เมื่อหลายปีที่ผ่านมานักวิชาการหลายต่อหลายคนได้ศึกษาซากศพมนุษย์ที่พบในทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกเถ้าถ่านลาวาและก๊าซพิษของภูเขาไฟระเบิดทางตอนใต้ของอิตาลี สิ่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจก็คือวัตถุคล้ายแก้วสีดำที่แปลกประหลาดในกะโหลกศีรษะของเหยื่อรายหนึ่ง จนกระทั่งในเดือน ต.ค.2561 นักมานุษยวิทยานิติวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเนเปิลส์เฟเดริโกที่ 2 ในอิตาลี วิเคราะห์ ดูวัตถุดังกล่าวเผยค่อนข้างแน่ใจว่าน่าจะเป็นสมองของมนุษย์

การวิเคราะห์เพิ่มเติมจากศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง CEINGE ในเนเปิลส์ ยืนยันว่าหินสีดำนี้ประกอบด้วยโปรตีนและกรดไขมันจากเส้นผมและเนื้อเยื่อสมอง ถือเป็นสิ่งหายากทางโบราณคดี เนื่องจากค้นพบจากซากปรักหักพังที่เมืองเฮอร์คิวเลเนียม (Herculaneum) ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองปอมเปอี ซึ่งเฮอร์คิวเลเนียมตั้งชื่อตามเทพเจ้ากรีกเฮอร์คิวลิส เป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวปอมเปอี เมื่อภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดขึ้นใน ค.ศ.79 ลาวาหลอมเหลวไหลปกคลุมเมืองจมลึก 16 เมตร เมื่อเวลาผ่านไปก็แข็งตัวทว่าก็รักษาซากอินทรีย์ไว้

ซากของเหยื่อภูเขาไฟนี้ ระบุว่าเป็นชายที่เชื่อว่าเป็นภารโรงของวิทยาลัยออกุสเทลส์ ศูนย์กลางของลัทธิจักรพรรดิออกุสตุส ร่างเกรียมของเขาถูกพบบนเตียงไม้ภายในห้องของเขา นักวิจัยเชื่อว่าความร้อน 520 องศาเซลเซียสจากก๊าซร้อน เป็นอุณหภูมิสูงพอที่จะเผาผลาญไขมันในร่างกายและเนื้อเยื่ออ่อน ทำให้สมองแตก

เป็นเสี่ยง และจากการศึกษา 152 โครงกระดูกพบว่าผู้เสียชีวิตไม่ใช่เพราะความร้อนสูง แต่มาจากก๊าซพิษ เพราะคอลลาเจนที่ยังคงอยู่ในกระดูกไม่สอดคล้องกับการระเหยนั่นเอง.