู่ตอนนี้
Face Shield คืออะไร
Face Shield คือ อุปกรณ์ป้องกันดวงตาจากการติดเชื้อ ในภาษาไทยเรียกว่า “กระจังป้องกันใบหน้า” มีคุณสมบัติป้องกันการกระเด็นของเลือดและสารจากร่างกายผู้ป่วย ทางการแพทย์ใช้เมื่อต้องล้างของ เทสารคัดหลั่ง เก็บขยะ เก็บผ้าใช้แล้วของผู้ป่วย
Face Shield นำมาใช้งานทางการแพทย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ดังนั้นประชาชนสามารถปรับใช้ Face Shield เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้ และองค์กรควรเตรียม Face Shield ให้แก่พนักงานที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสผู้คน และของใช้ต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน
วิธีการใส่ Face Shield ที่ถูกต้อง
พญ. พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ได้เตือนประชาชนที่ต้องการใช้ Face shield เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อทางอากาศว่า อย่าใส่ Face shield แทนหน้ากากอนามัย เพราะ Face shield เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมเท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการป้องกันโรคโควิด-19 หากเจอเหตุไม่คาดคิด จากผู้ป่วยที่ ไอ หรือ จาม ใส่หน้า Face shield จะไม่สามารถป้องกันละอองฝอยจากน้ำลายได้
...
สถาบันบำราศนราดูร ได้เผยแพร่การใช้งานอุปกรณ์ป้องกันใบหน้าให้ปลอดภัย ในเอกสารอุปกรณ์ป้องกันตัวเองไว้ดังนี้
- ต้องมีขนาดที่พอดี มั่นใจว่าจะไม่หลุดขณะสวมใส่ปฏิบัติงาน
- สวม Face Shield ป้องกันใบหน้าด้วยสายรัดรอบศีรษะ โดยปรับให้กระชับ ไม่กดทับ และสวมใส่สบาย
- หลังจากถอดแล้ว ล้างมือทันทีหลังสัมผัสกับ Face Shield
วิธีทำ Face Shield ไว้ใช้เอง
ปัจจุบันนี้มีผู้ผลิต Face Shield ออกมาจำหน่ายจำนวนมาก แต่เราก็สามารถหาอุปกรณ์ในบ้านมาประดิษฐ์ Face Shield เพื่อใช้เองได้ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้เผยแพร่วิธีการทำ Face Shield ง่าย ๆ ให้ลองทำกัน
สุดท้ายนี้แม้ว่าจะมี Face Shield ไว้ใช้กันแล้ว แต่ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเป็นแบบหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือหน้ากาก N95 เพื่อประกอบการใช้กับ Face Shield ด้วย เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องนี้ อย่าลืมบอกต่อการใช้งานที่ถูกต้องแก่คนรอบข้างด้วย
ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
อ่านเพิ่มเติม :
เปรียบเทียบราคาทุกร้าน >>> คลิกที่นี่