อาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

- โรคกล้ามเนื้ออักเสบ
- เส้นประสาทผิดปกติหรืออักเสบ
- ไขสันหลังผิดปกติ เช่น จากอุบัติเหตุที่ทำให้กระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ทำให้เกิดอาการอ่อนแรงครึ่งซีก ร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปากเบี้ยว น้ำลายไหล พูดไม่ชัด

การบริหารร่างกายเพื่อฟื้นฟูอาการอ่อนแรง

การทำกายภาพบำบัดช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ โดยต้องปรับตามสภาพร่างกายของผู้ป่วย หลักการบริหารมีดังนี้

1. บริหารกล้ามเนื้อใบหน้า

สำหรับผู้ป่วยที่มีปากตก น้ำลายไหล ควรฝึกกล้ามเนื้อมุมปาก เช่น การขยับริมฝีปากเพื่อเพิ่มความแข็งแรง

2. บริหารแขนที่อ่อนแรงครึ่งซีก

- ฝึกขยับข้อแขนขึ้น-ลงให้สุดพิสัย เพื่อป้องกันข้อติด
- ฝึกเพิ่มความแข็งแรงโดยใช้แรงต้าน เช่น เริ่มจากแรงต้านของตัวเอง และเพิ่มน้ำหนัก เช่น ใช้ขวดน้ำ

3. บริหารขาเพื่อเพิ่มความแข็งแรง

- นักกายภาพบำบัดจะช่วยฝึก เช่น การยืนและเดิน โดยอาจใช้หุ่นยนต์ช่วยฝึกเพื่อให้ผู้ป่วยยืนและเดินได้ดีขึ้น

4. การกระตุ้นสมองส่วนที่ควบคุมการทรงตัว

- ใช้เครื่องกระตุ้นสมองช่วยเพิ่มโอกาสการฟื้นฟู

วิธีฝึกบริหารกล้ามเนื้อ ทำได้ดังนี้

1. ฝึกบริหารกล้ามเนื้อแต่ละส่วน เช่น ขยับข้อศอก งอ-เหยียดข้อศอก 10-15 ครั้งต่อรอบ ทำ 3 รอบต่อวัน
2. สำหรับการฝึกเดิน ต้องประเมินความสามารถของผู้ป่วย เช่น การเดินช้า ๆ หรือฝึกเดินกับอุปกรณ์ช่วย

การบริหารในโรงพยาบาล

1. ผู้ป่วยสามารถฝึกกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด เช่น ฝึกขยับข้อ เคลื่อนไหวบนเตียง นั่ง ยืน เดิน
2. กิจกรรมบำบัดจะช่วยฝึกการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การใส่เสื้อหรือกินข้าว
3. การใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย ทั้งการใช้หุ่นยนต์ช่วยการเดินและการขยับแขน การใช้เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สมองและรอบนอก (transcranial magnetic stimulation, repetitive peripheral magnetic stimulation)

...

ประโยชน์ของการทำกายภาพบำบัด

1. ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
2. ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีขึ้น
3. เป้าหมายสำคัญคือการกลับมาช่วยเหลือตนเองได้มากที่สุดเท่าที่สมรรถภาพจะสามารถทำได้

การป้องกันอาการอ่อนแรงจากโรคหลอดเลือดสมอง

หากพบคนใกล้ตัวมีอาการอ่อนแรง ควรรีบพาไปโรงพยาบาลภายใน **270 นาที (4 ชั่วโมงครึ่ง) เพื่อรักษาได้ทันเวลา ลดโอกาสการเสียชีวิตของเซลล์สมอง

การบริหารร่างกายอย่างเหมาะสมและต่อเนื่องช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ดีขึ้น แต่การป้องกันโรค เช่น โรคหลอดเลือดสมอง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม!

@@@@@@@

แหล่งข้อมูล
ผศ. นพ.ไพฑูรย์ เบ็ญจพรเลิศ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล