Highlight :
- ผู้หญิงหลายคนลดน้ำหนักอย่างหักโหม แต่ทำยังไงก็ไม่ผอม นั่นอาจจะเป็นเพราะยังไม่ได้ทำอย่างถูกต้อง เช่น ลดอาหาร ทานแต่อาหารไขมันต่ำ หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่ง
- การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง คือการบาลานซ์ระหว่างการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย รวมถึงการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
- "วินัย" และการวางแผนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตั้งแต่การเตรียมมื้ออาหารเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน รวมถึงการกำหนดระยะเวลาที่ต่อเนื่องและเห็นผลได้ชัดเจนนั่นคือ 6 เดือนขึ้นไป
ถ้าให้พูดถึงเรื่อง "ลดน้ำหนัก" จะต้องมีหลายคนบอกว่ากำลังลดอยู่ หรือเพื่อนบางคนเจอทีไรก็จะบอกว่า "ลดน้ำหนัก" อยู่ทุกที แต่ทำไมไม่เคยเห็นผอมลงเลย (คิดในใจแต่ไม่ก็บอกนางตรงๆ) หรือบางคนลดน้ำหนักแทบตาย แต่กลับอ้วนขึ้น อาจเป็นว่ากำลังลดน้ำหนักแบบผิดๆ อยู่หรือเปล่า มาเช็กก่อนหน่อยมั้ย จะได้ไปปรับพฤติกรรมกันใหม่
...
ความเชื่อ 1 # การลดนำ้หนัก คือการอดอาหารเท่านั้น !!
มีหลายคนมากที่พอคิดจะลดน้ำหนักปุ๊บ สิ่งเดียวที่คิดจะทำคือ การอดอาหาร งดมื้อเย็น หรือลดอาหารแบบหักดิบ จากที่กินอยู่ทุกวันไปเลย เอาจริงๆ มันเป็นวิธีที่ผิดอย่างแรง เพราะการที่เราอดอาหารโดยที่ไม่ได้มีการแพลน หรือจำกัดแคลอรีมากจนเกินไป โดยเฉพาะโปรตีน จะทำให้ร่างกายสะสมแคลอรีมากกว่าที่เผาผลาญออกไป ร่างกายต้องมาสลายกล้ามเนื้อเพื่อมาใช้เป็นพลังงานแทน พอเมื่อกล้ามเนื้อลดลง ก็ทำให้การเผาผลาญลดลงตาม แล้วยังไม่พอแค่นั้น ยังทำให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายรวนไปหมดอีกด้วย
เวิร์กที่สุด : คือค่อยๆ ลดแคลอรีจากเดิมที่เคยกินให้น้อยลงแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ไม่ใช่ลดฮวบโดยที่ไม่ทันให้ร่างกายได้ปรับตัวเลย ซึ่งหลักการส่วนใหญ่คือ จะให้ลดแคลอรีลงจากปกติวันละ 500 กิโลแคลอรี ซึ่งถ้าเราทำให้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เราจะสามารถลดน้ำหนักได้ครึ่งกิโล แล้วต้องอย่าลืมว่าจะต้องกินอาหารให้ได้อย่างน้อยวันละ 1,600-1,800 กิโลแคลอรี เพื่อไม่ให้ระบบเผาผลาญหยุดทำงาน และระหว่างที่ลดน้ำหนักไม่ควรงดบริโภคโปรตีน เพื่อป้องกันการดึงโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้
ความเชื่อ 2 # ต้องกินแต่อาหารที่เป็นไขมันต่ำ
บางคนมีความเชื่อว่าการกินอาหารที่เป็นไขมันต่ำ หรือไม่มีแคลอรีนั้น คือวิธีการลดความอ้วนที่ถูกต้อง แต่ในความเป็นจริงนั้นอาหารที่บอกว่าไขมันต่ำ หรือไม่มีไขมัน ไม่ได้หมายความว่าไม่มีแคลอรี เพราะการที่เรากินอาหารที่มีไขมันต่ำ หรือไม่มีไขมันเลย อาจช่วยลดแคลอรีได้มากกว่ากินอาหารปกติก็จริง แต่บางครั้งอาหารไขมันต่ำบางส่วนอาจมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายต่ำกว่าอาหารปกติชนิดเดียวกัน แถมยังอาจจะต้องมีการดัดแปลงเพิ่มแป้ง เกลือ หรือน้ำตาลลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้นหลังจากเอาไขมันออกไป เลยทำให้การกินอาหารไขมันต่ำแล้วจะช่วยลดนำ้หนักได้อาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกเสมอไป
เวิร์กที่สุด : สิ่งที่ถูกต้องที่สุดคือ การอ่านฉลากโภชนาการ เราควรให้ความสำคัญกับรายละเอียด หรือส่วนประกอบของอาหารไม่ว่าจะเป็นปริมาณโปรตีน เกลือแร่ และสารปรุงแต่งอื่น ๆ ไม่ใช่สนใจแค่ปริมาณแคลอรีรวม หรือปริมาณไขมันอย่างเดียว
ความเชื่อ 3 # ออกกำลังกายแค่อย่างเดียวก็พอแล้ว
การออกกำลังกายคือหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เราลดนำ้หนักได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง แต่ถ้าการที่เราออกกำลังกายอย่างเดียวโดยที่ไม่คุมอาหารเลย ไม่ช่วยให้เราผอมลงได้นะ ซึ่งเขามีงานวิจัยที่ทำในทหารซึ่งที่พวกเขาออกกำลังกายอย่างเดียว และสม่ำเสมอเป็นเวลา 3 ปี ผลที่ได้คือ บางคนอ้วนขึ้น บางคนน้ำหนักคงที่ ทั้งที่เพราะพวกเขาไม่ได้คุมอาหาร หรือจำกัดอาหารร่วมด้วย ซึ่งในบางครั้งพวกเขาก็กินมากกว่าที่ร่างกายเผาผลาญออกไป
เวิร์กที่สุด : การออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมปริมาณอาหารแต่ละมื้อ ยังคงเป็นวิธีลดนำ้หนักที่เวิร์กสุด และแนะว่าถ้าไม่อยากให้แพลนลดนำ้หนักแตกกระเจิงละก็ ควรกินอาหารนอกบ้านให้น้อยลง เพราะมีรายงานจากมหาวิทยาลัยทัฟส์ สหรัฐอเมริกาบอกว่า อาหารที่กินในร้านอาหารสำหรับคน 1 คนในมื้อเดียวนั้น มีปริมาณมากพอที่จะกินได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียวล่ะ
...
ความเชื่อ 4# นำ้หนักเริ่มลงก็เริ่มปล่อยตัวได้บ้างอะไรบ้างแหละ
มีหลายคนมากที่พอลดนำ้หนักได้ในช่วงแรก แล้วก็เริ่มชะล่าใจ หยุดคุมอาหาร และกลับไปกินตามใจที่อยากกินเหมือนเดิม แถมหยุดออกกำลังกายด้วย เลยทำให้น้ำหนักที่อุตส่าห์ลดไปกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เผลอๆ อาจเด้งกลับมามากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เวิร์กที่สุด : พยายามทำอย่างต่อเนื่อง อย่าเพิ่งหยุด หรือกลับไปทำพฤติกรรมแบบเดิมซะทุกอย่าง ซึ่งน้ำหนักอาจจะคงที่ หรืออาจจะไม่ลดลงก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุดควรป้องกันไม่ให้น้ำหนักที่ลดไปเพิ่มขึ้นมาภายใน 6 เดือนก่อน แล้วหลังจากนั้นจะแพลนว่าจะเริ่มกลับมาลดนำ้หนักอีกครั้ง หรือยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที
ความเชื่อ 5# ออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่งทุกวัน
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้เวิร์คที่สุดก็จริง แต่บางครั้งการที่เราอัดตารางกายออกกำลังกายแบบจัดหนักจัดเต็ม เพราะคาดหวังว่าจะช่วยให้ลดนำ้หนักได้เร็วขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องที่ถูกเลย แล้วอาจจะทำได้แค่ช่วงแรกเท่านั้น แต่หลังจากนั้นได้ไม่นานก็จะยอมแพ้ภายใน 2 อาทิตย์ เพราะนอกจากจะเป็นการฝืนร่างกายตัวเองเกินไปแล้ว ยังอาจทำให้ร่างกายบาดเจ็บจากการออกกำลังกายที่มากไปด้วย
เวิร์กที่สุด : ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2-3 วัน เว้นวันให้กล้ามเนื้อบางส่วนได้ฟื้นฟูบ้าง เพื่อให้เราได้ออกกำลังกายในวันถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงยังไม่ทำให้เป็นการกดดัน และเครียดจนล้มเลิกความตั้งใจไปในเวลาอันรวดเร็ว
...
Myth 6# ไม่สนใจเรื่องการนอน เพราะไม่ได้คิดว่าเกี่ยวข้องอะไร
หลายคนที่ลดน้ำหนักอาจไม่เคยคิดว่าการนอนดึก จะเกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักได้ยังไง ซึ่งถ้าให้ไปถามผู้เชี่ยวชาญทุกคนร้อยทั้งร้อยต้องบอกว่า การนอนหลับเนี่ยแหละเกี่ยวข้องกับการลดนำ้หนักอย่างรุนแรงเลย แล้วย่ิงถ้าในช่วงที่จริงจังด้วยแล้วละก็ การนอนไม่เพียงพอจะทำให้ระดับฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ที่เป็นฮอร์โมนกระตุ้นความหิวถูกผลิตออกมามากขึ้น แต่ในทางกลับกันการผลิตฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ต่ำลงซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความหิว และระดับไขมันในร่างกาย พอเมื่อระดับฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้สวนทางกัน แพลนลดนำ้หนักที่ตั้งเป้าไว้ก็มีสิทธิ์พังได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ
เวิร์กที่สุด :คือการนอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงนั้นเป็นสิ่งปกติที่ควรทำกันอยู่แล้วถึงต่อให้ไม่ลดน้ำหนักก็ตาม แต่แนะว่าในช่วงที่ลดน้ำหนักนั้นการเข้านอนแต่หัวค่ำก็จะยิ่งดี หรือการนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมง. เพราะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่เราออกกำลังกายมาให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แถมระดับฮอร์โมนในร่างกายก็ไม่แปรปรวนอีกด้วย
...
ลองเช็กกันดูแล้วใครที่ลดนำ้หนักด้วยวิธีผิดๆ ตามที่เราบอกมากันอยู่ ก็รีบเลิกกันนะ จะได้ "ลดนำ้หนัก" ได้ตามที่ตั้งใจกันไว้สักที บิกินีสุดฮอตรอเราอยู่ค่ะ