ทั้งอีโบลา โควิด และนิปาห์ ทุน 12 ล้านเหรียญ อนุมัติโดยนาย แอนโทนี เฟาซี ผ่านไปยัง Colorado state university (CSU) ร่วมกับ EcoHealth alliance นาย Peter Daszak ดำเนินการสร้างห้องปฏิบัติการขนาดพื้นที่ 14,000 ตารางฟุต (ใช้เงิน 6.7 ล้านเหรียญ) และร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จีน

นำเข้าค้างคาวจากเอเชียทดลองเชื้อโควิด อีโบลา นิปาห์

โครงการได้เริ่มดำเนินการเดือนตุลาคม 2023 และจะปฏิบัติการได้ในปี 2025 เปิดเผยจากองค์กรการกุศล White coat waste project จากกฎหมายความโปร่งใสที่สามารถขอให้หน่วยงานเปิดเผยข้อมูล และเผยแพร่แล้วผ่านทาง X และ dailymail วันที่ 10 พฤศจิกายน 2023

ทั้งนี้ ผู้ให้ทุนและผู้ดำเนินการอ้างว่า จะเป็นห้องปฏิบัติการหนึ่งเดียวในโลกที่สามารถนำค้างคาวจากเอเชีย (และทั้งโลก) มาเลี้ยงและออกลูกและจะทำการปล่อยเชื้อที่สำคัญคืออีโบลา โควิดและเชื้อนิปาห์ โดยจะทำให้สามารถเข้าใจว่าเชื้อไวรัสร้ายแรงเหล่านี้อยู่ในตัวค้างคาวได้อย่างไรและแพร่เชื้อไปมนุษย์ได้อย่างไร

ห้องปฏิบัติการนี้อยู่ใน Campus ของ CSU ใน Fort Collins ทางเหนือของ Denver ซึ่งอยู่ห่างไม่มากจากที่มีประชาชนอาศัยอยู่ราว 168,000 คน

...

ในเดือนกันยายน 2023 NIH ได้ประกาศยุติการให้ทุนสำหรับการหาไวรัสจากค้างคาวและสัตว์ป่าที่ให้ในและนอกประเทศ

แต่ขณะเดียวกันก็ได้วางแผนในแผ่นดิน สหรัฐฯเอง ในเรื่องดังกล่าว และกำลังได้รับการต่อต้านจากสมาชิกสภาของสหรัฐฯ

ดร.เทรซี โกลด์สไตน์ ผู้ที่เป็นคนขับเคลื่อนสำคัญของโครงการ deep VZN ของ USAID ในการหาไวรัสจากค้างคาว หลังจากที่ได้รับทราบว่าจะมีการยุติโครงการจากการที่มีการเปิดเผยข้อมูลของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน Post ได้ลาออกและรับตำแหน่งใหม่เป็นผู้อำนวยการของสถาบัน one Health ของ CSU ในเดือนมิถุนายน 2023 และรับผิดชอบงานของห้องปฏิบัติการค้างคาวและเชื่อไวรัสต่อ

ในปี 2018 นายเฟาซีได้นำไวรัสจากสถาบัน วิจัยไวรัสอู่ฮั่นมาติดเชื้อให้ค้างคาว ที่ได้มาจากสวนสัตว์แมรี่แลนด์ ในห้องปฏิบัติการที่รัฐ Montana ทั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหนึ่งปีก่อนหน้าการเกิดระบาดโควิด และรายงานว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดโควิดแต่เป็นหลักฐานของการเชื่อมโยงการทำงานของสหรัฐฯกับสถาบันไวรัสอู่ฮั่นของประเทศจีน อีกชิ้นหนึ่งนอกเหนือจากที่มีการสืบสวนสอบสวนและเปิดเผยในสภาคองเกรสและเอกสารต่อประชาชนทั่วไปในเดือนมกราคม 2023

มีภาพจาก Dailymail แสดงถึงพื้นที่ของห้องปฏิบัติการและพิมพ์เขียว

จากการรายงานของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ในวันที่ 10 เมษายน 2023 สหรัฐฯผ่านทางกระทรวงกลาโหม USAID DARPA DTRA NIH และ EcoHealth alliance ส่งเงินทุนให้ประเทศต่างๆในทุกทวีปของโลกในการเสาะแสวงหาไวรัสใหม่ๆที่ไม่รู้จักชื่อในค้างคาวและสัตว์ป่ารวมทั้งในเอเชียและประเทศไทยเอง ตลอดจนให้มีการส่งไวรัสเหล่านี้เพื่อไปตัดแต่งพันธุกรรมให้เข้ามนุษย์และก่อโรคได้ดียิ่งขึ้น

ข้อมูลใน Dailymail 31 ตุลาคม 2023 อ้างอิงเอกสารจากองค์กร white coat waste project โดยได้ข้อมูลผ่านกฎหมาย ความโปร่งใส พบว่าในระหว่างปี 2015 ถึง 2023 มีการผันเงินของสหรัฐฯจากสถาบัน NIH ให้ห้องปฏิบัติการในประเทศจีนเพื่อทดลองในสัตว์ เป็นจำนวน 3,306,061 เหรียญสหรัฐฯ

1-University of Southern California จากทุนที่ได้รับ 1.9 ล้านเหรียญ ให้ Peking University 576,453 เหรียญในการเจาะสมองหนูและฉีดไวรัสเข้าไปในสมองหลังจากนั้นทำให้ตายและศึกษาสมอง

...

2-University of South Florida จากทุนที่ได้รับ 28.9 ล้านเหรียญ ให้ China Medical University, Kunming Medical University, and Beijing’s Zhongyu Bioengineering Co. 812,906 เหรียญ ในการสร้างเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ดื้อยาและฉีดเข้าไปในหนูจากนั้นให้ยุงเข้าไปกัดและดื่มเลือด

3-University of California-Irvine ได้ทุน 4.3 ล้านเหรียญ ให้ Wuhan Institute of Virology 216,000 เหรียญ ฉีดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ เข้าไปในสมองหนู

4–Microsoft co–founder Paul Allen’s Allen Institute ได้ทุน 64.7 ล้านเหรียญ ให้ 993,000 เหรียญ แก่ Huazhong University of Science and Technology ในการตัดชิ้นเนื้อสมองของหนูอายุน้อยและทำการวิเคราะห์

5-Emory University ได้ทุน 38.6 ล้านเหรียญ ให้ 515,418 เหรียญ แก่ Chinese Academy of Agricultural Sciences Harbin Veterinary Institute ในการรวบรวมเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่อันตรายจากตลาดสดของประเทศจีนและนำเชื้อเหล่านี้ฉีดเข้าจมูกของหนู mice และ guinea pigs

6-University of Illinois ได้ทุน 1.7 ล้านเหรียญ ให้ 149,832 เหรียญ แก่ Institute Pasteur of Shanghai ในการทำให้หนูติดเชื้อวัณโรคหลังจากนั้นทำให้ตายและทำการศึกษาต่อ

...

7-Eastern Virginia Medical School ได้ทุน 35.5 ล้านเหรียญ ให้ 42,452 เหรียญ แก่ Zhangliang Digging Machine Business Department ในการศึกษาใช้ยาตับอักเสบ และยา HIV ในลิง กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นมานานและในประเทศไทยเองด้วย ผ่านองค์กรต่างประเทศที่ฝังตัวในประเทศไทยอย่างน้อย 33 ปี และปัจจุบันอยู่ในสถาบันหลัก มหาวิทยาลัยและโรงเรียนแพทย์ต่างๆ ทั้งด้านคนและสัตว์ ทั้งการรวบรวมตัวอย่างเชื้อที่ไม่ใช่เฉพาะแต่เชื้อไวรัสรวม แบคทีเรียและปรสิต จนกระทั่งมีการตัดต่อตกแต่งพันธุกรรมโดยส่งให้ต่างประเทศในเครือข่าย

นี่เป็นสิ่งที่คนไทยต้องมีความตระหนักรู้ว่าประเทศไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันและเมื่อเกิดความเสียหายในประเทศที่ไม่ใช่แต่ประเทศไทยอย่างเดียว เป็นที่ใดในโลกนี้และสืบค้นความเชื่อมโยง ประเทศไทยคงต้องรับผิดชอบ.

หมอดื้อ

คลิกอ่านคอลัมน์ "สุขภาพหรรษา" เพิ่มเติม