มะเร็งลำไส้ เป็นหนึ่งใน 5 ของโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ซึ่งกว่าที่จะแสดงอาการก็มักจะอยู่ในระยะลุกลามจนรักษาได้ยากแล้ว การตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยการส่องกล้องเป็นวิธีตรวจที่ได้ผลแม่นยำที่สุด แต่วันนี้ จุฬาฯ ได้ยกระดับความสามารถในการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้โดยใช้ AI ที่ช่วยให้ผลแม่นยำขึ้นกว่าเดิมถึง 16 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเผยว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย จำนวน 8,658 คน และอันดับ 2 ในเพศหญิง จำนวน 7,281 คน และมีแนวโน้มพบผู้ป่วยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เฉลี่ยวันละ 14 คน หรือ 5,332 คนต่อปี
...
นอกจากนี้ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ยังเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มผู้สูงอายุ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุจึงเป็นกลุ่มเสี่ยงของโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหาร หากตรวจพบโรคมะเร็งในระยะเริ่มต้นจะช่วยในการรักษาได้ทันท่วงที ช่วยลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้ได้
รศ.ดร.พีรพล เวทีกูล และ ผศ.ดร.ณัฐวุฒิ หนูไพโรจน์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ ศ.นพ.รังสรรค์ ฤกษ์นิมิตร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และคณะ จากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พัฒนานวัตกรรม “AI ตรวจจับความผิดปกติในทางเดินอาหาร” (DeepGI-Deep Technology for Gastrointestinal Tracts) ได้สำเร็จ เพื่อช่วยตรวจจับติ่งเนื้อที่มีความผิดปกติ ในลำไส้ใหญ่และโรคในระบบทางเดินอาหารอื่นๆ โดยมีความร่วมมือกับบริษัท อีเอสเอ็ม โซลูชั่น จำกัด ในการร่วมสนับสนุนนวัตกรรม และเป็นตัวแทนจำหน่าย DeepGI ซึ่งปัจจุบันได้ให้บริการตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และทดสอบใช้งานในโรงพยาบาลหลายแห่ง
ปัจจุบันการส่องกล้องผ่านช่องทวารหนัก (ตรวจลำไส้ใหญ่) หรือระบบทางเดินอาหารส่วนปลาย เป็นวิธีการมาตรฐานที่ใช้ในการตรวจหาความผิดปกติต่างๆ เช่น ติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ ซึ่งการตรวจจับความผิดปกติค่อนข้างมีความท้าทายมาก เนื่องจากลักษณะของติ่งเนื้อมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น แบบที่นูน และแบบที่แบนราบไปกับผนังลำไส้ อีกทั้งอาจจะมีขนาดที่เล็ก และสีที่กลมกลืนไปกับบริเวณโดยรอบ จึงทำให้การตรวจวินิจฉัยผิดพลาดได้ง่ายหากแพทย์ขาดประสบการณ์หรืออุปกรณ์การแพทย์ไม่ครบเครื่อง จากสถิติพบว่าการตรวจอาจผิดพลาดได้ถึง 22 เปอร์เซ็นต์
...
รศ.ดร.พีรพล เวทีกูล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เผยว่า การพัฒนาระบบเอไอในการส่องกล้องช่วยให้ทีมแพทย์ (AI-Assisted Solution) สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และลดความผิดพลาดดังกล่าว โดยเทคโนโลยี DeepGI จะประมวลวิเคราะห์ภาพที่ได้จากวิดีโอระหว่างการส่องกล้อง แล้ววิเคราะห์ความผิดปกติด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยใช้เทคนิค การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ซึ่งโมเดลจะตีกรอบบริเวณที่มีความผิดปกติแล้วแจ้งเตือนให้กับแพทย์ทันที โดยมีความแม่นยำมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ พร้อมสามารถวินิจฉัย ชนิดของติ่งเนื้อว่าเป็นชิ้นเนื้อที่เป็นอันตราย (Neoplastic) หรือไม่เป็นอันตราย (Hyperplastic) ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทำให้แพทย์มีความมั่นใจในการวินิจฉัยโรคได้มากขึ้น
จากผลการวิจัยพบว่า DeepGI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาติ่งเนื้อถึง 16 เปอร์เซ็นต์ การตรวจพบติ่งเนื้อเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ และจะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ถึง 3 เปอร์เซ็นต์
...
สำหรับจุดเด่นของ DeepGI ซึ่งเป็นระบบตรวจความผิดปกติในทางเดินอาหาร มี 4 ข้อ ได้แก่
- Deep Technology เทคโนโลยีขั้นสูงของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เรียกว่าการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) มาช่วยตรวจจับ (Detection) พร้อมแยกประเภทชิ้นเนื้อผิดปกติ (Characterization) แบบ real-time ด้วยความแม่นยำสูงสุด
- Vendor Unlock รองรับกล้องส่องทางเดินอาหารทุกแบรนด์และทุกรุ่น
- Extensible Future ต่อยอดได้อีกในอนาคตเพื่อตรวจหาชิ้นเนื้อผิดปกติตามจุดอื่นๆ ภายในร่างกาย เช่น ท่อน้ำดี และกระเพาะอาหาร เป็นต้น
- Affordable ราคาต่ำกว่าระบบอื่นในตลาด ซึ่งโรงพยาบาลหรือหน่วยงานราชการต่างๆ สามารถเข้าถึงได้ เพิ่มศักยภาพการตรวจขยายผลสู่แพทย์ชนบท
ปัจจุบัน (ปี 2567) DeepGI ได้ขยายขีดความสามารถรองรับการตรวจจับความผิดปกติในกระเพาะอาหาร ที่เรียกว่า Gastrointestinal Metaplasia (GIM) ซึ่งเป็นระยะเริ่มแรกของการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร โดยมะเร็งชนิดนี้เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบได้บ่อยและมีอัตราการเกิดมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้ป่วย
...
DeepGI มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีระดับ 5 (Technology Readiness Level 5, TRL5) และถูกทดสอบใช้งานจริงในหลายโรงพยาบาล มีการเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับคู่แข่งในท้องตลาด และสามารถตรวจจับความผิดปกติได้ทั้งในลำไส้ใหญ่ และในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะ ทำให้ป้องกันการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่และกระเพาะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในอนาคต DeepGI จะมีการขยายขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง เช่น การตรวจหาความผิดปกติในท่อน้ำดี เป็นต้น
“การใช้เทคโนโลยี DeepGI นี้มีความยากกว่าเทคนิคการตรวจส่องกล้องที่อื่น เนื่องจากลักษณะของเยื่อบุที่ผิดปกติจะมีขอบเขตที่ไม่ชัดเจนและมีลักษณะแบนราบ ทำให้การส่องกล้องหาโดยแพทย์ทั่วไปสามารถทำได้ยาก และการตีกรอบของตำแหน่งที่ผิดปกติจะต้องตีกรอบให้สอดคล้องกับลักษณะความผิดปกติของเยื่อบุซึ่งไม่สามารถใช้เป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยมเหมือนเช่นที่ทำในติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ได้” ศ.นพ.รังสรรค์ ฤกษ์นิมิตร ผู้รักษาการผู้ช่วยอธิการบดี ด้านนวัตกรรม จุฬาฯ และอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการตรวจส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย AI เนื่องจากมีประเทศอื่นๆ ทำได้เช่นกัน แต่ไทยก็เป็นกลุ่มแรกๆ ที่นำเทคโนโลยี DeepGI มาใช้ในการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ตั้งแต่ก่อนเป็นมะเร็ง
ปัจจุบันเทคโนโลยี DeepGI นี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบจากทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ถ้าหากผ่านแล้วก็จะนำมาจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งจะมีราคาย่อมเยากว่าเครื่องส่องกล้องด้วย AI จากต่างประเทศกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
“ตอนนี้มีการพรีออเดอร์จากโรงพยาบาลต่างๆ บ้างแล้ว และมีการนำไปทดลองใช้งาน เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลพระจอมเกล้า เพชรบุรี, โรงพยาบาลมหาชัย, โรงพยาบาล MedPark, โรงพยาบาล BNH ส่วนโรงพยาบาลรัฐบาลเราก็มีการคุยกับ สปสช. เพื่อให้เครื่องนี้เข้าระบบและสามารถช่วยเหลือประชาชนกลุ่มใหญ่ได้” ผศ.ดร.ณัฐวุฒิ หนูไพโรจน์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
พร้อมทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าที่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้าธนบุรี มีการศึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายในการตรวจส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่ของคนไข้ว่ามีความคุ้มค่ากว่าการไม่ตรวจเลยแล้วไปรักษาตอนเป็นมะเร็งลำไส้แล้ว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นหลักล้านบาท
“จำนวนเงินของการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ 1 คน มีมูลค่าเท่ากับการส่องกล้องตรวจถึง 2 หมื่นคน ที่สามารถรักษาได้ทัน แต่คนหนึ่งที่ต้องรักษาอาจจะทำได้แค่ยืดชีวิตออกไป ดังนั้นการตรวจคัดกรองไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องที่ดีกว่า” ศ.นพ.รังสรรค์ ฤกษ์นิมิตร ผู้รักษาการผู้ช่วยอธิการบดี ด้านนวัตกรรม จุฬาฯ และอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวเสริม
สำหรับค่าใช้จ่ายในการตรวจส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยเทคโนโลยี DeepGI นั้น ทาง ศ.นพ.รังสรรค์ เผยว่าไม่ได้บวกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกว่าการตรวจส่องกล้องทั่วไป เพราะเป็นเทคโนโลยีที่มาเสริมให้แพทย์ทำงานสะดวกขึ้น
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถือบัตรทองและผู้ที่มีสิทธิประกันสังคม เข้ารับการตรวจส่องกล้องมะเร็งลำไส้ด้วยเทคโนโลยี DeepGI ได้ แต่ต้องให้ทางโรงพยาบาลต้นสังกัดทำการส่งตัวมาเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยเสียก่อน จึงจะสามารถเข้ารับการตรวจด้วยเทคโนโลยีนี้ได้
ภาพโดย : ธนัท ชยพัทธฤทธี