เพื่อสุขภาพที่ดีการออกกำลังกาย เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์นับเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้น น้ำสมุนไพรจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้รักสุขภาพ

น้ำสมุนไพรมีอยู่มากมายหลากหลายอย่าง บางชนิดจะมีรสเฉพาะ ทั้งขมและเฝื่อน ทำให้ดื่มยาก จึงต้องเติมรสหวานจากน้ำตาลผสมเข้าไป ถ้าเติมปริมาณพอเหมาะย่อมเป็นผลดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าเติมมากเกิน การดื่มน้ำสมุนไพรอาจกลายเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคฟันผุ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคเกี่ยวกับเมตาบอลิก

องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำแนะนำว่า ใน 1 วัน เราควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 25 กรัม หรือประมาณ 6 ช้อนชา ปริมาณเพียงเท่านี้ร่างกายจะนำไปใช้ประโยชน์ได้และไม่ทำให้เกิดโทษ

เพื่อเอาใจบรรดาผู้รักสุขภาพ สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างน้ำสมุนไพรบรรจุขวด 5 ตัวอย่าง จาก 5 ร้านค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลนำมาวิเคราะห์ปริมาณน้ำตาล (ฟรักโทส, กลูโคส, ซูโครส, มอสโทส และแล็กโทส)

ผลการวิเคราะห์พบว่า ตัวอย่างน้ำสมุนไพรมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดอยู่ในช่วง 4.81-14.60 กรัม/น้ำสมุนไพร 100 มิลลิลิตร หรือหากคิดต่อน้ำสมุนไพร 1 ขวด พบมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดอยู่ในช่วง 10.58-43.80 กรัมต่อขวด

จากผลวิเคราะห์จะเห็นว่าถ้าใน 1 วันเราดื่มน้ำสมุนไพร 1 ขวด ร่างกายก็ได้รับน้ำตาลเกือบเกินและเกินปริมาณที่ WHO แนะนำโดยยังไม่นับรวมน้ำตาลที่ได้จากอาหารอื่นๆ

เพื่อสุขภาพที่ดีขอแนะว่า เลือกดื่มน้ำสมุนไพรที่หวานน้อย หรือเป็นสูตรลดน้ำตาลจะดีกว่า หรือหันมาดื่มน้ำเปล่าแทน ลดโรค ลดเสี่ยงเบาหวานถามหา.

...

ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย