หากจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้องค์กรสักแห่งยืนหยัดอยู่มาได้อย่างยาวนาน และเป็นที่จดจำในฐานะเบอร์หนึ่งของธุรกิจที่ให้บริการอยู่นั้นก็คงจะเป็นในเรื่องของคุณภาพที่สามารถไว้วางใจได้ ไม่ว่าจะในส่วนของโปรดักส์ หรือการให้บริการหลังการขาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ “ซีเอส ล็อกซอินโฟ” กลายเป็นองค์กรที่มีอายุเกิน 25 ปีไปเรียบร้อยแล้ว
และ ณ วันนี้ ซีเอส ล็อกซอินโฟ ก็พร้อมแล้วสำหรับการก้าวไปสู่บทบาทใหม่ๆ ที่หมายถึงการพัฒนาคุณภาพการบริการให้ดียิ่งกว่าที่เคยนั่นคือการ Repositioning สู่ชื่อใหม่ “CSL” หลังจากจับมือกับทาง AIS ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการร่วมมือที่ต่างฝ่ายต่างเข้ามาช่วยเติมเต็มความแข็งแกร่งให้กันและกันอย่างลงตัวที่สุด
ดร.สมชาย กิตติชัยกุลกิจ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการซีเอสแอล ได้เล่าถึงการร่วมมือกันในครั้งนี้ว่า “อันที่จริงทาง ซีเอส ล็อกซอินโฟ และ เอไอเอส ได้มีการดำเนินธุรกิจร่วมกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งในวันนี้เรามีความยินดีที่จะประกาศถึงโพสิชันใหม่ของเราให้ชัดเจนขึ้นผ่านแบรนด์ ซีเอสแอล โดยในโลโก้ใหม่เราได้เลือกใช้สีส้มและสีเขียวมาประกอบกัน เพื่อให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงและทันสมัยยิ่งกว่าเดิม เพื่อสร้างการจดจำให้กับลูกค้าที่เป็นเป้าหมาย”
ซีเอสแอล หรือ ซีเอสล็อกซอินโฟ นั้น ถือได้ว่าเป็นเบอร์ 1 ในแวดวงผู้ให้บริการ ICT แก่ตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์ กว่า 5,000 ราย ในทุกอุตสาหกรรมทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน การเงิน การธนาคาร ซึ่งสิ่งที่แตกต่างและเป็นจุดแข็งเสมอมาของซีเอสแอลก็คือการให้บริการที่ครบวงจรในราคาที่สมเหตุสมผล ด้วยความพร้อมด้านประสบการณ์ทำงานกว่า 25 ปี จึงเข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละธุรกิจเป็นอย่างดี รวมถึงมี People ware ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้เห็นปัญหาได้ไว แก้ไขได้รวดเร็ว และตอบโจทย์ตรงจุด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ซีเอสแอลจึงมุ่งหวังว่าจะเป็นผู้นำบริการ One Stop ICT Service แบบครบวงจร เพื่อตอบรับยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลทรานฟอร์มเมชันที่กำลังก้าวเข้ามา Disruption ภาคธุรกิจไทยทั้งเล็กและใหญ่ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพสูงสุด
และเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ซีเอสแอลได้ชูกลยุทธ์ 3Ss ที่นับว่าน่าสนใจและมีประโยชน์อย่างมากต่อลูกค้า ได้แก่
1. S-Solutions หรือบริการ Data Center และ Cloud Solutions ที่สามารถปรับให้สอดคล้องไปกับความต้องการของแต่ละธุรกิจ พร้อมให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร สามารถเข้าไปวิเคราะห์ถึงจุดแข็ง จุดอ่อน และความเป็นไปได้ต่างๆ ก่อนจะแนะนำให้คำปรึกษาว่าควรใช้ระบบแบบไหนจึงจะได้ผลดีที่สุด ซึ่งซีเอสแอลเองเรียกว่าเป็นเบอร์ต้นที่มีจุดแข็งมากมายในส่วนนี้ อาทิ
- เป็นผู้ให้บริการที่มี Data Center ในไทยจำนวนมากที่สุด รวม 9 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภูมิภาค ด้วยมาตรฐานระดับ ISO 9001, ISO/IEC 20000-1, ISO/IEC 27001, ISO 22301, ISO 50001, ISO 14001, CSA Star
- เปิดกว้างให้เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการทุกโครงข่าย ลูกค้าองค์กรจึงสามารถเลือกใช้บริการโครงข่ายจากผู้ให้บริการที่ต้องการได้อย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ให้บริการที่มีการเชื่อมต่อระบบแล้วจำนวนมาก เช่น TOT, CAT. True, UIH, Jastel, Interlink, Symphonyy, ALT Telecom และ AWN
- บริการ Hybrid Cloud Solutions รวมความสามารถของทั้ง Private Cloud, Cloud On-Premise และ Public Cloud เข้าด้วยกัน จึงตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและสามารถยืดหยุ่นได้ตามการใช้งาน โดยได้รับความร่วมมือกับพันธมิตรที่ให้บริการ Cloud ชั้นนำระดับโลกทั้ง Microsoft Azure, VMware, AWS ทำให้ต้นทุนต่ำลง และยังสามารถขยาย Capacity ได้ตามความต้องการเพื่อรองรับอนาคต
2. S-Managed Service บริการทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลอย่างครบวงจร ตลอด 24 ชม. ด้วยประสบการณ์การให้บริการกับองค์กรชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมสำคัญ จึงสามารถให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง หรือย้ายระบบตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมดูแลระบบให้หลังการขาย ครอบคลุมการบริหารจัดการทั้งระบบ LAN/WAN, SD-WAN, Firewall, Data Center, Cloud On-Premise และ Cloud Services
3. S-System Integration บริการผสานนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร โดยร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการด้าน IT Solutions ที่มีชื่อเสียงระดับโลก นำเสนอโซลูชั่นครบวงจรแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Turnkey ทั้ง Computer Hardware, Software, Cloud Solutions, Security Solutions, อุปกรณ์สื่อสาร Network และ Cabling ให้ลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการในราคาที่เข้าถึงได้
ทั้ง 3 กลยุทธ์นี้เรียกได้ว่าสะท้อนถึงความโดดเด่นที่ซีเอสแอลเคยมีและถูกทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อตอบรับกับกลุ่มลูกค้าที่กำลังจะเติบโตขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเป็นผู้ให้บริการ ICT Solutions ที่พร้อมเข้าไปดูแลลูกค้าแบบครบลูป และยังคงซัพพอร์ตต่อไปหลังจากนั้นคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการซีเอสแอล
“จากความแข็งแกร่งที่เรามี เมื่อรวมกับการที่ซีเอสแอลได้เข้ามาเป็นหนึ่งในกลุ่มเอไอเอสซึ่งมีความแข็งแกร่งด้าน Digital Infrastructures ที่ทรงประสิทธิภาพเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ได้แก่ เครือข่าย Mobile ในฐานะผู้ให้บริการที่มีคลื่นความถี่มากที่สุดในประเทศ, อีกทั้งยังเป็นเจ้าของโครงข่าย Fiber Optic ความยาวมากกว่า 160,000 กม.ทั่วประเทศ พร้อมให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติกแท้รายแรกของไทย จึงพร้อมสนองตอบการใช้งานของธุรกิจทุกภูมิภาคทั่วไทย ทั้งการรับส่งข้อมูลระหว่างสาขาภายในประเทศและการส่งข้อมูลระหว่างประเทศ ด้วยแบนด์วิธในประเทศ (NIX) ที่ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับการใช้งานในประเทศถึง 2.9 Tbps และแบนด์วิธระหว่างประเทศ (IIG) ขนาด 1.2 Tbps รวมถึงการที่เอไอเอสมีเครือข่าย IoT ทั้งโครงข่าย eMTC และ NB-IoT ที่ทรงประสิทธิภาพ ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย ทำให้เราพร้อมก้าวไปสู่การเป็นเบอร์ 1 ในตลาดลูกค้าองค์กรอย่างแน่นอน” ดร.สมชายกล่าวสรุป
และล่าสุดซีเอสแอลได้เปิดตัว Data Center ใหม่ 2 แห่ง ด้วยจุดแข็ง “Carrier Neutral” ที่พร้อมเชื่อมต่อกับทุกโครงข่าย ออกแบบตามมาตรฐานสากล มั่นใจได้ถึงระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล ได้แก่ TELLUS 2 ที่ดีไซน์แบบ Modular ด้วยความจุสูงสุด 1,000 racks และ The Cloud B ต่อยอดความสำเร็จจาก The Cloud A รองรับการขยายตัวของธุรกิจลูกค้าองค์กรและการเติบโตของเทคโนโลยี Cloud, AI, และ IoT
ลูกค้าองค์กรที่สนใจใช้บริการซีเอสแอลสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2263-8185 หรือที่ presales@csl.co.th และที่เว็บไซต์ www.csl.co.th