ร้าน “หนมจีน ณ ภูเก็ต” แต่ร้านอยู่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อเพลงลูกทุ่งตอนหนึ่งร้องว่า “สุราษฎร์ธานี แดนคนดีพิสุทธิ์สดใส” แต่มาคราวนี้ “คุณชาย 2” ไม่ได้มาหาคนดี แต่มาหาอาหารอร่อยๆ

เข้าร้านขนมจีนก็ต้องประเดิมด้วยขนมจีน มากันเป็นชุดๆ จะเลือกชุดเล็กชุดใหญ่ก็ว่ากันไป หากเป็นชุดใหญ่ น้ำยามากันพร้อมพรั่ง ทั้งน้ำยากุ้ง น้ำยากั้ง น้ำยาปู น้ำยาปลาหมึก น้ำยาหอย และแถมมาด้วยแกงไตปลา น้ำยาทุกอย่างนั้นเป็นน้ำยากะทิ แน่นอนว่ากะทิคั้นสดใหม่ ส่วนเนื้อสัตว์ต่างๆที่เข้ามาผสมปรนปรุงก็ขึ้นมาจากทะเลสดๆ เพราะสุราษฎร์อยู่กับทะเล อาหารการกินเกี่ยวกับทะเลไม่ต้องห่วงเรื่องความสดใหม่

ก่อนขนมจีนและน้ำยาจะเดินทางจากครัว พนักงานทยอยนำเครื่องเคียงมายั่วน้ำลายก่อน มีปลาจิ้งจั้งเป็นปลาตัวเล็กๆ แห้ง กรอบ อยู่ในขวดโหลใสๆ สับปะรดหั่นเป็นชิ้นๆใส่ถ้วยมารอไว้ ตามมาด้วยผักสารพัดชนิด เป็นต้นว่าแตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือม่วง ผักดอง หัวไชโป๊ และถั่วงอก

อั๊ยย่ะ...ขนมจีนมาแล้ว สีขาวสะอาดตา จับไม่ใหญ่นัก “คุณชาย 2” บรรจงตักใส่จาน ประเดิมด้วยน้ำยาปูก่อน ยอมรับว่าเป็นน้ำยาที่หอม มัน อร่อยเอามากๆ คนที่ชอบกินน้ำยากะทิหากได้ลิ้มน้ำยาปู อาจต้องร้องออกมาดังๆว่า อื้อฮือ...อร่อยจัง

ตักน้ำยาปูเยอะๆ ราดลงไปบนเส้นขนมจีนให้น้ำฉ่ำเข้าไว้ พอน้ำยาฉ่ำเส้นดีแล้วก็ค่อยละเลียดเข้าไป เส้นนุ่มไม่เหนียว กัดขาดอย่างรวดเร็ว ขณะส่งเข้าปากไป กลิ่นน้ำยากำจายออกมาบางๆ หอมเนื้อปูระคนกับกะทิอันเข้มข้น

...

หันไปทางน้ำยากุ้งดูบ้าง กุ้งเป็นตัวๆ ครั้นส่งเข้าไปก็ได้รสกุ้งสดใหม่ ครั้นจะแกล้งตักเพลินก็เกรงคนร่วมโต๊ะจะขว้างค้อนใส่เอา เลยต้องหันไปทางน้ำยาอื่นๆดูบ้าง น้ำยากั้ง น้ำยาปลาหมึก และน้ำยาหอย เนื่องจากทั้งหมดเป็นน้ำยากะทิ รสชาติของกะทิแต่ละอย่างไม่ต่างกัน แต่ต่างกันที่เนื้อสัตว์ที่ใส่เข้าไป

บรรดาน้ำยาทั้งหมด น้ำยาหอย แม้จะเป็นรายการสร้างสรรค์ แต่เนื่องจากหอยเมื่อทำสุกแล้ว นานไปเล็กน้อยก็จะเหนียวไปบ้าง เรื่องนี้ “คอหอย” หมายถึงคนที่ชอบรับประทานหอยย่อมตระหนักได้ดี ทำให้รายการนี้น่าจะเหมาะสำหรับคนฟันดีๆ

กระซิบไว้ก่อนว่า น้ำยาทุกอย่าง แรกๆคิดว่าจะเผ็ดน้ำตาไหล แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ อาจเป็นเพราะว่าเจ้าของร้านได้ “ปรับ” รสชาติใหม่ให้เข้ากับลิ้นคนทั่วๆไป โดยเฉพาะคนภาคกลางอย่าง “คุณชาย 2”

หากใครชมชอบรสเผ็ดจัดจ้าน ทางร้านก็มีแกงไตปลา อาหารสำคัญของชาวปักษ์ใต้ไว้บริการอยู่แล้ว และยังเป็นหนึ่งในชุดน้ำยาอีกด้วย

แม้จะเป็นร้านขนมจีน แต่ไม่ได้มีขนมจีนขายอย่างเดียว ยังมีโอเลี้ยง “ยกล้อ” เป็นรายการเด็ด เด็ดอย่างไร ทางร้านแนะนำวิธีดูดดื่มไว้ 3 ขั้นตอนคือ 1.อย่าทิ่ม อย่าเขย่าเด็ดขาด เพราะถ้าทิ่มและเขย่า นมกับกาแฟจะผสมกัน ทำให้พลาดโอกาสลิ้มรสชาติบางรสชาติไป 2.เสียบ (หลอด) เบาๆ ลึกมากก็จะขมมาก อันนี้เข้าใจได้ง่าย เพราะนมอยู่ด้านบน หากเสียบหลอดลงลึกๆ กาแฟที่นอนก้นอยู่ก็จะปรู๊ดปร๊าดขึ้นมา ทำให้คนดูดลิ้มรสกาแฟล้วนๆ และ 3.ดูดแล้วยก ทิ่มลงแล้วดูด อันนี้น่าจะหมายถึงหลอด อย่าได้คิดอะไรนอกแก้วโอเลี้ยงไปเชียว ถ้าคิดก็เป็นเรื่องของคนคิดเอง “คุณชาย 2” ไม่เกี่ยว

โอเลี้ยงยกล้อ เป็นรายการหนึ่งที่ไม่ว่าใครจะไปจะมาเป็นต้องสั่ง เสน่ห์นอกจากวิธีดูดดื่มแล้ว ยังอยู่ที่รสชาติของโอเลี้ยงที่แม้จะแก้วเดียวแต่มีหลายรส อาทิ บนหอมหวาน กลางมันและหอมนม และก้นรสขม แต่ถ้าคนให้เข้ากันหมดแล้ว ก็จะกลายเป็นโอเลี้ยงธรรมดาๆไป

อีกรายการเด็ดของร้านคือ โอ๋วเอ๋วภูเก็ต เป็นของหวาน หากจะเปรียบไปก็เหมือนนำน้ำแข็งใส่น้ำหวาน นม และมีวุ้นอยู่ในถ้วย แต่ไม่ใช่เพียงนั้น เพราะว่ามี “โอ๋วเอ๋ว” ใส่อยู่ รูปร่างคล้ายๆวุ้นทั่วไป ทางร้านยืนยันว่าทำมาจากกล้วยน้ำว้าผสมกับสมุนไพรจีน มีฤทธิ์เย็น ดับกระหายได้ดีนักแล

...

มองไปทางไหนก็เห็นมีคน เลยหันไปทางเจ้าของร้าน คุณวสันต์ แวววันจิตร วัย 37 ปี บอกความเป็นมาของร้านว่าเก่าก่อนอยู่จังหวัดภูเก็ต ต่อมาธุรกิจการท่องเที่ยวขยายตัวมาก ทำให้การขายขนมจีนไม่คล่องตัวนัก มาถึงรุ่นแม่ก็จะโบกมือลาอาชีพที่มีมาแต่บรรพบุรุษ

“ผมเลยเอาสูตรที่บ้านมาทำเอง นำมาประยุกต์ใหม่ เมื่อก่อนมีน้ำยาปู เราก็มาทำเป็นน้ำยากุ้ง กั้ง หอย ขอให้เป็นซีฟู้ดเราเอามาหมด แล้วทำให้ร้านทันสมัยขึ้น คิดรายการอาหารใหม่ๆขึ้นมา ปัจจุบันมีทั้งหมดกว่า 300 รายการ”
แม้ร้านจะเปิดมาเพียง 2 ปีเท่านั้น เนื่องจากเสียงลือเสียงเล่าอ้าง รสชาติอาหาร และตั้งอยู่ใกล้ศูนย์ราชการ โรงเรียนตำรวจ และบึงขุนทะเล ทำให้ทุกวันลูกค้าแน่นร้าน เพื่อแก้ปัญหาลูกค้ามาแล้วพลาดโอกาสจึงตั้งเงื่อนไขไว้ว่า หากวันเสาร์ อาทิตย์ ถ้าจะเข้ามารับประทานอาหารเกิน 4 คน จำเป็นต้องจองก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นโอกาสที่จะได้นั่งรับประทานอาหารด้วยกันเป็นเรื่องยากยิ่ง และยิ่งกว่านั้นคือ หากจองแล้วมาถึงร้านช้าเกิน 15 นาที ทางร้านมีความจำเป็นต้องให้ที่นั่งคนอื่นไป

...

ร้านมีที่นั่งทั้งหมด 13 โต๊ะเท่านั้น เข้าพร้อมๆ กันได้ประมาณ 60 คน สถานที่จอดรถสามารถจอดได้ริมถนน คนที่ต้องการ “สูตร” เอาไปทำ

คุณวสันต์บอกว่า ทางร้านยินดีขายแฟรนไชส์ มีเงื่อนไขว่า ผู้ที่จะเป็นเจ้าของร้านต้องมาฝึกด้วยตนเอง ถ้าเอาลูกจ้างมาฝึกเมื่อลูกจ้างออกจากงาน เจ้าของร้านก็จะไม่เหลืออะไรเลย

คนต้องการไปลิ้มลอง ร้านเปิดระหว่างเวลา 10.00-21.00 น. หยุดวันศุกร์ หากมีคำถามใดสอบถามได้ที่หมายเลข 0-7794-5232 หรือ 09-0170-7496

...

“หนมจีน ณ ภูเก็ต” แม้จะสัญจรมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง แต่เรื่องรสชาตินั้น ภาพคนแน่นร้านทุกๆวันนั้นเป็นคำตอบได้ดี.

“คุณชาย 2”