วันก่อนเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า เจอเหตุการณ์ชวนตะลึง เมื่อมีผู้ชายแต่งตัวเป็นคนทำงานออฟฟิศพยายามจะแต๊ะอั๋งสาวคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนหญิงที่เดินมาด้วยกัน 3 คน ด้วยการใช้มือขวาพยายามลูบไล้ไปด้านหลังของฝ่ายหญิง ดีที่ผู้หญิงรู้ทันเพราะเพื่อนบอกให้ระวังชายที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงหลบได้
ถือเป็นความโชคดีของฝ่ายหญิงนะเนี่ยที่ไม่เสียรู้ไปโดนหนุ่มมักมากแต๊ะอั๋งเข้า ตอนแรกที่สังเกตเพราะชายคนนี้มีพิรุธอยู่แล้ว แบบว่ามืออยู่ไม่สุข จึงไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นพวกที่พยายามขโมยกระเป๋าสตางค์ หรือเป็นพวกชอบฉวยโอกาสกันแน่? แต่ในเมื่อรอดพ้นมาได้แล้ว แสดงว่าน้องๆ ก็รู้จักสังเกตเหมือนกันแฮะ
ดีแล้วล่ะที่ช่วยกันสังเกต “คนที่มีเจตนาไม่ดี” บนรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีผู้ใช้บริการเยอะในเวลาเร่งด่วน เพราะผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มักไม่ค่อยระมัดระวังกันอยู่แล้ว จึงอยากเตือนไว้ด้วยว่า ผู้ที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์นั้นมีปะปนกับคนดีๆในสังคม ดังนั้นเวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ควรระวังกันไว้บ้าง ไม่ว่าคุณจะโดยสารรถหรือเรือขนส่งมวลชนอะไรก็ตาม การระวังตัวไว้ก่อนย่อมเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเองทั้งนั้น
แล้วไหนๆพูดเรื่องคนมีเจตนาไม่บริสุทธิ์กันแล้ว จึงอยากเล่าถึงคู่ที่คบกันอยู่ อย่างคู่ของหนุ่มชื่อต่อ กับสาวชื่อก้อยให้ฟัง ตอนแรก 2 คนนี้ก็จีบกันไปจีบกันมาเกี้ยวพาราสีกันดูน่ารักดี
แต่ทำไปทำมา น้องก้อยเกิดความรู้สึกไม่สู้ดีนักจึงไปปรึกษาเพื่อนเรื่องที่ว่า วันก่อนหนุ่มต่อได้บอกกับเธอว่า อยากคบหากับผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วยในขณะที่กำลังคบกับน้องก้อยอยู่แล้วเนี่ยนะ โอ้โฮเฮะ
ได้ยินแบบนี้ มีรึเพื่อนจะเชียร์ให้น้องก้อยเปิดไฟเขียวยอมให้เจ้าต่อมัน มีแต่เพื่อนแสดงความเห็นอกเห็นใจน้องก้อย แล้วโจมตีเจ้าต่อว่า “ทำไมถึงเป็นคนมากรักขนาดนี้ (ถือเป็นคนเจ้าชู้นั่นแหละ) คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนแบบนี้ไปได้” แล้วเพื่อนทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อย่าไปยอมเค้าล่ะ
...
“ขืนปล่อยให้เค้ามีโอกาสไปคบกับสาวอีกคน เป็นฉันไม่มีทางยอมแน่ ใครฟะจะยอมกันง่ายๆ แบบนี้มันก็เท่ากับเป็นการจับปลาสองมือสิแก” เพื่อนก็พูดให้เหตุผลกันไป
แต่สงสัยไหมว่าทำไมเจ้าต่อ (ฝ่ายชาย) ถึงต้องมาขออนุญาตคบกับสาวอีกคนกับน้องก้อยด้วย? ถ้ามันคิดอยากจะคบแบบลับหลัง หรือทำแบบหลบๆซ่อนๆก็ยังได้ แต่นี่ยังมีหน้ามาขออนุญาตก่อน เออ เดี๋ยวนี้เป็นอย่างนี้กันแล้ว! อยากมี “กิ๊กใหม่” ก็มาขอแฟนด้วยแฮะ
ว่ากันว่าหนุ่มที่พยายามทำทีมาขอฝ่ายหญิงที่ตัวเองคบก่อนเพื่อหวังไปคบกับผู้หญิงอีกคน เพราะมันไม่อยากถูกจับได้ทีหลังไงล่ะ อีก อย่างเค้าคิดว่า อุตส่าห์เปิดเผยให้ฝ่ายหญิงรู้ก่อนนี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว และหวังว่าเธอจะยอมรับในสิ่งนี้ได้ เพราะถ้าเค้าได้ข้อเสนอแบบนี้จากฝ่ายหญิงบ้าง ก็จะไฟเขียวให้เธอทำเลย เพราะเค้าจะทำ (คือคบ 2 คน) อยู่แล้ว ฟังดูแล้วรู้สึกมั่วๆนะ สังคมที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนสมัยนี้
แต่ที่จริงความยุ่งยากของการคบหาใครสักคนก็มีมานานแล้วละคิดว่าน้องก้อยก็คงไม่ยอมตามใจแฟนหนุ่มอย่างเจ้าต่อแน่ ดังนั้นอาจมีการยื่นคำขาดว่า จะเลือกใครกันแน่? ถ้าเลือกก้อยก็ต้องไม่มีคนนั้น หากเลือกคนนั้นก็ไม่ควรมีก้อย อย่างนี้ค่อยสมเหตุสมผลหน่อย
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ก็คิดขึ้นมาได้ว่า ถ้า “คนที่คุณคบ” ชอบเอาเปรียบคุณ แล้วคุณควรยอมเค้าไหม? อย่าลืมว่า คนที่เอาเปรียบแฟนสามารถทำได้หลายอย่างนะ เช่น......
1.เวลาคบกัน เค้าจะไม่ยอมเปิดเผยว่า คบกับคุณอยู่อยากเก็บเป็นความลับไว้ดีก่า
โอ้ย อย่างนี้มีเยอะนะ ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบกันชัดๆ เพราะในทางกลับกัน คุณอาจอยากเปิดเผยก็ได้นี่ว่าคุณคบกับเค้าอยู่ให้สังคมได้รับรู้ก็ได้ แต่เมื่อเค้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่อยากบอกใครแถมยังมาขอตกลงกับคุณว่า เราอย่าเพิ่งเปิดเผยเรื่องเราคบกันอยู่ให้คนอื่นรู้เลยนะ อย่างนี้ถ้าเพิ่งคบกันก็พอเข้าใจได้
แต่ถ้าคบกันมานานแล้วยังไม่ยอมเปิดเผยอีก ก็ชักยังไงๆอยู่นา
2. คุณพยายามรักษาความสัมพันธ์ฉันท์คนรักกับเค้าเพียงข้างเดียวหรือเปล่า?
หมายฟามว่า คุณเป็นคนที่พยาย้าม...พยายามยอมเค้าทุกอย่างเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราเป็นไปด้วยดีมาตลอด ขณะที่เค้ากลับไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าคุณจะคิดอะไรอย่างไร จะรักกันต่อไปดีไหมหรือรักกันแค่นี้พอ? เค้าไม่สนอยู่แล้ว เพราะแค่ใช้ชีวิตไปวันๆก็พอใจแล้ว
3.เค้าทำให้คุณรู้สึกผิดในสิ่งที่ไม่ได้ทำหรือเปล่า?
บางทีคุณไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เค้าสามารถชี้ได้ว่าเป็นความผิดของคุณน่ะเคยมะ? คือ จู่ๆเค้าก็ “ของขึ้น” แล้วพาลมาที่คุณว่า เรียกร้องอยากให้เค้ามีเวลาให้คุณอยู่ได้ จนงานการของเค้าไม่ก้าวหน้าสักที ทั้งที่คุณไม่เคยขอให้เค้าเพิ่มเวลามาอยู่กับคุณเลยนะ เพียงบอกว่า ถ้าว่างเมื่อไหร่ เราก็ควรใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ้างเท่านั้นเอง แต่เค้ากลับอารมณ์เดือดมาจากไหนก็บ่ฮู้แล้วก็โทษว่าคุณเป็นต้นเหตุซะงั้น
4. เค้าให้ของขวัญคุณในสิ่งที่ใช้ร่วมกันได้
ไม่ใช่ให้สิ่งที่คุณอยากได้นะ ต้องแยกให้ออก เฮ้ออย่างนี้ไม่น่าเป็นแฟนด้วยเลย.
@@@
เมอร์ลิน