“ช่วงนี้ไม่คิดมาก คิดอยู่เรื่องเดียวว่า ตอนนี้เราติดรึยัง”, “กายใกล้โควิด แต่จิตใกล้โคม่า” หลากหลายข้อความที่ถูกส่งผ่านทางโลกโซเชียล ที่แสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีอยู่ในขณะนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจและคลายความวิตกกังวล โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้จัดสายด่วนโควิด-19 Call Center ที่ให้ทุกคำถาม ได้รับคำตอบที่ถูกต้อง โดยอาจารย์พยาบาลโรงพยาบาลรามาธิบดี
ทั้งนี้ รศ.ดร.พูนสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า เรามี health education ที่โรงพยาบาล พบว่ามีคนเดินทางมาโรงพยาบาลเพื่อมาถามคำถามต่างๆ ซึ่งที่จริงเป็นคำถามที่โทร.มาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาโรงพยาบาล โดยคำถามที่ถามคือ อยากรู้ว่าตัวเองเป็นหรือไม่ ซึ่งพอเราซักไป เราคัดกรองได้เลยว่าเป็นหรือไม่เป็น แล้วเขาก็กลับบ้าน เป็นการเสียเวลา อีกทั้ง ในโรงพยาบาลก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่จะให้ความรู้นานๆได้
...
เราเลยทำ call center เพื่อตอบคำถามโควิด-19 เสียเลย เพื่อไม่อยากให้คนมาโรงพยาบาล โดยเริ่มทำสายด่วนโควิด-19 มาตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. แล้ว โดยเริ่มจาก 3 เบอร์ คือ 09-1774-5075, 09-1774-5173 และ 09-1774-5178 จากนั้น ทรู ได้ให้มา 10 เครื่อง เป็นเบอร์เดียวกันคือ 0-2092-7222 โดยผู้มาตอบคำถามต่างๆนั้น จะเป็นอาจารย์พยาบาลทั้งหมดเลย เพราะเรามองว่าการตอบคำถาม ต้องมีความรู้พอสมควร และต้องสามารถที่เชื่อมโยงกับทีมของโรงพยาบาลได้ เพราะข้อมูลเปลี่ยนทุกวันนี้กลุ่มเสี่ยงก็เปลี่ยน การรักษาก็เปลี่ยน การป้องกันก็เปลี่ยน อาการก็เปลี่ยน เพราะฉะนั้นจะให้ทีมอาสาสมัครที่มาตอบคำถาม ต้องมีความรู้แม่นยำ เพราะการตอบผิดๆถูกๆจะทำให้การแพร่ระบาดไปได้ไกลขึ้นอีก เราเลยเกณฑ์อาจารย์พยาบาล ทั้งโรงเรียนพยาบาลมาช่วยกัน โดยแบ่งเป็นกะ กะละ 13 คน คนละ 3 ชม. ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. เพื่อมิให้มีความเครียดและเหนื่อยล้าจนเกินไป ซึ่งถ้าเริ่มล้า การตอบก็จะสั้นๆลง ภายในเวลา 3 ชม.จะคุยได้ประมาณ 20 สาย เพราะบางสายคุยถึง 15-20 นาที ต้องปิดเคสให้ได้
รศ.ดร.พูนสุขกล่าวต่อว่า สำหรับผู้โทร.เข้ามาในแต่ละวันมีประมาณ 100-150 สาย และมีสายหลุดที่มีมากถึง 200 สาย คำถามหลัก คือมีความวิตกกังวลว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเราจะทำการซักประวัติก่อนเพื่อคัดกรอง เช่น เขาบอกว่ามีไข้ เราจะถามว่า มีไข้สูงไหม มีอาการอย่างอื่นร่วมไหมเหนื่อย แน่นหน้าอกไหม ที่สำคัญคือ เขาเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือเปล่า อันนี้สำคัญ เพราะตอนนี้ใครๆก็เป็นไข้ อากาศร้อน ใครๆก็ไอ เลยต้องเอากลุ่มเสี่ยงเป็นหลัก เพราะทุกคนนึกว่าตัวเองติดไวรัสโควิด แต่ถ้าซักแล้วมีอาการสงสัย เราจะให้รีบมาพบแพทย์โดยทันที เพื่อจะได้ตรวจหาเชื้อ แต่ส่วนใหญ่ 80% เป็นลักษณะที่มีความวิตกกังวล เราจึงต้องให้ความรู้เพื่อคลายวิตกกังวล ให้ข้อมูล ที่ถูกต้องให้เขาป้องกันตัวเอง เพราะเขาอาจจะติดวันไหนก็ได้
...
จึงอยากขอย้ำให้เราทิ้งระยะการห่างทางสังคม social distancing มีความสำคัญมาก เป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อที่ดีที่สุด ถ้าทุกคนอยู่ห่างๆกัน ถึงแม้ตัวเองจะติดเชื้อ ก็จะไม่แพร่กระจายเชื้อไปที่คนอื่น หากมีเหตุจำเป็นต้องไปไหน ก็ต้องใส่หน้ากากอนามัย ต้องทิ้งระยะห่าง อย่าไปเดินในที่อัดๆ อยู่ห่างๆ กันให้มากที่สุด และที่สำคัญ ต้องล้างมือหรือใช้เจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ อีกอย่างที่จะช่วยได้อย่างดี คือ ต้องทำตัวเราให้แข็งแรง เพราะว่าถ้าเราติดเชื้อ แต่เราแข็งแรง เราก็จะไม่เป็นโรค การดูแลตัวเอง จะแนะนำขอให้ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ แล้วไม่เครียด รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายบ้างเบาๆ เพราะถึงแม้จะติดเชื้อ แต่ถ้าร่างกายแข็งแรงก็จะไม่เป็นโรค แค่มีอาการติดเชื้อเท่านั้นเอง.