ทุกวันนี้ นอกจากจะเจอคนไข้ โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน มะเร็ง ที่เดินพาเหรดกันมาแบบแพ็กคู่ แพ็กเกจ...แล้ว ในบรรดาเพื่อนชาย...ที่ไม่ได้หมายถึงแฟน แต่เป็นเพื่อนที่เป็นผู้ชายหลายๆคน ต่างพากันบ่น...และบ่นกันอยู่ตลอดเวลา เห็นจะเป็นเรื่องอย่างว่า ที่พวกเขาไม่ค่อยสุขสมอารมณ์หมาย เท่าใดนัก

เหตุเพราะ “น้องชาย” ไม่ยอมร่วมมือ เวลาที่จะต้องปฏิบัติการทั้งงานราชการ และงานราษฎร์...

แถมเดี๋ยวนี้...เจ้าน้องชายที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ยังมีพฤติกรรมดื้อดึง...เร็วกว่าที่ควรจะเป็นเสียอีก

แต่ก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจไป...เพราะอาการที่ว่านี้ กำลังระบาดรุนแรงไปทั่ว โลก มีข้อมูลว่า ผู้ชายมากกว่า 150 ล้านคนในโลกนี้ มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่เรียกตามศัพท์แพทย์ว่า โรค ED ซึ่งย่อมาจาก Erectile Dysfunction หรืออาการที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวได้

ในประเทศไทย จำนวนผู้ที่มีปัญหาน้องชายดื้อดึงไม่ทำตามคำสั่ง เพิ่มมากขึ้นกว่า 50% ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ที่สำคัญคือ จากที่เคยเริ่มเมื่ออายุ 50–60 เดี๋ยวนี้แค่ 40 ต้นๆ หรือ 30 ปลายๆ ก็ถามหาตัวช่วยกันแล้ว

...

ตัวช่วยที่ว่า นอกจากลด ละ เลิก พฤติกรรมเสี่ยง ทั้งกินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย เครียด ...แล้ว อีกอย่างที่เป็นทางเลือกก็คือ การใช้ยาเพื่อช่วยกระตุ้นให้องคชาตแข็งตัว สามารถปฏิบัติ การได้เป็นปกติ

ยารักษาและบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย มีด้วยกัน 3 กลุ่ม ที่เรียกว่า พีดีอี 5 อินฮิบิเตอร์ (Phosphodiesterase-5 Inhibitors : PDE-5) ประกอบด้วยยาในชื่อสามัญ หรือ Generic ว่า ซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ทาดาลาฟิล (Tadalafil) และวาร์เดนาฟิล (Vardenafil)

ทั้งหมดเป็นยาที่ใช้ในการบำบัดรักษา ผู้ที่มีภาวะน้องชายไม่ร่วมมือหรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยยาจะไปออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Phosphodiesterase type 5 ที่ช่วยให้หลอดเลือดบริเวณองคชาตขยายตัวได้ดีขึ้น เลือดแดงไปเลี้ยงองคชาตได้มากขึ้น เกิดการคั่งของเลือดแดงในองคชาตมากขึ้น ส่งผลให้การแข็งตัวดีขึ้น

ด้วยกลไกการออกฤทธิ์ของยา ยากลุ่มนี้จึงไม่ใช่ยากระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ แต่เป็นตัวช่วยให้ การแข็งตัวขององคชาตดีขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ใช้ยากลุ่มนี้แล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

ส่วนใหญ่แล้ว ยากลุ่มนี้ต้องกินก่อนปฏิบัติภารกิจประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และควรกินในช่วงที่ ท้องว่างเพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึมของยา รวมทั้งไม่ควรกินยาพร้อมเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

ส่วนใหญ่แล้ว ยาช่วยกระตุ้นหรือทำให้ องคชาตแข็งตัวกลุ่มนี้ ไม่สามารถไปซื้อหา มากินเอง ซื้อในเน็ต หรือหิ้วมาจากเมืองนอกได้ ประเภทยาแขก ยาทน...ไม่แนะนำ เพราะนอกจากจะไม่แน่ใจทั้งสรรพคุณ ปริมาณการใช้แล้วยังอาจมีผลข้างเคียงที่อันตรายจนถึงเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหา กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Angina) ที่ต้องใช้ยากลุ่มไนเตรต (Nitrate) ในการรักษา

ผลข้างเคียงของการใช้ยาในกลุ่มพีดีอี 5 อินฮิบิเตอร์ มีตั้งแต่ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน ผิวหนังแดง อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้อาเจียน คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ทัศนวิสัยในการมองเห็นผิดปกติ เช่น ตาพร่า มัว

...

ข้อควรระวังอีกอย่างของการใช้ยาช่วยทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัว คือ กลุ่มที่มีอาการภาวะองคชาตแข็งค้าง (Priapism) ที่ใครเป็นแล้วจะรู้เลยว่าเจ็บปวดและทรมานขนาดไหน เวลาที่อวัยวะเพศแข็งตัวนานๆ รวมทั้งผู้ที่ใช้ยาแอลฟาบล็อกเกอร์ (Alpha-blockers) ซึ่งเป็นยาที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ในผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโต และความดันโลหิตสูง ฯลฯ

ทางที่ดี เมื่อน้องชายไม่ยอมร่วมมือร่วมใจในการทำ ภารกิจ ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษา ดีกว่าซื้อยากินเอง... เพราะเรื่องแบบนี้ ทำสุ่มสี่สุ่มห้า นึกว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ สุดท้ายอาจไปได้แค่เชิงตะกอน...!!