เรื่องราวดีๆ จากนักคิดนักเขียน ที่วันนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ มีโอกาสนำมาบอกต่อผ่านคอลัมน์ที่ชื่อว่า Creative Thinking กับแนวคิดสุดยอดของเคเอทีฟคนดังแห่งเมืองไทย "เมฆ-เกรียงไกร กาญจนะโภคิน" Founder & Group CEO บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ที่จะมาเล่าเรื่อง...แค่ของเก่าไม่พอ
ผมได้ไปภูเก็ตมาก็หลายที แต่ไม่ได้มีโอกาสไปชมเมืองเก่า ที่กำลังเป็นที่อินเทรนด์ฮิตติดอกติดใจของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไปรอบนี้ผมเลยขอแวะไปดูหน่อย ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งในตอนแรกความคิดของผม ภูเก็ตก็คงเหมือนกับสถานที่ท่องเที่ยวในสมัยนี้ ที่นำเอาแลนด์มาร์กต่างๆ ในภูมิภาคมาทำเป็นจุดขาย โดยเอาสิ่งที่เรียกว่าของเก่าสมัยก่อนที่เป็นเมืองขึ้นนำมาตกแต่ง สร้างชีวิตชีวาให้กับมัน อย่างที่เราเห็น ทั้งใน ปีนัง ประเทศมาเลเซีย หรือแม้แต่สิงคโปร์ ก็เอาด้วย ซึ่งรูปแบบก็คล้ายๆ กัน คือเอาสีมาทาอาคารให้มีสีสันสดใส มีภาพ Graffiti มาพ่นลงบนผนัง ร้านค้าต่างๆ ก็ออกแนวสมัยใหม่มีร้านกาแฟ สินค้าแฟชั่น โดยเฉพาะรัฐบาลสิงคโปร์ช่วยออกมาส่งเสริมสนับสนุนร้านค้าเลย ซึ่งผมว่ามันขาดความเป็นธรรมชาติไป
...แต่พอผมได้มาเห็นที่ภูเก็ตบ้านเรา มันโตแบบ Organic ครับ คือโตอย่างเป็นธรรมชาติเลย โดยพอเข้าสู่เขตเทศบาลเมืองภูเก็ต สิ่งแรกที่เราจะเห็นเลยคือมีร้านอาหารอร่อยๆ ที่เปิดมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ โรงแรมเก่าๆ เริ่มมีคนมา Renovate อาคาร เติมโน่นเติมนี่เข้าไป สีสันดูเป็นธรรมชาติซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามรสนิยมของเจ้าของกิจการ ส่วนอาคารต่างๆ ในเขตเมืองเก่านั้นสวยงามดีอยู่แล้ว แต่เมื่อเอาองค์ประกอบใหม่ๆ เข้ามาประกอบ ทำให้เกิดความหลากหลายที่ผสมผสานความเก่ากับความใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน ยิ่งทำให้ดูสวยงามเพิ่มขึ้น จนเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองภูเก็ต แต่ที่สำคัญมันโตแบบเป็นธรรมชาติของมันเอง มีสายไฟฟ้ายุ่งๆ พอให้เห็นความไม่เป็นระเบียบ เพราะมันโตแบบไม่มีใครวาดผัง ให้เป็นไปในทิศทางของมันและเติบโตเอง เลยทำให้ดูไม่มีการจัดการมากจนเกินไปแบบสิงคโปร์
...
สรุปนะครับใครคิดจะเอา “ของเก่า” มาเป็นจุดขายอย่างเดียวมันไม่พอแล้ว ต้องเติม Creativity เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความแตกต่าง เหมือนแบบภูเก็ตของเรา ซึ่งผมว่าเรามาถูกทางแล้วครับ