ไวรัสโควิดเมื่อเข้าร่างกายแล้ว กระจัด กระจายไปทั่วในร่างกาย และค้างอยู่ในอวัยวะดังเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว และคนที่ตายด้วยสาเหตุอื่น แม้หลังจากอาการหายแล้ว การชันสูตรศพก็พบมีไวรัสอยู่ทั่วทุกอวัยวะ แม้แต่ในสมอง ต่อมน้ำเหลือง ในเซลล์ของอัณฑะ รวมถึงเซลล์ที่ผลิตสเปิร์ม

แต่ที่ต้องสนใจคือในคนเป็นๆ ที่ติดโควิดเข้าโรงพยาบาลในระดับปานกลางถึงหนัก และออกจากโรงพยาบาลมาแล้วสามเดือน โดยพบว่า 9 ใน 13 ราย ตัวสเปิร์มยังมีไวรัสอยู่ จากการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (transmission electron microscopy) แต่ตรวจด้วยพีซีอาร์ไม่เจอ นอกจากนั้นยังมีความผิดปกติในตัวสเปิร์มด้วย

ทั้งนี้ เซลล์ในลูกอัณฑะ รวมถึงเซลล์ Sertoli Leydig และเซลล์ที่สร้างตัวอสุจิสามารถจับไวรัสได้ เนื่องจากมี furin TMPRSS11B และ TMPRSS 12 ที่สามารถกระตุ้นเอนไซม์ proteases และทำให้ยอมรับไวรัสเข้าเซลล์ โดยที่ผนังปราการกั้นระหว่างหลอดเลือดกับอัณฑะนั้นไม่แข็งแรงด้วย รายงานก่อนหน้านี้พบว่าตัวสเปิร์มบาดเจ็บจากการที่มีสารอักเสบทะลักออกมาจากเซลล์เม็ดเลือดขาว และเซลล์ Sertoli และยังมีผลกระทบโดยตรงจากการที่ไวรัสไปจับที่ผิวของสเปิร์ม

...

การที่ไวรัสสามารถเจาะเซลล์ leydig ได้ ทำให้กระทบการสร้างฮอร์โมนเพศชายและสารสเตียรอยด์ตัวอื่นๆ นอกจากนั้น leydig ยังมีบทบาทในการอุ้มชูเซลล์ Sertoli ที่ควบคุมในการสร้างสเปิร์ม

ตัวลูกอัณฑะเองนั้นมีกลไกเหมือนกับอวัยวะอื่น เช่น ในปอด ในการต่อสู้กับอันตราย ทั้งนี้ ในอวัยวะอื่นนั้นใช้เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ และปล่อยสารข้นเหนียวขุ่นคลั่ก ที่เรียกว่า ETs หรือ extracellular traps ซึ่งเป็นกลไกต่อต้านเชื้อโรคแต่ทำให้เซลล์เสียหายได้ด้วย และผู้ป่วยทั้งหมดนี้ที่หายดีแล้วพบว่ามี DNA based ETs ทั้งหมด โดยเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการติดเชื้อและการที่พยายามกำจัดไวรัส (ETosis-like response)

จากผลการศึกษานี้ คณะผู้วิจัยได้เสนอว่า ต้องไม่ให้มีการติดลูก อย่างน้อยสองรอบของการสร้างสเปิร์มนั่นก็คือ 24 สัปดาห์ ทั้งนี้ รวมถึงความประสงค์ที่อยากมีลูกโดยเพศสัมพันธ์ตามปกติ และการช่วยให้มีลูก เช่น การผสมเทียมด้วยวิธีต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของลูกที่จะเกิดมา

ในการศึกษานี้ไม่ได้กล่าวถึงผู้ได้รับวัคซีน ซึ่งเป็นที่รับทราบกันดีอยู่แล้วว่าวัคซีนสามารถกระจายไปทุกส่วนของร่างกายรวมทั้งลูกอัณฑะ และมีผลต่อเซลล์ที่สร้างสเปิร์ม และมีรายงานก่อนหน้านี้แล้วว่า สตรีที่ท้องและได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็ม มีความผิดปกติของการแท้ง ตายคลอด มดลูกมีรกผิดตำแหน่ง มีผลต่อทารกที่เกิดมาอีกด้วย และผู้ชายในประเทศตะวันตกพบอสุจิไม่วิ่งอีกด้วย

รายงานนี้อยู่ในวารสาร andrology ทำการศึกษาโดยคณะจากบราซิล รับตีพิมพ์ 23 มกราคม 2024.

หมอดื้อ

คลิกอ่านคอลัมน์ "สุขภาพหรรษา" เพิ่มเติม