เมื่อไม่นานมานี้มีศัพท์ใหม่เกิดขึ้นอีกคำหลังจากที่ทั่วโลกรู้จักคำว่า Disruption มาระยะหนึ่ง นั่นก็คือคำว่า VUCA World หรือแปลเป็นภาษาไทยสั้นๆว่า โลกผันผวน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ของทุกคนในโลก และยังเป็นความท้าทายในการแก้ไขปัญหาในทุกมิติของสังคม

VUCA มาจากคำ 4 คำ คือ ความผันผวน (Volatility) ความไม่แน่นอน (Uncertainty) ความสลับซับซ้อน (Complexity) ความคลุมเครือ (Ambiguity) เป็นคำที่กองทัพสหรัฐอเมริกาใช้เรียกสถานการณ์ในสงครามที่แอฟริกาและอิรัก ต่อมามีการนำมาใช้ในธุรกิจ เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เปลี่ยน แปลงอย่างรวดเร็ว เป็นความท้าทายของผู้นำในองค์กรที่ต้องทำความเข้าใจและปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของการเมืองเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

กรมอนามัยเป็นอีกหนึ่งในหน่วยงานหลักสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ที่จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับ VUCA World โดยเริ่มจาก “วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย” ซึ่งตรงกับวันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย ปีนี้กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ภายใต้แนวคิด “ความท้าทายงานอนามัยสิ่งแวดล้อมรองรับโลกที่ผันผวน : Environmental Health, A Vital Challenges in Response to VUCA World” เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ “VUCA World” ที่ผู้บริหารจะต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางที่อิงกับการแก้ปัญหาและการวางแผนเพื่อลดความไม่แน่นอน ไปสู่โลกที่มีการขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ด้วยการมีส่วนร่วม การพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง รวดเร็วในการตัดสินใจ ตลอดจนการทำงานเชิงรุก เพื่อให้การทำงานสามารถรับมือกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

...

อธิบดีกรมอนามัยบอกว่า การจัดกิจกรรมในปีนี้มุ่งให้ความสำคัญจากสถานการณ์ที่ผันผวนของโลก ปัญหามลพิษ สารเคมี และสาธารณภัยต่างๆ รวมทั้งโรคอุบัติใหม่ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจสังคม สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ความเสี่ยงและผลกระทบที่เกิดขึ้นนำไปสู่ความท้าทายของงานอนามัยสิ่งแวดล้อมไทยที่ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีบทบาทเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ต้องเร่งปรับตัว ทั้งการเตรียมแผน (Prevention) เตรียมความพร้อม (Preparation) การรับมือหรือตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน (Response) และการฟื้นฟู (Recovery) ให้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน นำไปสู่การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

“อยากจะเชิญชวนทุกหน่วยงานร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยและเอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีของทุกคน สู่อนามัยสิ่งแวดล้อมยั่งยืน” คุณหมอสุวรรณชัยย้ำพร้อมกับขยายความต่อไปว่า กิจกรรมในปีนี้ใช้ชื่อว่า “ตั้งสติ ตั้งรับ และปรับตัว” ซึ่งมีทั้ง กิจกรรมกระบอกเสียงเตือน บ้านเรือนปลอดภัย เพื่อสร้างแกนนำเตือนภัยพิบัติและเครือข่ายเพื่อนบ้าน ช่วยเป็นหูเป็นตาเรื่องภัยพิบัติ การก่อมลพิษสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งข่าวเครือข่ายและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และแกนนำชุมชนผ่านมือถือ เพื่อการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

กิจกรรมสำรองน้ำ สำรองชีวิต ส่งเสริมให้ทุกบ้านมีตุ่มหรือภาชนะเก็บสำรองน้ำใช้อย่างน้อยบ้านละ 1-2 ใบ พร้อมให้ความรู้การทำความสะอาดภาชนะเก็บกักน้ำ การปรับปรุงคุณภาพน้ำเบื้องต้น การใช้คลอรีนน้ำ (หยดทิพย์) ฆ่าเชื้อโรค สำหรับใช้ในช่วงประสบภัย โดยเฉพาะภัยแล้ง ภัยร้อนที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ กิจกรรมหยุดเผา เราไม่ตาย ประชาสัมพันธ์สื่อสารให้ทุกครัวเรือนหยุดการเผาขยะ การเผาในที่โล่งทุกรูปแบบ เพื่อลดมลพิษ ลดควัน ลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก และลดภาวะโลกร้อนที่จะทำให้เกิดภัยพิบัติ รวมทั้งการทำห้องปลอดฝุ่นประจำบ้านเพื่อเป็นที่หลบภัยจากภัยหมอกควัน กิจกรรมพฤติกรรมดี สุขอนามัยดี รณรงค์ให้หน่วยงาน พื้นที่ ชุมชน หรือสถานที่สาธารณะ ปฏิบัติตามมาตรการการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันโรค เช่น ส่งเสริมสุขวิทยาส่วนบุคคลให้เป็นเรื่องปกติประจำวัน กินร้อน มีช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือด้วยน้ำและสบู่อยู่เสมอ สวมหน้ากากเมื่อป่วย หรืออยู่ในพื้นที่กลุ่มคนหนาแน่น

...

จัดให้มีการรณรงค์ประเมินความเสี่ยงสุขภาพด้วยตนเอง เช่น รู้จักใช้แอปแจ้งเตือนภัยพิบัติ งดออกกำลังกายกลางแจ้งเมื่ออุณหภูมิสูง และฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน งดการเดินลุยน้ำท่วมขังในช่วงน้ำท่วม เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยที่ดี ให้ประชาชนห่างไกลโรค หรือนวัตกรรมด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ในการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในหน่วยงาน พื้นที่ ชุมชน หรือสถานที่สาธารณะ และ การจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมทั้งจัดนิทรรศการให้ความรู้ คำแนะนำด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม หรือจัดหาสื่อประชาสัมพันธ์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันและการลดความเสี่ยงโรคให้กับประชาชนหรือผู้ประกอบการในพื้นที่สาธารณะ ให้มีความรอบรู้ด้านสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม และสามารถดูแลจัดการสุขภาพของตนเองได้

หน่วยงานต่างๆสามารถร่วมรณรงค์ด้วยการแชร์ภาพ คลิปวิดีโอกิจกรรม พร้อมข้อความสั้นๆ ผ่านสื่อโซเชียลหรือสื่อต่างๆของหน่วยงานตนเอง พร้อมใส่เครื่องหมาย #วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทยปี2566 #ThaiEnviron mentalHealthDay2023 #กรมอนามัย ใต้ข้อความที่โพสต์ เพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวดีๆ และส่งมาที่ E–mail : env.thaiday@gmail.com  ได้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จะได้ส่งใบประกาศเกียรติบัตรเพื่อขอบคุณที่ร่วมเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอนามัยสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้ปลอดภัย และเอื้อต่อการมีสุขภาพดีต่อไป.

...