ในวันที่โลกน้อมรับแนวคิดเรื่องความงามในความแตกต่างหลากหลาย “New beneficial” จาก “โอเรียนทอล พริ้นเซส” กลายเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อแต่งแต้มสีสันที่สอดรับไปกับแนวคิดนี้ได้อย่างลงตัว จากความเชื่อที่ว่า ไม่ว่าจะมีผิวสีอะไร อยู่ในวัยไหน หรือแม้แต่เพศใด การเสริมสร้างความงามเพื่อความมั่นใจ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราทุกคนได้เสมอ สัมพันธ์ไปกับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เองที่ตอบโจทย์ความแตกต่างนั้นได้อย่างน่าสนใจ ไม่แปลกใจว่าทำไม ชื่อ beneficial จึงครองใจผู้บริโภคมากว่า 20 ปีไม่เปลี่ยนแปลง
โลกความงามในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
คุณอภัยพร ศรีสุข ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท เอสเอสยูพี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งคร่ำหวอดในวงการความงาม ให้ข้อมูลน่าสนใจว่า ปัจจุบันตลาดความงามกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ทั่วโลกเริ่มคลายความตึงเครียดจากสถานการณ์ โควิด-19 ลง โดยเฉพาะโลกความงามจากการแต่งแต้มสีสัน (Makeup) ที่มีมูลค่าตลาดในไทยถึง 2.26 หมื่นล้านบาท สัดส่วนที่ผิวหน้า 57% ริมฝีปาก 25% ดวงตา 17% และเล็บ 1%
แม้ว่า 2 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์จากโควิด-19 จะส่งผลกระทบทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางไทยลดลง 44% แต่การปรับตัวของ โอเรียนทอล พริ้นเซส ก็ทำให้แบรนด์สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้มากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงเว็บไซต์ ก็ได้เพิ่มช่องทางอย่าง Social Commerce/Chat Commerce เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง และด้วยฐานสมาชิกที่มีจำนวนมาก ซึ่งมี Brand Loyalty สูง ก็ทำให้ภาพรวมของ beneficial ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาลดลงเพียงแค่ 21%
“การแต่งแต้มสีสันยังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการอยู่เสมอ มาปีนี้ที่ผู้คนเริ่มกลับไปทำงานนอกบ้าน เดินทางท่องเที่ยว ก็ส่งผลให้ภาพรวมตลาด Makeup เริ่มเติบโตขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้มากกว่า 5% คาดการณ์ว่าสิ้นปีในส่วนของ beneficial เองก็จะเติบโตขึ้นมากกว่า 15% ขณะเดียวกันเราก็เห็นโอกาสในการเติบโตมากขึ้น ทั้งในประเทศไทย และภูมิภาค ปีนี้ โอเรียนทอล พริ้นเซส มีแผนจะเปิดช็อปเพิ่มเติมที่กัมพูชา แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การที่เราพัฒนาช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องก็ทำให้เราเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นแบบไร้พรมแดน”
ความศรัทธาในแบรนด์ สู่ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์
ปัจจุบัน โอเรียนทอล พริ้นเซส มีผลิตภัณฑ์รวมทั้งสิ้นถึงกว่า 500 SKUs เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมายใน 8 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1. กลุ่ม Facial & Special Regimen 2. Body Remedy 3. Hair Remedy 4. Natural Sunscreen 5. Perfumery 6. Makeup 7. Limited Edition และ 8. for MEN ซึ่งความน่าสนใจหนึ่งคือ ผลิตภัณฑ์กลุ่ม for MEN ที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย กลายมาเป็นกลุ่มสินค้าที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนขึ้นมาอยู่ใน Top 3
ขณะที่ beneficial ในฐานะผลิตภัณฑ์แต่งแต้มสีสันที่ผสานคุณค่าจากสารสกัดธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่รู้จักมายาวนาน และโดดเด่นด้วยความหลากหลาย กับความรู้สึกเป็นมิตรต่อกัน ทั้งจากตัวผลิตภัณฑ์ และราคา ก็ส่งผลให้ครองใจผู้บริโภคไม่เปลี่ยนแปลง คุณอภัยพร กล่าวเสริมว่า ความศรัทธาของลูกค้าต่อแบรนด์ โอเรียนทอล พริ้นเซส เรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์มีผลอย่างมากทำให้ beneficial ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่องด้วย ประกอบกับการทำการตลาดที่มากขึ้น เสริมทัพด้วยช่องทางการสื่อสาร และการจัดจำหน่ายที่ทันสมัย การเติบโตก็มากขึ้นตามไปด้วย
“ทุกวันนี้ผู้บริโภคเปลี่ยนไป กล้าสั่งซื้อ Makeup ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ต่อให้ไม่ได้ทดลองสินค้าจริงก็ตาม ส่วนเราเองก็มีเทคโนโลยี AR เป็นตัวช่วยซัพพอร์ต อย่าง Makeup Virtual Try-on ที่เสมือนได้ทดลองจริง กับสีที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงอย่างมาก ก็ทำให้ผู้บริโภคได้ประสบการณ์ใหม่ในการซื้อมากขึ้น แบรนด์ โอเรียนทอล พริ้นเซส เป็นแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจโดยใช้หลัก Customer-Centric Approach มาโดยตลอด เราจึงพร้อมที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ามากขึ้น อย่างการเปิดตัว New beneficial ในครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการส่งมอบผลิตภัณฑ์ความงามพร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็สามารถสวยได้ทุกเวอร์ชัน ทุกสภาพผิว ทุกความต้องการ”
New beneficial ให้ทุกคนได้ “สวยทุกเวอร์ฉัน”
สำหรับแฟนๆ ของ beneficial จะทราบกันเป็นอย่างดีว่า ความโดดเด่นผลิตภัณฑ์แต่งแต้มสีสันในชื่อนี้สร้างสรรค์มาจากความเชื่อเรื่องความงามจากดินแดนตะวันออก ไม่เพียงความหลากหลายของสีสัน แต่ความน่าสนใจหนึ่งยังเป็นการที่ผลิตภัณฑ์ผสานสารสกัดจากธรรมชาติ ก็ทำให้ขั้นตอนการแต่งแต้มสีสันเกิดขึ้นพร้อมกับการปรนนิบัติผิวพรรณ
“ที่ผ่านมา beneficial วางตัวเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงง่ายเสมอมา จากการเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเมกอัพที่หยิบขึ้นมาใช้ได้ง่ายๆ ต่อให้ไม่ใช่มือโปรด้านการแต่งหน้า ก็สามารถใช้ได้แบบมั่นใจ หรือต่อให้แต่งแล้วพลาดไปบ้าง ก็ง่ายต่อการแก้ไข ส่วนหนึ่งเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสานสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นความโดดเด่นและแตกต่างของ beneficial เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์มีความนุ่มเนียนละเอียดและเกลี่ยง่าย”
การกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของ New beneficial ภายใต้คอนเซปต์ “Multiverse : สวยทุกเวอร์ฉัน” ในวันนี้ จึงเป็นการตอกย้ำว่า พลังสีสันจากธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนสวยในแบบที่เป็นได้เสมอ โดย New beneficial ยังคงเอกลักษณ์ความงามในแบบฉบับของ โอเรียนทอล พริ้นเซส ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่น และแตกต่าง นั่นคือ การผสานสารสกัดจากธรรมชาติจากดินแดนตะวันออก อย่างสารสกัด Peony Flower ที่นับเป็นไฮไลต์สำคัญที่ช่วยมอบทั้งความสวยงาม และการปรนนิบัติผิวไปพร้อมกัน ในขณะที่แรงบันดาลใจจากแฟชั่น และสีสันจากดินแดนตะวันออก ก็ช่วยให้การเนรมิตความงามเป็นเรื่องสนุก
“New beneficial แตกต่างตรงที่มีสีสันมากขึ้น ในขณะเดียวกันเราก็มองความงามแบบองค์รวมมากขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงให้ความสำคัญกับเรื่องความงามจากภายใน โดยมองหาความงามแบบธรรมชาติ และหันมาสนใจในเรื่องส่วนผสมของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมสารสกัดธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงมองหาลุคที่เป็นแรงบันดาลใจจากธรรมชาติยิ่งขึ้น ในส่วนรายละเอียดผลิตภัณฑ์ New beneficial เน้นเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไม่เปลี่ยนแปลง อย่างการใช้งานง่าย การติดทนที่ยาวนาน ให้สีสันที่ชัดเจนโดยไม่ต้องใช้เวลากับการแต่งหน้านาน”
กับอีกสิ่งหนึ่งที่แฟน beneficial สัมผัสได้เสมอมา และกลายเป็นความประทับใจ นั่นคือการวางตัวเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงง่าย และเป็นมิตรกับผู้ใช้ ทั้งจากราคาที่สบายกระเป๋า ไปจนถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ง่ายต่อการใช้เติมแต่งสันให้กับทุกวัน โดยวันนี้ New beneficial เปิดตัวให้เลือกเป็นเจ้าของครบทุกสเตปการแต่งหน้า ตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ Base Makeup รองพื้น คอนซีลเลอร์ แป้งผสมรองพื้น แป้งฝุ่น และเมกอัพเบส ผลิตภัณฑ์รอบดวงตา คิ้ว มาสคาร่า อายไลเนอร์ และอายแชโดว์ ผลิตภัณฑ์ปัดแก้มที่มีให้เลือกทั้งแบบเนื้อฝุ่นและทินต์ ผลิตภัณฑ์แต่งแต้มริมฝีปากทั้งเนื้อแมต และฉ่ำวาว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ทั้งสูตรน้ำ และสูตรน้ำนม จนถึงผลิตภัณฑ์แปรงแต่งหน้าที่ขนแปรงอ่อนนุ่มต่อการสัมผัสผิวโดยทั้งหมดมากับราคาที่เข้าถึงง่าย ตั้งแต่ 200 - 700 บาทเท่านั้น
คุณอภัยพร กล่าวว่าคุณภาพ และความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ก็เป็นส่วนหนึ่ง กับอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อย่าง New beneficial ได้รับความสนใจ และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น นั่นก็คือเรื่องการสื่อสาร และการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ทั้งการขยาย E-Commerce Platform ให้แข็งแกร่ง ด้วยประสบการณ์แบบ Seamless Omni Channel Experience ไปจนถึงการเพิ่มความสะดวกสบายในการช้อปจากหลากหลายช่องทาง ไม่เพียงหน้าร้านกว่า 325 สาขาทั่วประเทศ แต่ยังรวมถึง Website และ Mobile Application นอกจากนี้ยังมี Marketplaces ต่างๆ ทั้ง Shopee, Lazada, Konvy, Line Shopping, TikTok Shop รวมถึง Chat Commerce อย่างการสั่งซื้อโดยตรงกับแบรนด์ผ่าน LINE OA, LINE สาขา, Social Commerce ผ่าน Facebook, Instagram, Twitter
นอกจากนี้ยังมีวิธีช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์ความงามแบบใหม่แบบเร่งด่วนที่น่าสนใจอย่างมาก อย่างการใช้บริการสั่งซื้อผ่าน Mart ใน Delivery Application ทั้งจาก Grabmart, Lineman Mart, Robinhood Mart ตอบโจทย์สวยเร่งด่วนได้ภายใน 1 ชั่วโมง และที่ได้ใจผู้บริโภคสายความงามไปเต็มๆ ก็คือ การรับประกันความพึงพอใจ ให้สามารถเปลี่ยนคืนสินค้าได้ภายใน 14 วัน ความสุขจากการแต่งแต้มความงามจึงเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งหมดก็ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกครั้งว่า สิ่งที่จะทำให้ New beneficial ครองใจทุกคนได้ไม่เปลี่ยนแปลง คือการเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจความงามในความหลากหลายนั่นเอง
“ทุกวันนี้กลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ มีอายุน้อยลง ส่วนหนึ่งเพราะการแต่งหน้าเกิดขึ้นเร็วในกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ จากกระแสออนไลน์ และเทรนด์ต่างๆ ในโลกโซเชียล กับอีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การแต่งหน้าหรือแต่งแต้มความงามได้ฉีกข้อกำจัดเดิมๆ ไปแล้ว ไม่มีข้อจำกัดเรื่องวัย สีผิว สภาพผิว หรือแม้แต่เรื่องเพศ การเสริมสร้างความสวยงามเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์ ความสุข และความพึงพอใจ ความหมายของความงามเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โอเรียนทอล พริ้นเซส จึงวางตัวที่จะสนับสนุนไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ในเวอร์ชันไหน ก็สวยได้ในแบบที่คุณเป็น เหมือนกับที่ New beneficial อยากส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ ‘สวยทุกเวอร์ฉัน’”