เพื่อเป็นการตั้งรับไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้จัดทำวิดีโอ “ตื่นตัวแต่ไม่ตื่นกลัว 5 วิธีหนีห่างจาก COVID–19” ผ่านทาง http://bit.do/โควิด-19vdo เน้นย้ำความสำคัญของการล้างมือเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 พร้อมสร้างต้นแบบให้เด็กๆเห็นว่าทุกคนสามารถ ดูแลตัวเองให้รอดพ้นจากโควิด-19 ได้ด้วยการล้างมือและข้อปฏิบัติ ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน พร้อมกันนี้ ยูนิเซฟจัดทำสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับ โควิด-19 โปสเตอร์ขั้นตอนการล้างมือ และดำเนินการจัดส่งสบู่และเครื่องวัดอุณหภูมิไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน 3,000 แห่งในประเทศไทย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ใหม่ 2019 ด้วย

สำหรับข้อควรรู้เกี่ยวกับการล้างมือเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยูนิเซฟได้แนะนำการล้างมืออย่างไรให้ถูกวิธี ดังนี้ คือ การถูมือไปมาอย่างรวดเร็วและล้างออกด้วยน้ำ ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสที่อาจปะปนอยู่บนมือได้ วิธีการล้างมือที่ถูกต้องนั้นสามารถทำได้ง่ายๆตาม 5 ขั้นตอนข้างล่างนี้ ล้างมือให้เปียกด้วยน้ำ, ถูมือด้วยสบู่ในปริมาณที่มากเพียงพอ, ถูมือให้ทั่ว รวมทั้งหลังมือ ซอกนิ้ว ข้อมือ หัวแม่มือ และใต้เล็บ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที, ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำ, เช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษที่ใช้แล้วทิ้ง ในการล้างมือในแต่ละครั้งควรใช้เวลาอย่างน้อย 20 วินาที เช่นเดียวกับการใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ต้องมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบอย่างน้อยร้อยละ 70 จากนั้นถูให้ทั่วทั้งบนฝ่ามือและหลังมืออย่างน้อย 20 วินาที

...

ในการล้างมือนั้น ควรล้างมือทุกครั้งเมื่อสั่งน้ำมูก ไอ หรือจาม หลังจากไปสถานที่สาธารณะต่างๆ เช่น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ตลาด และสถานที่ต่างๆ, หลังจากสัมผัสกับพื้นผิวหรือวัสดุต่างๆนอกบ้านและเงิน, ก่อน ระหว่าง และหลังจากการดูแลผู้ป่วย, ก่อนและหลังรับประทานอาหาร, หลังจากใช้ห้องน้ำ, หลังจากทิ้งขยะ, หลังจากสัมผัสสัตว์เลี้ยงและสิ่งมีชีวิตต่างๆ เป็นต้น ส่วนความจำเป็นต้องเช็ดมือให้แห้งหรือไม่นั้น ปกติแล้วเชื้อโรคจะแพร่กระจายจากผิวที่มีความเปียกได้ง่ายกว่าจากผิวที่แห้ง ดังนั้น การเช็ดมือให้แห้ง ไม่ว่าจะด้วยกระดาษเช็ดมือหรือผ้าสะอาด ก็ถือเป็นอีกขั้นตอนสำคัญในการกำจัดเชื้อโรคและลดการแพร่กระจายต่อไปยังพื้นผิวต่างๆ

การล้างมือด้วยสบู่และการใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ต่างก็สามารถกำจัดเชื้อโรคและจุลินทรีย์ต่างๆได้ ส่วนวิธีอื่นๆที่จะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส คือ การปิดปากและจมูกขณะไอหรือจามด้วยข้อพับแขนด้านใน หรือใช้กระดาษทิชชู และต้องทิ้งลงถังขยะ หลังจากใช้ในทันทีแล้วล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการแตะหรือจับต้อง ใบหน้า (ปาก จมูก ตา) เว้นระยะห่างในการเข้าสังคม (Social distancing) เช่น อยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมาก ควรรับประทานอาหารโดยใช้ภาชนะ ช้อนส้อมของตนเอง ไม่ใช้แก้วน้ำหรือผ้าร่วมกัน หลีกเลี่ยงการติดต่อใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัด และหมั่นเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆอย่างสม่ำเสมอ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: UNICEF Thailand และ www.unicef.or.th